xs
xsm
sm
md
lg

แหม่มไม่ได้จ้าง “ลุงตู่” สั่งสอบแล้วไม่มี “ลุงป้อม” ก็ไม่รู้จัก ถ้างั้น “ฌอน” มาได้ยังไง ช่วยไขคำตอบที! ** โหร คมช.นั่งทางในเห็นภาพนิมิต “ลุงตู่” ปรับใหญ่ ครม.จบภายในเดือนนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** แหม่มไม่ได้จ้าง “ลุงตู่” สั่งสอบแล้วไม่มี “ลุงป้อม” ก็ไม่รู้จัก ถ้างั้น “ฌอน” มาได้ยังไง ช่วยไขคำตอบที! และความจริงอีกด้านของ “นฤมล” โปรไฟล์หรู ไม่ตรงปก?

กรณีการจัดโครงการรวมใจไทยปลูกต้นไม้ที่ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน ที่บริเวณป่าดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ โดยมี “ฌอน บูรณะหิรัญ” นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ หรือไลฟ์โค้ชชื่อดัง ร่วมงานทำสื่อออกเผยแพร่ในลักษณะ CSR จนเกิดดรามา เมื่อ “ฌอน” ชมลุงป้อมว่าเป็น “ผู้ใหญ่ที่น่ารัก”

ตอนนี้ “ฌอน” ตกเป็นจำเลยของชาวโซเชียลฯ ขณะที่กิจกรรมดังกล่าวก็ไม่มีใครแอ่นออกมารับเผือกร้อน กองทัพบกเจ้าของพื้นที่ก็ว่าไม่ใช่... “ลุงป้อม” ก็ว่าไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าอินฟลูเอนเซอร์ตัวท็อปของวงการ

ขณะที่ชาวโซเชียลฯ พากันสงสัยว่าใครจ้างไลฟ์โค้ชคนดังมา ถามทาง “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” โฆษกรัฐบาลวันก่อนก็เดินหนีไปเฉยๆ แล้วค่อยก็มาว่าไม่ได้จ้างทีหลัง

เผือกร้อนโยนมาถึง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงสั่งให้ตรวจสอบ เช็กแล้วก็ว่ารัฐไม่ได้จ้าง “ฌอน” มาพีอาร์ลุงป้อมแน่

ถ้าอย่างงั้น “ฌอน” มาได้ยังไง? หรือว่าไลฟ์โค้ชจะมาเอง จู่ๆ ฌอนคงไม่ได้นึกสนุกลุกขึ้นมาทำสื่อ CSR แบบนี้ และคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
คนในแวดวงพีอาร์-CSR รู้กันดีว่า ปกติค่าตัว “ฌอน” ก็ต้องมี ...จัดคอร์ส จัดกิจกรรม พูดทีก็มีค่าใช้จ่าย ด้วยความที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ตัวท็อป มีแฟนคลับติดตามเพจและช่องทางโซเชียลฯ อื่นๆ หลายล้านคน ย่อมต้องมีราคาค่างวด ค่าตอบแทนเป็นของธรรมดา

เมื่อคนนั้นคนนี้ต่างบอกว่าไม่รู้จัก ไม่ได้จ้าง “ฌอน” เลย จึงไม่เข้าใจคำถามง่ายๆ ในโปสเตอร์โปรโมตทำโฆษณา โครงการ CSR ปลูกป่ายังมีภาพของ “ฌอน” เป็นหนึ่งในนั้น ชักชวนให้ไปร่วมปลูกป่าร่วมกับดาราคนอื่นๆ ได้อย่างไร แล้วจ้างมาหรือเปล่า? ใครช่วยขานไขที

งานนี้คงไม่จบง่ายๆ แน่ ซึ่ง ดรามา “ฌอน” ชม “ลุงป้อม” ก็ต้องย้อนมาพูดถึง “อาจารย์แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ คนที่เดินตามลุงป้อมเป็นเงา ด้วยความสนิทสนมใกล้ชิด และชอบทำอะไรให้ลุงป้อมแทบทุกอย่าง ในช่วงหลังๆ ก่อนที่ลุงจะรับเป็นหัวหน้าพรรคดังกล่าว จึงคิดกันว่าอาจารย์แหม่มจะเกี่ยวพันเป็นตัวละครรู้เรื่องนี้ดีหรือไม่

ต้องบอกว่า “นฤมล” วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวันวาน ผลงานโฆษกฯ ทำมานานปีเป็นยังไงไม่ต้องถามถึง...เงียบกริบ แต่ตอนนี้คนรู้จักมากขึ้นในฐานะมือเศรษฐกิจ พปชร. ที่ว่ากันว่ากำลังตะกายดาว ฝันหวานไปถึงตำแหน่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ

วันก่อนเธอเพิ่งให้สัมภาษณ์ว่า เธอมีความรู้ความสามารถด้านการเงินการคลัง เพราะสอนหนังสือก็สอนวิชาในด้านนี้ นอกจากสอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ถ้าสายงานวิชาการก็ทำจนเป็นศาสตราจารย์ นอกเหนือจากงานวิชาการ งานวิจัยที่มากมาย สุดจะพรรณาได้หมดในเวลาสั้นๆ

พอ “อาจารย์แหม่ม” ว่ามา ก็มีคนวงในมหาวิทยาลัยเมาท์มอยกันว่าจริงหรือ? เท่าที่รับรู้รับทราบกัน คือ เธอเคยสอนอยู่ 2 วิชา คือ การบริหารความเสี่ยง กับวิชาอนุพันธ์ทางการเงิน แม้แต่วิชาด้าน Investment (smiley face) หรือ corporate finance ซึ่งเป็นวิชาหลักด้านการเงินก็ไม่เคยเห็นอาจารย์แหม่มสอนมาก่อนเลย

ฌอน บูรณะหิรัญ
ส่วนตอนขอตำแหน่ง ศ. ก็มีร่ำลือกันว่า กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้ความเห็นว่างานวิจัยของเธออยู่ในข่าย self plagiarism ซึ่งเธอก็ต่อสู้ว่า self plagiarism ไม่ใช่ plagiarism แต่เป็นความไม่สมบูรณ์ในการทำ citation เท่านั้น ตอนนั้นเพื่อนอาจารย์ก็สงสัยว่างานของตัวเองก็ไม่น่าจะผิดพลาดอะไรเบอร์นั้น

นั่นจึงเป็นตำนานที่เล่าขานในหมู่คณาจารย์ว่า “นฤมล” นอกจากสอนหนังสือ ความสามารถพิเศษยังเป็นนักวิ่งมาราธอน ใช้เวลานานประมาณ 2 ปี คณะกรรมการถึงยอมให้ผ่าน

นี่ถ้าเป็น พ.ศ.นี้ เกณฑ์ใหม่ที่ อว.ประกาศใช้ มีคนมาวิเคราะห์กันว่าถ้า “ศ.นฤมล” เธอมาขอตำแหน่ง ศ.ในตอนนี้ อาจจะยากมากถึงมากที่สุด หรือปรามาสว่าไม่มีทางผ่าน เพราะคุณภาพงานต่ำกว่ามาตรฐาน (มาก)

ด้านประสบการทำงาน แมงหวี่แมลงวันในตลาดหลักทรัพย์ยังพากันซุบซิบบอกอีกว่า ประสบการณ์ที่ “อาจารย์แหม่ม” ว่าเป็นที่ปรึกษาของตลาดหลักทรัพย์มา 10 ปีนั้น มันคือเป็นที่ปรึกษาด้านบริหารความเสี่ยงของบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) บริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์ ทำงานเฉพาะด้านบริหารความเสี่ยง ไม่ใช่หรา?

สรุปง่ายๆ จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ว่ากันว่าคือเธอจะ claim ทุกอย่างว่าเป็นความสามารถของเธอ แม้แต่เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เมื่อช่วงหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ เธอก็อ้างว่าเป็นผลงานของเธอ ตอนที่เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง

เรื่องเมาท์มอยชวนให้วิเคราะห์กันเอาเอง ก็เอวังด้วยประการฉะนี้

นี่เรียกว่าโปรไฟล์หรูไม่ตรงปกหรือเปล่างานนี้?

** โหร คมช.นั่งทางในเห็นภาพนิมิต “ลุงตู่” ปรับใหญ่ ครม.จบภายในเดือนนี้ ไม่โละทีมเศรษฐกิจชุดเดิม แค่หาคนดีมีฝีมือมาเสริมทัพ รับประกันไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ
หลังจาก “กลุ่มสี่กุมาร” ต้องหลุดจากคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐกันไปทั้งยวง ทำให้มีการคาดหมายว่า ในการปรับ ครม.ที่จะถึงนี้ ทั้ง “อุตตม สาวนายน” รมว.คลัง และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รมว.พลังงาน รวมทั้ง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ก็คงต้องหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีไปด้วย เพราะสองกระทรวงนี้ แกนนำ “กลุ่มก่อการยึดพรรค” หมายมั่นปั้นมือที่จะเข้ามายึดครอง อีกทั้งการคุมทีมเศรษฐกิจ ย่อมมีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการ “งบ 4 แสนล้าน” ที่จะใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

“อนุชา นาคาศัย” เลขาธิการพรรคคนใหม่จึงจัดการ “โยนหินถามทาง” ว่าจะให้ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” โฆษกรัฐบาลที่รั้งตำแหน่งเหรัญญิกพรรค มาคุมทีมเศรษฐกิจ ... เท่านั้นเองเสียง “ยี้” ก็ดังระงม หุ้นแดงทั้งกระดาน จนต้องรีบออกมาแก้ตัวกันพัลวันว่าแค่จะให้มาอยู่ในทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อทำนโยบายเสนอรัฐบาลเท่านั้น ไม่ใช่มาคุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล

สำหรับ “อุตตม-สนธิรัตน์” นั้น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผลโพลยังระบุว่าเป็นรัฐมนตรีที่ “ได้ใจ” ประชาชน จากผลงานการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ลดค่าน้ำ ค่าไฟ ก๊าซหุงต้ม... แล้วนายกฯ ลุงตู่คิดยังไง จะยอมถูกกลุ่มอำนาจใหม่ในพรรค พปชร.บีบให้ปลดจากนำแหน่งหรือไม่ ...มีการคุยกันหรือยัง

เมื่อนักข่าวนำเรื่องนี้ไปถาม “ลุงตู่” ก็ได้รับคำตอบว่า “คุยเรื่องอะไร ท่านก็ทำงานอยู่กับผมดีมาตลอด และก็มีการสั่งงานในห้องประชุม แล้วทำไมต้องคุย” ... ส่วนที่มีข่าวว่า “นฤมล” จะขึ้นลิฟต์มาเป็นรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ “ลุงตู่” ก็บอกว่านั่นเป็นเรื่องในพรรค ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล...

ฟังคำพูดของ “ลุงตู่” ก็พอจะเห็นทิศทาง ถึงจะไม่ชัดเจนแบบฟันธง เพราะตามมารยาทและธรรมเนียมปฏิบัติในการปรับ ครม. ใครจะอยู่ใครจะไปก็ต้องรอให้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย และได้รับการโปรดเกล้าฯ ลงมานั่นจึงจะเป็นคำตอบสุดท้าย

อุตตม สาวนายน - สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
เรื่องอย่างนี้ แม้ “ลุงตู่” จะพูดไม่ได้ แต่ก็มีคนที่พูดแทนได้ คนนั้นคือ “โหร คมช.” วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ ซึ่งทุกครั้งที่การเมืองมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ อย่างเช่นเรื่องยุบสภาหรือไม่ ใครจะมาเป็นรัฐบาล ใครจะมาเป็นนายกฯ การปรับ ครม.หน้าตาจะเป็นอย่างไร “โหรวารินทร์” มักจะออกมาเป็นผู้ฉายภาพ ชี้ทิศทางอยู่เสมอ

ครั้งนี้ก็เช่นกัน โหรวารินทร์ บอกว่าจากการนั่งทางใน ผ่านภาพนิมิตจากหลวงปู่เกวาลัน แห่งเทือกเขาหิมาลัย เห็นว่า “ลุงตู่” จะนั่งเก้าอี้นายกฯ ไปจนครบเทอม เพราะรับหน้าที่มาตอบแทนคุณแผ่นดิน ประชาชนให้การยอมรับว่านายกฯ คนนี้ดีที่สุด ไม่มีการเปลี่ยนตัวเด็ดขาด! ...“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ยังคงร่วมกันทำงานต่อไป

ส่วนเรื่องปรับ ครม.จะมีการปรับใหญ่หลายตำแหน่ง ใครทำงานไม่เข้าเป้าก็เอาออก มีการสลับกระทรวง ดึงคนดีมีฝีมือเข้ามาเสริมทัพ และจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ก.ค.นี้ ไม่มียืดเยื้อ ...ฟันเปรี้ยงว่า “ไม่มีการโละทีมเศรษฐกิจ” อย่างที่มีกระแสข่าว คนที่คิดว่าจะหลุดก็ไม่หลุด ถ้าไม่มีทีมเศรษฐกิจชุดปัจจุบัน “รัฐบาลพัง” แน่นอน.. ส่วนปัญหาเศรษฐกิจจะไม่หนักไปกว่านี้เพราะได้ผ่านภาวะที่หนักมากมาแล้ว หลังจากนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีแต่จะดีวันดีคืน

“ถ้าปรับทีมเศรษฐกิจชุดปัจจุบัน เท่ากับเปลี่ยนม้ากลางศึก ที่ผ่านมาการทำงานทุกอย่างก็ราบรื่น ประเทศไทยเผชิญทั้งภาวะวิกฤตโรคโควิด และวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นทั่วโลก ผ่านพ้นได้มาถึงเวลานี้ถือว่าสุดยอด กลุ่มการเมืองจะเอาโควต้า กลุ่มนั้น กลุ่มนี้ เป็นพวกที่มีปัญหาตั้งแต่ต้น จะมากดดันไม่ได้ เพราะโควตาของท่านนายกฯ มีอยู่ในมืออยู่ ท่านมีอำนาจที่จะพิจารณาคนเข้ามาเสริมทัพรัฐบาล การปรับเปลี่ยนเที่ยวนี้ นายกฯ ดูอย่างดี มอบงานถูกคน รับรองไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง”

เรื่องราวที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ไม่ใช่เป็นการทำนาย แต่เป็นภาพนิมิตที่ “โหร คมช.” เห็นมา ... ส่วนภาพจริงที่เกิดขึ้นในอนาคตจะเป็นเช่นไร ต้องติดตาม!




กำลังโหลดความคิดเห็น