xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กแดง” จัดกิจกรรม “เชิดชู 2 ผู้นำกบฏบวรเดช” เป็นทหารประชาธิปไตยที่แท้จริง ซัด “คณะราษฎร” ทำรัฐประหารล้มราชบัลลังก์!! **“สิระ” ปลื้ม “น้ำตาจะไหล” พปชร.ยุคลุงนิวนอร์มัล ตบรางวัล ขึ้นชั้น “ทั่นประธาน” กมธ.กฎหมาย แทน ปิยบุตร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** “บิ๊กแดง” สวนกระแส 2475 จัดกิจกรรม “เชิดชู 2 ผู้นำกบฏบวรเดช” เป็นทหารประชาธิปไตยที่แท้จริง ซัด “คณะราษฎร” ทำรัฐประหารล้มราชบัลลังก์ !!

หลังจากที่โหมโรง สร้างกระแสกันมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “ขบวนการล้มเจ้า” หรือพวกที่มีทัศนคติในทางลบต่อสถาบันฯ ภายใต้เสื้อคลุมที่อ้างเป็น “ประชาธิปไตย” โดยคนกลุ่มนี้พยายามจัดกิจกรรมแสดงออก “ในเชิงสัญลักษณ์” ต่อต้านรัฐบาล ต่อต้านมาตรา 112 และต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

มีการยกเอาเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 35... “ตามล่าหาความจริง” จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อปี 52-53 จัดรำลึกเหตุการณ์วันครบรอบ 6 ปี ของการยึดอำนาจของ คสช.เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 รวมทั้งพยายามประโคมข่าวเรื่องการ “อุ้ม” วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหว ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อเร็วๆ นี้ รวมทั้งการเคลื่อนไหว บิดเบือน จาบจ้วงสถาบัน ในต่างประเทศ เป็นการปูทางหวังจะให้เกิดการชุมนุมใหญ่ในวันสำคัญ คือ วันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งถือว่าเป็นวันครบรอบ 88 ปี ของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่ “คณะราษฎร” ยึดอำนาจของพระมหากษัตริย์ เมื่อปี 2475

แกนนำของกลุ่มนี้ อย่าง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร แสงกนกกุล-พรรณิการ์ วานิช” ที่ต้องผันตัวเองมาเคลื่อนไหวในนาม “กลุ่มก้าวหน้า” ประกาศมาตลอดว่า จะสานต่อภารกิจของคณะราษฎรในอดีตให้สำเร็จให้ได้ โดยหวังปลุกระดมเด็กๆ คนรุ่นใหม่ มาร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนในการ “จุดไฟ” ครั้งนี้

และเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน เวียนมาถึง กลุ่มทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและกลุ่มพลเมืองโต้กลับ ก็เริ่มจัดกิจกรรม ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กันตั้งแต่ ตี 5

การจัดกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
พอช่วงสาย คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย คณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ และ กลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ก็ไปที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เกียกกาย จัดกิจกรรม “24 มิถุนาฯ ทวงคืนมรดกคณะราษฎร ทวงสัญญารัฐธรรมนูญประชาชน” มีการเปิดคำแถลงการณ์ของคณะราษฎร เมื่อปี 2475 นำอุปกรณ์จำลอง อาทิ หมุดคณะราษฎรจำลอง พานรัฐธรรมนูญจำลอง มาแสดง แจกสติกเกอร์ แจกธงเขียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ รณรงค์แก้รัฐธรรมนูญปี 2540 จนสำเร็จ พร้อมทั้งยื่นหนังสือต่อรัฐสภา ทวงถามความคืบหน้ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และขอให้ประกาศวันที่ 24 มิ.ย.ของทุกปี เป็น “วันชาติและวันกำเนิดประชาธิปไตยของไทย”...

ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ก็โหนกระแส “24 มิถุนาฯ” ด้วยเช่นกัน มีการจัดกิจกรรมเสวนาวิชาการ หัวข้อ “ทิศทางรัฐธรรมนูญไทย” ทั้ง “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรค “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค โภคิน พลกุล-ชัยเกษม นิติสิริ- วัฒนา เมืองสุข มากันครบ ...

เนื้อหาที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กัน ก็คือ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นรัฐธรรมนูญฉบับ “สอดไส้เผด็จการ” เขียนโดยเผด็จการ เพื่อยึดครองสิทธิ เสรีภาพของประชาชน ออกแบบให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ขัดขวางการเข้าสู่อำนาจของตัวแทนประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ต้องมาจาก ส.ส. อีกทั้งยังมีเสียง ส.ว. คอยสนับสนุนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จนทำให้การเมืองในระบอบประชาธิปไตย บิดเบี้ยว ส่งผลไปถึงความเชื่อมั่นจากต่างชาติ ซ้ำเติมให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจ ...ดังนั้น ต้องแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้

 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์
วาระของ “24 มิถุนาฯ” ปีนี้ ของบรรดากลุ่มการเมือง ที่อ้างตัวว่าเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” จึงพุ่งเป้าไปที่การแก้รัฐธรรมนูญเป็นหลัก !!

แต่ที่สร้างความฮือฮาแบบไม่ต้อง “โหมโรง” กันมาก่อน ก็คือ การเคลื่อนไหวของฝ่ายทหาร เมื่อ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สั่งการให้ “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” รอง ผบ.ทบ. จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่ “พล.อ.พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช” และ “พ.อ.พระยาศรีสิทธิสงคราม” โดยนิมนต์พระเทพปัญญามุณี เจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม มาทำพิธีสงฆ์ เพื่อระลึกถึงคุณงามความดี ของนายทหารที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

นับเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายทหารจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ในวาระ 24 มิถุนายน

เพื่อให้เข้าใจถึงที่มาที่ไปของการจัดงานครั้งนี้ ทางกองประชาสัมพันธ์กองทัพบก ได้เผยแพร่ข้อมูลอธิบายความว่า เมื่อปี พ.ศ. 2475 เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประวัติศาสตร์ไทย จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตย โดยกลุ่มคนที่เรียกตนเองว่า “คณะราษฎร” ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นถือว่าเป็นการรัฐประหาร “เพื่อล้มราชบัลลังก์”

การจัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่ “พล.อ.พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช” และ “พ.อ.พระยาศรีสิทธิสงคราม”
ถัดมาในปี 2476 ได้เกิดการกบฏครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดย “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช” ทรงไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปกครองของ “พระยาพหลพลพยุหเสนา” นายกรัฐมนตรี คนที่ 2 ต่อจาก “พระยามโนปกรณ์นิติธาดา” ที่มีลักษณะเป็นเผด็จการ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลของ พระยาพหลฯ ดำเนินตามแนวทางที่เสนอ คือ ให้รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ และให้รัฐบาลมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ให้อำนาจฝ่ายรัฐสภาในการตรวจสอบมากขึ้น แต่ข้อเรียกร้องไม่เป็นผล

“พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช” จึงร่วมกับ “พระยาศรีสิทธิสงคราม” ซึ่งเป็นแม่ทัพในขณะนั้นทำการยึดอำนาจ แต่ถูกรัฐบาลปราบปรามสำเร็จ จึงตกเป็นฝ่ายกบฏ ที่เรารู้จักกันในนาม “กบฏบวรเดช”

วีรกรรมที่กล้าหาญ และเสียสละของ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช และพระยาศรีสิทธิสงคราม ในครั้งนั้นจึงควรแก่การยกย่อง ในฐานะที่ทรงปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยความจงรักภักดี และมุ่งหวังให้ประเทศชาติดำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ... กองทัพบกจึงได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแก่ “นายทหารประชาธิปไตย” ทั้งสองท่าน

เป็นกิจกรรมที่ฝ่ายทหาร จัดขึ้นเพื่อ “ตอบโต้” ฝ่ายประชาธิปไตยในวาระ 24 มิถุนาฯปีนี้

**ได้ดิบได้ดีทันตา “สิระ” ปลื้ม “น้ำตาจะไหล” พปชร.ยุคลุงนิวนอร์มัล ตบรางวัล “หัวหมู่จอมโวยวาย” ขึ้นชั้น “ทั่นประธาน” กมธ.กฎหมาย แทน “ปิยบุตร”

ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย) มีวาระเลือกประธาน กมธ. แทน “ปิยบุตร แสงกนกกุล” อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดย “สุทัศน์ เงินหมื่น” ทำหน้าที่ประธานชั่วคราว ได้เสนอชื่อ “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธาน และก็ได้รับการลงมติจาก กมธ.ในเวลาต่อมาสมใจ

ว่ากันว่า ในที่ประชุมไม่มีเสียงคัดค้านจากกรรมาธิการที่เข้าร่วม เนื่องจากเห็นว่าตำแหน่งนี้เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ จึงขึ้นอยู่กับทางพรรคที่จะส่งใครมานั่งก็ได้

สิระ เจนจาคะ
“สิระ” ได้ชื่อว่าเป็น ส.ส.สไตล์ “หัวร้อน” เพราะชอบโวยวาย เอะอะ ปะฉะดะ สร้างชื่อ สร้างความจดจำ จาก “คลิป” การข้ามห้วยลงไปลุยในพื้นที่ จ.ภูเก็ต แล้วโวยวายตำรวจที่ไม่ยอมมาดูแล และ จับคู่กับ “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี คนดัง ปะทะฝีปากกระทบกระทั่งกับ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” บ่อยครั้ง จนเกิดเป็นกระแสข่าวดรามาตามสื่อโซเชียล อยู่เรื่อยๆ

ครั้น พปชร. ก่อศึกขัดแย้งกันภายในพรรค “สิระ” ก็เล่นบทถนัด ไล่ฟัดไล่บี้ฝ่ายตรงข้ามชนิดที่ไม่ต้องขอ “สิระ” อาสาจัดให้ ซึ่งภายในพรรคทั้งที่ไม่ชอบ เพราะแสดงถึงความก้าวร้าว ไม่มีมารยาท ประจานออกไปนอกพรรคทำให้พรรคดูไม่ดี แต่รู้กันดีว่า “สิระ” ได้ไฟเขียวและสนับสนุนจากกลุ่ม-ก๊วน ที่ก่อการ ทั้ง “สองมิตร” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน ตลอดจน ก๊วนวิรัช รัตนเศรษฐ

มาวันนี้ ผงาดขึ้นนั่งเป็น “ทั่นประธาน” กมธ.กฎหมาย โดยพรรคสั่งตรงลงมา “สิระ” นอกจากจะบอกกล่าวขอบคุณขอบคุณกรรมาธิการทุกคน ที่ลงมติระหว่างนั้นยังยิ้มเขินๆ แล้วพูดว่า “น้ำตาจะไหล”

แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่า “ทั่นประธานสิระ” จะทำหน้าที่ไปได้ยาวนานแค่ไหน เพราะต้องไม่ลืมว่า ขณะนี้ สิระ อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในการวินิจฉัยคำร้องที่ให้พิจารณาสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. ของสิระ ต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่ จากกรณีที่ สิระ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ ก้าวก่าย หรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อครั้งลงพื้นที่ไปที่จังหวัดภูเก็ต โดยจะมีการลงมติในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้

เรียกว่า ก็ต้องลุ้นกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ผลงานโหวกเหวกโวยวาย ทำทีหาเรื่องคนนู้นคนนี้ ออกมาปะฉะดะ ไล่ฟัดไล่กัดพวกเดียวกันเองในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างทำศึกแก่งแย่งอำนาจกันของ “สิระ” ออกดอกออกผลเข้าตาผู้ใหญ่ในพรรค พปชร. ยุคลุงนิวนอร์มัล กันไปแล้ว

เกมการเมืองได้ดิบได้ดีทันตา ตบรางวัลกันแบบนี้ ไม่ใช่แค่สิระ จะน้ำตาจะไหล ...ประชาชนก็น้ำตาจะไหลเหมือนกัน.




กำลังโหลดความคิดเห็น