xs
xsm
sm
md
lg

ดรามาใครจ้าง “ฌอน” ปูดตัวละครลับ “พ.ต.อ.” มาช่วย “แม่บิ๊กอาย” และบริษัทออแกไนซ์โผล่พัวพัน “นฤมล” **เมื่อสังคมตื่นตัวกับเรื่อง “อมเงินบริจาค” ทำเอาโซเชียลฯลุกเป็นไฟ เมื่อ “บุญเกื้อ” ท้าชน “ช่อ” ใครจะต้องไปศาลในฐานะโจทก์ หรือจำเลย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว


**ความจริงยังไม่เปิดเผย แต่ดรามาใครจ้าง “ฌอน” ปูดตัวละครลับ “พ.ต.อ.” มาช่วย “แม่บิ๊กอาย” และบริษัทออแกไนซ์โผล่พัวพัน “นฤมล” จนโบ้ยกันนัว กลายเป็นศึกแย่งชามข้าวงบพีอาร์ในพรรคซะงั้น

ชาวโซเชียลฯ ที่ติดตามดรามา “ฌอน บูรณะหิรัญ” นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ หรือไลฟ์โค้ชชื่อดัง โดยมีแฟนคลับติดตามโซเชียลมีเดียหลายล้านคน แต่หลังจากกรณี “ฌอน” โพสต์คลิปชม “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ไปเป็นประธานปลูกป่าที่เชียงใหม่ ซึ่ง “ฌอน” เข้าร่วมกิจกรรมด้วยว่าเป็น “ผู้ใหญ่ที่น่ารัก” จนทัวร์ลง แฟนเลิกติดตามเป็นล้านในเวลารวดเร็ว โดยทิ้งปมประเด็นไว้ว่า ใครคือผู้ว่าจ้างไลฟ์โค้ชให้ไปร่วมงาน

นั่นเพราะ “ฌอน” ที่เป็นอินฟูเอนเซอร์ตัวท็อปในวงการโซเชียลมีเดีย จะไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร หากไม่มีเรื่องการว่าจ้างให้ไปทำสื่อ ประชาสัมพันธ์ หรือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับภาพลักษณ์ของ “ลุงป้อม” ก่อนจะรับเป็นหัวหน้าพรรค พปชร. โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของ “แม่บิ๊กอาย” ซึ่งถนัดงานพีอาร์ และประชาสัมพันธ์ สร้างภาพลักษณ์ จัดให้เอาใจลุง

ว่ากันว่า การตลาดปรับภาพลักษณ์ของลุงป้อม ก็เป็นเรื่องปกติก็เหมือนสินค้าทั่วไปที่ต้องทำโฆษณาสื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้... บังเอิญว่ากรณีนี้เกิดผลในทางลบมิหนำซ้ำ “ฌอน” ยังโดนขุดคุ้ยในเรื่องเงินบริจาคอีก เลยไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะกลัวจะเปลืองตัว แม้แต่ “แม่บิ๊กอาย” ก็ยังหลบฉาก

ฌอน บูรณะหิรัญ
ดรามาล่าสุดปรากฏตามข่าวที่แพร่สะพัดจากเชียงใหม่ โดย “พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน” ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สั่งกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้สอบสวนว่า “ฌอน” เข้าไปร่วมกิจกรรมการปลูกป่าได้อย่างไร โดยมีบุคคล หรือหน่วยงานใดทำการว่าจ้าง หรือพาเข้าร่วมกิจกรรมหรือไม่

ผู้บังคับการ บอกว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า “พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์” รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ที่พา “ฌอน” เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และรัฐบาล รวมทั้งหน่วยงานอื่นแต่อย่างใด

คล้ายๆ เรื่องดรามาของฌอน จะถูกตัดจบด้วยการหาคนมารับแทน “แม่บิ๊กอาย” ได้แล้ว ... แต่จู่ๆ ตัวละครลับอย่าง “พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์” รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กลับมาโต้ในภายหลังว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้อง หรือเป็นคนพา “ฌอน” ไปร่วมกิจกรรมแต่อย่างใด โดยต่างคนต่างไปพบกันในงานดังกล่าว ซึ่งเท่าที่ทราบ “ฌอน” ไปกับเอกชนรายหนึ่ง แต่ไม่เกี่ยวกับตัวเอง

สรุปว่า ปฏิเสธไปอีกราย ซึ่งน่าคิดและสืบต่อไปว่า จริงๆ แล้วเป็นเอกชนรายใดที่ว่าจ้างฌอนมา!!

อนุชา นาคาศัย
ก่อนที่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวจะปรากฏ ก็มีรายงานข่าวจากสื่อใหญ่ค่ายบางนา ผ่านการวิเคราะห์ข่าวเปิดสัมพันธ์ “บ.ก๊อท อิท” เกิดจาก “เสี่ยแฮงค์” ต่อยอดกับ “นฤมล” ต้องสงสัยว่าจ้าง “ฌอน”

โดยว่า เบื้องหลังการจ้าง “ฌอน” ไปร่วมงานเดียวกับ “ลุงป้อม” เป็น บ.ก๊อทอิท “ออแกไนเซอร์” ที่ “ผูกขาด” งานกับพรรคพลังประชารัฐ มาตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และเป็นทีมเดียวกับที่ได้รับภารกิจ “รีแบรนด์” พล.อ.ประวิตร

ไม่เพียงเท่านั้น ยังปูดด้วยว่า “ออแกไนเซอร์” เจ้าที่ว่านี้ มาในสายของ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท เลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน สืบโยงไปถึงเอกชนรายนี้ยังได้ร่วมงานกับ “อาจารย์แหม่ม ”นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกรัฐบาลด้วย

สื่อค่ายบางนา จึงชี้เป้าว่า “ออแกไนเซอร์” รายนี้ น่าเชื่อได้ว่าเป็นคนทุ่มจ้าง “ฌอน บูรณะหิรัญ” มาช่วยรีแบรนด์ “ลุงป้อม” นั่นเอง

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
จริงหรือไม่ยังไม่พิสูจน์แน่ชัด แต่ก็แว่วมาจากสายของ “เสี่ยแฮงค์” ร้องโอ๊กขึ้นมาว่า ค่ายบางนาจงใจโยงแบบนี้ มีเลศนัยอะไรหรือไม่ ? จนอดตั้งคำถามว่า มันน่าจะเป็นเรื่อง “แย่งชามข้าว” กัน ระหว่าง “ทีมเสี่ยแฮงค์” กับ “ทีมมาดาม” เกี่ยวกับความรับผิดชอบงานด้านประชาสัมพันธ์ของพรรค ที่เดิมช่วงหาเสียงเลือกตั้งแรกๆ นั้น “ทีมเสี่ยแฮงค์” ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองมากกว่า ได้รับมอบหมายให้ดูแลเป็นหลัก ก่อนที่ “ทีมมาดาม” จะแทรกตัวมาแบ่งงานไปบางส่วน แต่ก็มีโอกาสสูงว่าจะวืดลงไปอีก เพราะเมื่อ “เสี่ยแฮงค์” ผงาด นั่นย่อมหมายถึงงานประชาสัมพันธ์สร้างภาพ ทีมเสี่ยแฮงค์จะกุมไว้ ... พอสบช่องเรื่อง “ฌอน” ขึ้นมา จึงถือโอกาสกระซวก “ทีมเสี่ยแฮงค์” หวังดึงงานกลับมาดูแล มันก็เป็นไปได้อีกเช่นกัน

เอาเป็นว่า เรื่องใครจ้างฌอน ยังไม่จบ เพราะยังไม่รู้ว่าใครจ้าง ตามล่าหาความจริงกันต่อไป

แน่ๆ ความเคลื่อนไหววันนี้ชี้ว่า เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งอย่างงบพีอาร์ ในพรรคยังฟาดฟันกันขนาดนี้ หากปรับ ครม. นี่จะขนาดไหน

เชื่อเถอะ ศึกแย่งชามข้าวใน พปชร. ยังมีอีกเยอะ ติดตามต่อกันยาวๆ เป็นมหากาพย์ได้เลย

** เมื่อสังคมตื่นตัวกับเรื่อง “อมเงินบริจาค” ทำเอาโซเชียลฯลุกเป็นไฟ เมื่อ “บุญเกื้อ” ท้าชน “ช่อ” ใครจะต้องไปศาลในฐานะโจทก์ หรือจำเลย

พรรณิการ์ วานิช
กรณีดรามา “อมเงินบริจาค” ที่ “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ชชื่อดังกำลังถูกสังคมไล่บี้ ได้เกิดกระแสตามล่าเงินบริจาค ต่อเนื่องไปถึง “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวไกล ที่ไม่นานมานี้เคยประกาศขอรับบริจาคเงิน เพื่อนำไปบริจาคต่อให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก เป็นการเกทับรัฐบาล ที่ขณะนั้นจ่ายเงินเยียวยาล่าช้า

เงินบริจาคร้อนลวกมือ “ช่อ” เมื่อ “บุญเกื้อ ปุสสเทโว” อดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จ.กาญจนบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า... มหกรรมตามล่าเงินบริจาค 7.2 ล้านบาท ยังคงมีความสนุกสนานเร้าใจไม่รู้จบ เมื่อคุณช่อ และคณะก้าวหน้า ได้พาสังคมไทยมาสู่ยุคตามล่าความจริง จึงมีผลให้ความลับเรื่องเงินบริจาคของโครงการเมย์เดย์เมย์เดย์ ของคณะก้าวหน้าไม่อาจเก็บซ่อนไว้ ต้องถูกขุดคุ้ยไปด้วย

...ดังนั้น เพื่อจะกลบเกลื่อนความผิดเรื่อง “อมเงินบริจาค” คณะก้าวหน้าจึงใช้สื่อในเครือข่าย ปล่อยบัญชีรายชื่อของคนที่อ้างว่าได้รับเงิน 3,000 บาทครบถ้วนไปแล้ว แต่ทว่า...อาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ...เมื่อสังเกตดูตามรายชื่อแล้วก็พบพิรุธมากมาย เช่น มีรายชื่อเดียวซ้ำกันเป็นชุด ซึ่งคงเกิดจากความขี้เกียจแต่งชื่อของทีมงานนั่นเอง และ เมื่อมีการนำชื่อ นามสกุล ตามบัญชีนั้นไปตรวจสอบตัวตน ตามทะเบียนราษฎร กระทรวงมหาดไทย กลับไม่พบว่ามีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้แต่อย่างใดทั้งนั้น ...

บุญเกื้อ ปุสสเทโว
โพสต์นี้ทำเอาโซเชียลฯร้อนฉ่า โดยเฉพาะเมื่อ “ช่อ” ได้ออกมาตอบโต้ผ่านทวิตเตอร์ ว่า... “อย่ามั่ว! คณะก้าวหน้าเราโปร่งใส ตรวจสอบได้ รายชื่อที่ลงไว้ก็เป็นชื่อบัญชีผู้รับโอนจริง หากคุณมีหลักฐานว่าตรวจสอบชื่อในทะเบียนราษฎรแล้วไม่พบ หรือพบชื่อซ้ำซ้อนกัน หรือมีหลักฐานว่า เราอมเงิน ก็เอามาแสดงด้วย และหากไม่ขอโทษ-ลบโพสต์ ภายใน 24 ชั่วโมง เจอกันที่ศาลค่ะ ”...

ความจริงแล้ว “ช่อ” ที่บอกว่าตนเองเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ที่เน้นเรื่องสิทธิ เสรีภาพ การทำงานตรวจสอบได้ ที่ผ่านมา ก็มักจะเล่นบทตรวจสอบคนอื่น ...แต่เมื่อตนเองถูกสังคมตรวจสอบเข้าบ้าง แทนที่จะแสดงออกถึงความบริสุทธิ์ โปร่งใส นำหลักฐาน มายืนยันความถูกต้อง แต่นี่กลับขู่จะฟ้อง !!

แต่ “บุญเกื้อ” ยังโพสต์สวนกลับไปอีกว่า “ผมจะไม่ลบโพสต์ มหกรรมตามล่าเงินบริจาค 7 ล้าน 2 ออกแน่นอน จนกว่าจะจับคนที่อมเงินบริจาค มาล้วงคอเอาเงินออกมาโอนให้ราษฎร รายละ 3,000 ครบถ้วน”

ถัดมาอีกวัน (1 ก.ค.) หมายถึงพ้น 24 ชั่วโมง ที่ “ช่อ” ขีดเส้นตายว่าต้องลบโพสต์และต้องขอโทษ ...แต่ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... “บุญเกื้อ” ก็ยังคงออกมาโพสต์ทวงถาม แถมท้าทายสำทับไปว่า... “เวลาก็ล่วงเข้าสู่วันที่สองของการประกาศศึกอมเงินบริจาคแล้ว “คุณช่อ” ก็ยังคงแอบซุ่มเงียบอยู่... ผมจะต่อเวลาให้อีก 6 วัน ให้เธอไสช้างออกมา...มิเช่นนั้น วันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ผมจะไล่ล่าเธอเอง”

สมชัย กตัญญุตานันท์
คราวนี้ โซเชียลฯลุกเป็นไฟ... มีการคอมเมนต์ตอบโต้ของทั้งสองฝ่าย ต่างฝ่ายต่างเรียกร้องให้หาหลักฐานมายันกัน ...ถ้าโอนจริงก็เอาหลักฐานการโอนมาแสดง ... ถ้าใครที่ได้รับเงินจาก “ช่อ” ไปแล้วก็ช่วยออกมาแสดงตนพร้อมนำหลักฐานการรับเงินโอนมาแสดงด้วย ...

ขนาด “ชัย ราชวัตร” สมชัย กตัญญุตานันท์ การ์ตูนนิสต์ชื่อดัง ก็ยังโดดมาร่วมแจม... เปรียบเปรยทำนองว่า ดูก็รู้ว่า “ช่อ” เล่นโป๊กเกอร์ไม่เป็น แต่ยังอยากเล่น เกทับบลัฟแหลก พอโดนเกกลับ ทิ้งไพ่หลบทันทีไม่มีขอดู...พูดง่ายๆ ว่า “ช่อ” ยังอ่อนเชิง ไปลักไก่ให้ถูกเขาจับไต๋ได้

เรื่องเงินบริจาค กรณีของ “ช่อ” นี้กำลังเป็นที่จับจ้องของสังคม รอว่าจะมีการนำหลักฐานมาแสดงถึงความบริสุทธิ์ โปร่งใส หรือไม่ หากยังปล่อยให้ อึมครึมเช่นนี้ มีเค้าว่ากระแสจะตีกลับ แทนที่ “ช่อ” จะได้ไปเจอกับ “บุญเกื้อ” ที่ศาล ในฐานะโจทก์ ก็อาจต้องไปศาลในฐานะจำเลยก็เป็นได้ !!



กำลังโหลดความคิดเห็น