“ปวิน” ด่า “ส้นตีนค่ะ” “จอห์น-วิญญู” ไม่สนพวกเดียวกัน เหตุทะลึ่งมาแตะ “สิทธิ LGBT” หลัง “จอห์นวิญญู บอกว่า ถ้าสิทธิทั่วๆไปยังมาไม่ถึง สิทธิของ LGBT ก็ไม่น่าจะมาก่อน”... “จอม” เตือนแรง ต้านแบนกะทิ “อย่าคลั่งชาติ”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(10 ก.ค.63) Pavin Chachavalpongpun ของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ผู้ต้องหาหนีคดีมาตรา 112 โพสต์ข้อความระบุว่า
“อึ้งนะ อ่านที่จอนวิญญู บอกว่า ถ้าสิทธิทั่วๆ ไปยังมาไม่ถึง สิทธิของ LGBT ก็ไม่น่าจะมาก่อน จะเขียนใหม่ให้ดูดีกว่านี้นิดนึง คือถ้าสิทธิกว้างๆ ได้มาแล้ว สิทธิของพวก LGBT ก็มาเอง... ดิชั้นขอพูดหยาบๆ นะคะ ส้นตีนค่ะ ทำไมหรอ การเรียกร้องสิทธิทำไมต้องทำเป็นแพคเกจหรอ? คืออันใหญ่ไม่ได้ อันเล็กก็ไม่ต้องพูดถึงเหรอ ความจริงคือ มันไม่มีอันเล็กอันใหญ่ สิทธิคือสิทธิ ที่ผ่านมา LGBT ก็ถูกบีบมาตลอดแล้ว ตอนนี้เราอยากเรียกร้องสิทธิของเรา เสือกมี hetero male ที่แม่ง macho และ sexist มาชี้หน้าบอกกะเทยว่า ให้มึงรอก่อน เพราะสิทธิของชาวบ้านทั่วไปยังไม่ได้ แม่งพูดเหมือนกะเทยเป็นคนเช่าบ้าน เป็นของแปลก มึงต้องรอให้คนปกติได้สิทธิก่อน และมันถึงเป็นคิวของมึง ส้นตีนอีกทีค่ะ
ต่อมา เฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun โพสต์อีกว่า
“เป็นประชาธิปไตยแล้วมันต้องทนจนถูกกระทืบติดข้างฝาหรอ ทำไมเป็นประชาธิปไตยต้องทนคำเหยียดหยามด้วยหรอ รับความเห็นต่างได้เป็นเรื่องหนึ่ง แต่อะไรก็ตามที่ความเห็นต่างมันไม่ใช่เป็นตัวเลือก เช่น เผด็จการกับประชาธิปไตย มึงเห็นต่างไม่ได้ค่ะ เช่น เอา 112 กับไม่เอา 112 มึงเห็นต่างไม่ได้ค่ะ เช่น สิทธิเกย์ควรมีหรือไม่ มึงเห็นต่างไม่ได้ค่ะ
ไอ้ฝ่ายตรงข้ามเรามันย่อมเห็นต่างจากเราอยู่แล้ว แต่ไอ้ฝ่ายเดียวกันนี่สิ ที่เห็นต่างในประเด็นเหล่านั้น อาทิ สิทธิเกย์รอก่อน ประเทศอื่นยังไม่ได้ หรือ อย่าผลักดันนักการเมืองเกินไปให้เค้าชูเรื่อง 112 ที่เป็นคำพูดมาจากฝ่ายเราเอง
อันนี้ดิชั้นไม่ทน ไม่ใช่รับความเห็นต่างไม่ได้ แต่กูไม่ทนกับแอ๊ตติตู๊ดแบบนี้ค่ะ ถ้าไม่ทน ดิชั้นจะด่าแม่งกลับ หรือบล๊อคแม่ง จะได้ไม่ต้องมาสูดอากาศเดียวกันในโลกไซเบอร์”
ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ค.63 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยมีหลักการเพื่อให้กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ได้รับการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี
แต่พบว่า มีชาวทวิตเตอร์ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ได้ติดแฮชแท็ก #ไม่เอาพ.ร.บ.คู่ชีวิต จนติดอันดับ 1 ความนิยมในประเทศไทย อ้างว่า เป็นคนละฉบับกับที่พรรคก้าวไกลเสนอ
ปรากฏว่า ทวิตเตอร์ @johnwinyu ของ จอห์น-วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ พิธีกรฝีปากกล้า ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ขอไม่พูดเรื่อง LGBTQ ละนะครับ ดู sensitive กันมากจนน่าจะตีความเห็นผมคนละแบบ ก็เชิญด่าผมต่อไป ถ้าจะยังตีความคิดเห็นผมอย่างนั้น"
ซึ่งก่อนหน้านี้ จอห์น วิญญู กล่าวในรายการ Daily Topics เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า "ถ้าสิทธิของคนทั่วๆ ไปยังไม่มาเนี่ย สิทธิของ LGBTQ+เนี่ยไม่น่าจะมาก่อน" "หรือไม่จริง" ทำให้ชาวเน็ตที่เป็นกลุ่ม LGBTQ ต่างไม่พอใจแนวคิดของจอห์นอย่างมาก... รวมทั้ง “ปวิน” ด้วย
อันนี้ก็แทบจะถอดความคิดมาจาก ส.ส.ก้าวไกล ที่ยกเรื่อง “สิทธิลิง” มาโหนกระแสเข้าข้างฝรั่งแบนกะทิไทย จนทำเอาคนด่ากันทั้งโซเชียล กรณีเฟซบุ๊ก Jom Petchpradab ของ นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ผู้ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา โพสต์หัวข้อ "แบนกะทิไทย" อย่าตอบโต้เพราะความรู้สึก "คลั่งชาติ"
เนื้อหาระบุว่า "แบนกะทิไทย" ได้เวลาสังคมและภาคอุตสาหกรรมไทย ตระหนักถึง สิทธิ สวัสดิการ และสวัสดิภาพสัตว์ในกระบวนการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด - อาจจะเป็นความสุดโต่ง แต่เมื่อภาคธุรกิจยุคใหม่ที่ไม่ได้แข่งขันกันเฉพาะเรื่องคุณภาพสินค้าอีกต่อไป แต่เพิ่มจิตสำนึกด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิสัตว์ ความเป็นธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อมเข้ามาด้วย จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้...
ห้ามพลาด ฟังนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ชี้การใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาสเพื่อการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยให้ยั่งยืนในตลาดโลกได้อย่างไร คืนวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคมนี้ สี่ทุ่มเป็นต้นไป ไลฟ์สดทางเฟสนี้ และทางยูทูป Jomvoice Channel ...
แน่นอน, ทั้งสองโพสต์ที่หยิบยกมา มันเป็นคนละเรื่อง แต่ที่เชื่อมกันได้ ต่อกันติดก็คือ เรื่อง สิทธิ LGBT ที่ “ปวิน” ด่า “จอห์น-วิญญู” นั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พรรคก้าวไกล ที่เสนอ ร่างพ.ร.บ.นี้ด้วย แต่คนละเนื้อหากับที่ผ่าน ครม. นั่นเท่ากับว่า สิ่งที่ “จอห์น-วิญญู” ยังไม่เห็นด้วย ก็เพราะว่า มันไม่ใช่ร่างพ.ร.บ.ของพรรคการเมือง ที่ตนเป็น “ติ่ง” อยู่นั่นเอง
ขณะที่ “ปวิน” นางเคยออกมาประกาศตนแล้วว่า ไม่สังกัดพรรคการเมือง แม้ในอดีตจะเคยเป็นสาวกพรรคเพื่อไทย และศรัทธาอดีตพรรคอนาคตใหม่มาก่อนก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงอุดมการณ์ทางการเมือง ก็ยังถือเป็นฝ่ายเดียวกัน
ทว่า งานนี้ที่ไม่ทน ก็เพราะว่า “จอห์น วิญญู” ไปแตะ “สิทธิ LGBT” ของนางเข้านั่นเอง
ส่วนเรื่อง โหนกระแส “สิทธิลิง” ของฝ่ายนี้ ถ้ามองแนวทางต่อสู้ มาตั้งแต่ส.ส.พรรคก้าวไกลคนหนึ่ง ออกมาโพสต์ เรื่องราวเรียกร้องสิทธิลิง พร้อมเสนอทางออก โดยการปรับเปลี่ยนทิศทางอุตสาหกรรมและการค้าใหม่ โดยเฉพาะที่มีคู่ค้าเป็นต่างประเทศ ให้คำนึงถึงด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิสัตว์ ความเป็นธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม เหมือนอย่างที่ “จอม” นำเสนอทุกประการ
นั่นอาจหมายถึง อะไรก็ตามที่เริ่มมาจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นเสมือนร่างทรงของคณะก้าวหน้า จะไม่เห็นด้วย และ “ติ่ง” ก็จะออกมาแสดงตนคัดค้านด้วยเช่นกัน
และอะไรก็ตาม ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล แต่มีประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ช่วยแก้ไข ช่วยทำความเข้าใจ อย่างกรณีกะทิไทยถูกแบน เพราะมีการให้ข้อมูลที่บิดเบือน ฝ่ายนี้ก็จะหาเรื่องมาโจมตีให้ได้ และชิงเสนอทางออกที่พยายามจะโชว์กึ๋นในการแก้ปัญหา ต่อให้สร้างความเสียหายให้กับประเทศแค่ไหน ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญมากกว่าได้เล่นเกมการเมือง ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นมาตลอดอยู่แล้ว ไม่เชื่อลองสังเกตให้ดีก็จะเห็นเอง
อย่างการคัดค้าน ต่อต้านการแบนกะทิไทย ที่ถูกตีความว่า ได้มาจากการทารุณกรรมลิง ทารุณกรรมสัตว์ เมื่อมีคนออกมาให้ข้อมูลอย่างล้นหลาม ว่าไม่จริง ใช้ลิงเก็บมะพร้าวแค่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และก็ไม่ได้ทารุณกรรมลิงแต่อย่างใด มันเป็นวิถีวัฒนธรรมชุมชน ถามจริง มันคลังชาติตรงไหน? นี่คือ ตัวอย่างที่พยายามเบี่ยงเบนประเด็น และบังอาจกล่าวหาคนไทยด้วยกันเองว่า “คลั่งชาติ”