xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งปากน้ำมันหยด วัดเพาเวอร์ ลุงป้อม !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
เมืองไทย 360 องศา


แย้มออกมาแล้วจากประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายอิทธิพร บุญประคอง ว่า การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสมุทรปราการ เขต 5 น่าจะมีขึ้นในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ได้มีคำวินิจฉัยให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยให้ใบเหลืองกับ นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก อดีต ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ จากสาเหตุการถูกร้องเรียนว่าคนใกล้ชิดไปมอบพวงหรีดและเงินใส่ซองช่วยงานศพจำนวน 1 พันบาท


แน่นอนว่า เมื่อมีการสั่งให้เลือกตั้งใหม่ก็ย่อมทำให้บรรยากาศทางการเมือง และการแข่งขันในพื้นที่ดังกล่าวมีความคึกคักขึ้นมาทันที เพราะหากพิจารณาจากความเป็นมา ก็ต้องยอมรับว่า การเลือกตั้งในจังหวัดสมุทรปราการมีความน่าสนใจมานานแล้ว โดยเฉพาะหากพิจารณากันถึงบรรยากาศการแข่งขันที่ดุเดือดร้อนแรงมาแทบทุกครั้ง

หากมองย้อนไปพื้นที่ในสมุทรปราการ กลุ่ม “อัศวเหม” ของนายวัฒนา อัศวเหม เคยยึดครองพื้นที่นี้มานาน จนกระทั่งเมื่อเกิดพรรคไทยรักไทย และต่อเนื่องมาจนถึงพรรคเพื่อไทย ก็ทำให้การแข่งขันดุเดือด แม้ว่าในระยะหลังฝ่ายพรรคเพื่อไทยจะสามารถครอบครองพื้นที่ในการเลือกตั้งได้หมดก็ตาม และหลังจากที่ นายวัฒนา ต้องหลบหนีคดี ก็ยิ่งทำให้แพ้ขาดมากขึ้น โดยสนามเลือกตั้ง ส.ส.ฝ่ายพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมา มักจะกวาดเรียบ แต่สำหรับสนามท้องถิ่นก็ยังถือว่าฝ่ายอัศวเหม หรือที่เรียกว่า “กลุ่มปากน้ำ” ก็ยังพอมีอิทธิพลอยู่บ้าง

จนกระทั่งมาถึงการเลือกตั้งล่าสุดที่ผ่านมา ที่มีการก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐขึ้นมา และรับรู้กันว่าตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และกลุ่มอัศวเหม ก็เข้าร่วมกับพรรคนี้ รวมไปถึง นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ที่เคยเป็นอดีต ส.ส.ในพื้นที่ ก็ย้ายมาสมทบและร่วมกลุ่มดังกล่าว และชนะเลือกตั้งได้เป็น ส.ส.พร้อมกับผู้สมัครในนามพรรคพลังประชารัฐ รวมแล้วถึง 6 เขต จาก 7 เขต ชนิดที่เรียกว่าเหนือความคาดหมาย โดยแพ้ให้กับพรรคอนาคตใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 4 เพียงเขตเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ดี หากโฟกัสกันเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 5 ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ก็ต้องบอกว่าน่าติดตามอย่างยิ่ง เพราะมีหลายองค์ประกอบทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่มาซ้อนกันในช่วงนี้พอดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคะแนนเสียงในอดีตของผู้สมัครของแต่ละคนใน 3 พรรคสำคัญ ตั้งแต่พรรคพลังประชารัฐ ที่ชนะเลือกตั้งได้ 41,745 คะแนน นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ จากพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.3 สมัย ได้ 33,007 คะแนน และ นายตรัยวรรธน์ อิ่มใจ ผู้สมัครจากอดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้ไป 31,430 คะแนน เมื่อได้เห็นคะแนนแล้ว ถือว่าห่างกันไม่มาก

ที่น่าจับตาก็คือ หากสองพรรคฝ่ายค้าน คือ พรรคเพื่อไทย กับ พรรคก้าวไกล (พรรคอนาคตใหม่) จับมือกัน โดยหลีกทางให้อีกพรรคหนึ่ง มันก็มีโอกาสโค่นพรรคพลังประชารัฐในเขตนี้ได้ เพราะรวมคะแนนจากสองพรรคดังกล่าว มีกว่า 6 หมื่นคะแนนทีเดียว

แต่กลายเป็นว่าล่าสุด ไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เมื่อ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศว่าจะส่งผู้สมัครคนเดิมคือ นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ ลงสู้อีกครั้ง ขณะที่พรรคก้าวไกล ก็มีการเปิดเผยออกมาเช่นเดียวกันว่าจะขอล้างตาอีกครั้ง เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องบอกว่า สนุกแน่นอน

เพราะเมื่อพิจารณาจากองค์ประกอบของแต่ละพรรคแล้ว ต่างก็ถือว่าต้องการพิสูจน์บารมีของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ที่เหมือนกับเป็นไฟต์บังคับให้ต้องมาเร็วกว่าเดิม จากที่คาดว่าจะกำหนดยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งท้องถิ่นปลายปีนี้ ดังนั้น เมื่อมีรายการแบบนี้ก็ต้องกำหนดให้ “แพ้ไม่ได้”

ขณะที่ พรรคเพื่อไทย สำหรับ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค หลังจากที่ผ่านมาถือว่า “เสียรังวัด” ไปพอสมควร หลังจากพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมให้กับพรรคพลังประชารัฐ มาถึงสองครั้งรวด นั่นคือ ที่ขอนแก่น และล่าสุดที่ลำปาง แม้ว่าในที่สุดแล้วไม่ได้ส่งผู้สมัคร แต่นั่นก็ถือว่า “เสียหาย” ยิ่งกว่าแพ้เลือกตั้งเสียอีก เพราะไม่สามารถหาผู้สมัครได้ทัน หลังจากที่เจ้าของพื้นที่เดิมถอนตัวกะทันหัน คราวนี้ก็ขอล้างตาพิสูจน์ศักดิ์ศรี และเชื่อว่า น่าจะเป็นการจับมือผนึกกำลังกับขั้วของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคอย่างเต็มที่ เพราะมองเห็นว่าหากร่วมมือกันจริงๆ ก็พอมีโอกาสเหมือนกัน

สำหรับพรรคก้าวไกล ที่มั่นใจตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ยอมถอยเด็ดขาด เพราะเมื่อพิจารณาจากคะแนนผู้สมัครแล้วถือว่ามีลุ้น อีกทั้งก่อนหน้านี้ ก็มีการส่งสัญญาณมาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่ที่เริ่มรับรู้ว่าน่าจะต้องมีการเลือกตั้งซ่อมค่อนข้างแน่ ก็เริ่มเคลื่อนไหว เพราะหากยังจำกันได้เมื่อราวสองสามเดือนก่อน ที่มีการแจกเงินช่วยเหลือประชาชนของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่แม้ว่าจะอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้ทุกข์ยาก แต่หลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมต้องจำกัดวงเฉพาะในพื้นที่การเลือกตั้งเขต 5 สมุทรปราการเท่านั้น อีกทั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็คงต้องการพิสูจน์เหมือนกัน

เอาเป็นว่าการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสมุทรปรากการ เขต 5 ที่คาดว่า จะมีขึ้นในต้นเดือนสิงหาคม รับรองว่าดุเดือดแน่นอน เพราะคราวนี้มีการแข่งขันกันถึง 3 พรรค และแต่ละพรรคต่างก็มีเดิมพันสูง โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ที่ต้องพิสูจน์พลังให้เห็นก่อนกำหนด เพราะหากแพ้ก็เสียหาย เสียฟอร์ม แน่ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น