“ลุงป้อม” หัวหน้าขัดตาทัพ “แฮงค์” เลขาฯ “สันติ” ผอ.พรรค สองมิตร “สุริยะ-สมศักดิ์” นั่งรองฯ แผนเปลี่ยน พปชร.เข้าโหมดการเมืองเต็มสูบ! ** “ลุงกำนัน” เร่งเกมปรับ ครม. ส่งชื่อ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” เสียบ รมว.แรงงาน

ข่าวปนคน คนปนข่าว

“ลุงป้อม” หัวหน้าขัดตาทัพ “แฮงค์” เลขาฯ “สันติ” ผอ.พรรค สองมิตร “สุริยะ-สมศักดิ์” นั่งรองฯ แผนเปลี่ยน พปชร. เข้าโหมดการเมืองเต็มสูบ!!

ฟังว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เวอร์ชันใหม่ จัดวางตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล็อบบี้เสร็จสรรพลงตัวก่อนจะประชุมใหญ่พรรค โดย “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรค นั่งหัวหน้าพรรคแน่ๆ มี “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย เป็นเลขาธิการพรรค ขณะที่คู่แคนดิเดตที่คั่วมาด้วยกันอย่าง “สันติ พร้อมพัฒน์” กลุ่มมะขามหวานเพชรบูรณ์ ได้ตำแหน่งผู้อำนวยการพรรคปลอบใจ

ขณะที่รองหัวหน้าพรรค 4 คน ได้แก่ 2 ส. กลุ่มสองมิตร “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม ผงาดมาคู่ รวมกับ “ครูตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และ “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์


ส่วนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่ากันว่าจะใช้หน้าเก่าเกือบทั้งหมดเพราะมีตัวแทนกลุ่ม-ก๊วนต่างๆ ตามสัดส่วนครอบคลุมไว้อยู่แล้ว โดยจะไม่มีชื่อของกลุ่ม “สี่กุมาร” อุตตม สาวนายน รมว.คลัง รักษาการหัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” รมว.พลังงาน รักษาการเลขาธิการพรรค “สุวิทย์ เมษินทรีย์” รมว.การอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม รักษาการรองหัวหน้าพรรค และ “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” แต่อย่างใด

ว่ากันว่า พปชร.ในเวอร์ชันนี้เป็นการวางยุทธศาสตร์ให้พรรคเข้าสู่โหมดการเมืองเต็มสูบ โดยวางหมากมองข้ามช็อตไปไม่เฉพาะแค่เรื่องปรับ ครม. จะเห็นได้จาก นักเลือกตั้งอาชีพอย่าง “สันติ-สมศักดิ์-สุริยะ-อนุชา” ต่างก็ผงาดขึ้นมาคุมอำนาจบริหารพรรค

ขณะที่ตามแผน “ลุงป้อม” ถูกขอร้องให้รับตำแหน่งเพียงเพื่อขัดตาทัพ อาศัยบารมีของลุงทั้งในพรรคและกับรัฐบาล จัดการปรับจูน “ก๊วน-ก๊ก” ภายในไม่ให้กระเพื่อม ไม่เกิดความวุ่นวายแย่งชามข้าวกัน เพราะสถานการณ์เช่นนี้ “ลุงป้อม” ที่มีบารมีสูงอยู่เป็นหัวหน้าพรรคชั่วคราวทุกอย่างย่อมสงบจบลงที่ลุง

จากนั้นประมาณไม่เกิน 6 เดือน ค่อยเชิญลุงลงจากเก้าอี้ แต่ก็อยู่ในข้อแม้ว่าหากสามารถหาคนที่จะมานั่งเป็นหัวหน้าพรรคแทนลุงป้อมได้ และใครคนนั้นต้องเป็นที่ยอมรับ มีคุณสมบัติมากพอที่จะพร้อมชูขึ้นเป็นนายกฯ ได้ ในศึกเลือกตั้ง


องค์ประกอบ พปชร.ที่เปลี่ยนเพื่อรอเปลี่ยนอีกที โดยที่เน้นการเมืองเป็นหลักแบบนี้ จากหน้าตา ปูมหลัง คอนเนกชันของแต่ละคน ไม่ต่างจากพรรครวมดาว นักการเมือง-นักเลือกตั้งอาชีพที่ขึ้นมาครองพรรค ก็ต้องบอกว่าเมื่อการเมืองเข้าสู่โหมดเข้มข้น เพราะเพื่อเป้าหมายทางการเมืองแล้ว การได้คนกลุ่มนี้มาขับเคลื่อนเล่นเกมทางการเมืองก็พร้อมจะทำอะไรให้เกิดขึ้นได้ โดยที่สังคมหรือใครจะคิดยังไงก็ ...โนสน โนแคร์ !!

ก้าวย่างจากนี้ของ พปชร.ให้จับตากันให้ดีๆ เชื่อว่ากลยุทธ์ประเภทลับลวงพราง การเมืองแบบน้ำเน่าที่เราคุ้นชิน วาทกรรมไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร งานนี้ก็ไม่รู้ว่าหนังม้วนเก่าจะต้องวนกลับมาฉายกันอีกรอบหรือไม่

ที่แน่ๆ ความเคลื่อนไหวและแผนการของ พปชร.วันนี้ ดูเหมือนจะไปคนละทางกับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เพิ่งประกาศออกทีวีพูลเมื่อคืน ว่าจะทำงานแบบ “New Normal” เรียกร้องให้ทุกฝ่ายงดเรื่องไร้สาระ-ยุติปัญหาทางการเมือง มุ่ง “ร่วมสร้างชาติ” กอบกู้ชาติจากวิกฤตโควิด-19 ยังไงๆ ไม่รู้

เสียงปี่กลองเร่งเร้า การเมืองขยับแรง ความบันเทิงมาแน่ โปรดติดตามกันต่อไปได้เลย

“ลุงกำนัน” เร่งเกมปรับ ครม. ส่งชื่อ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” เสียบ รมว.แรงงาน หลัง “หม่อมเต่า” ประกาศหันหลังให้พรรค


หลัง “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประกาศเท “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างไม่เหลือเยื่อใย ด้วยการยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ไปเมื่อช่วงเที่ยงวันก่อน (16 มิ.ย.) โดยมีผลทันที แต่ยังคงยึดตำแหน่ง รมว.แรงงาน เอาไว้ไม่ลาออก ...เหมือนตั้งใจจะให้คนในพรรคปวดใจเล่นๆ

แต่ทางพรรคก็เคลื่อนไหวตอบโต้ทันที ไม่รอให้มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดย “ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง” เลขาธิการพรรค รปช. ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรค ก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) ว่าทางพรรคได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค รปช.อีกต่อไปแล้ว พร้อมอ้างผลทางกฎหมายว่า “หม่อมเต่า” ไม่ได้อยู่ในวิสัยที่จะได้รับการพิจารณาจากนายกฯ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหากมีการปรับ ครม. พรรคจึงขอเสนอชื่อ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” รักษาการกรรมการบริหารพรรค เป็นผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน เพื่อให้นายกฯ พิจารณา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายกฯ ว่าจะพิจารณาเมื่อใด

รักษาการหัวหน้าพรรคยังบอกถึงความเหมาะสม ที่ส่งชื่อ “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” ขึ้นเป็นรัฐมนตรีแทนว่า ในช่วงที่ผ่านมา “เอนก” ได้รับการมอบหมายให้ทำงานที่เกี่ยวกับกระทรวงแรงงาน เพื่อช่วย “หม่อมเต่า” อยู่ก่อนแล้ว เช่น พิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมายประกันสังคม และยังช่วยงานในพรรคมาโดยตลอด

“เอนก” ถือได้ว่าเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยมาตั้งแต่ต้น และได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค เนื่องจาก “ลุงกำนัน” ประกาศชัดว่าจะไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ไม่ว่าจะในรัฐบาลหรือในพรรค และจะไม่มีวัน “ตระบัดสัตย์” ... แต่เมื่อถึงวันประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค ลุงกำนันกลับเป็นผู้เสนอชื่อ “หม่อมเต่า” ขึ้นนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทำให้ “เอนก” ต้องไปนั่งเป็นกรรมการบริหารพรรค


ในช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาล “ทวีศักดิ์” ที่นั่งรักษาการหัวหน้าพรรคในขณะนี้ อ้างว่าทางพรรคได้ส่งชื่อทั้ง “หม่อมเต่า” และ “เอนก” เป็นรัฐมนตรี แต่นายกฯ ให้ได้แค่ตำแหน่งเดียว เพราะพรรคมี ส.ส.แค่ 5 เสียง “หม่อมเต่า” จึงได้รับความเห็นชอบเป็นรัฐมนตรีก่อน เนื่องจากมีความอาวุโส และมีชื่อเสียง เกียรติคุณ เมื่อวันนี้ หม่อมเต่าลาออก จึงถึงคิวที่ “เอนก” จะได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีแทน

อย่างไรก็ตาม ในทางการเมืองมองกันว่า การลาออกของ “หม่อมเต่า” ครั้งนี้ สาเหตุหลักไม่น่าจะมาจากเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลงานในกระทรวงแรงงาน ในช่วงที่ผ่านมา...แต่น่าจะมาจากแรงกดันจาก “ลุงกำนัน” ที่เป็นเจ้าของพรรค เพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล

…ต้องไม่ลืมว่า “ลุงกำนัน” ถือว่าเป็นผู้ที่ช่ำชองในเกมการเมืองคนหนึ่ง มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบรรดาลุงๆ ทั้งหลายในสายทหาร ประกอบกับช่วงนี้ “ลุงผู้มากบารมี” ถือว่าได้กุมสภาพ “พรรคแกนนำรัฐบาล” ได้อย่างเบ็ดเสร็จ มีการวางตัวเลขาธิการพรรค เกลี่ยตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงการปรับครม.เท่านั้น และต้องการให้มีการ “ปรับใหญ่” เพื่อยึดกุมกระทรวงสำคัญไว้ในมือ

การลาออกของ “หม่อมเต่า” จึงเป็นเกมบีบให้ “ลุงตู่” จำต้องร่นเวลาปรับ ครม.ให้เร็วขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศว่าจะยังไม่ปรับ ...

ส่วนหัวหน้าพรรค รปช.คนใหม่ที่จะมาแทน “หม่อมเต่า” นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ ขึ้นอยู่กับ “ลุงกำนัน” จะชี้ให้ใครมาเป็น!!