ข่าวปนคน คนปนข่าว
** เมื่อ “ธนาธร” ปั่นกระแสเทียบ “วันเฉลิม” เป็น “จอร์จ ฟลอยด์” ติ่งขานรับไล่ล่าคนดัง ขอให้ติด #saveวันเฉลิม พอใครปฏิเสธ-เห็นต่าง เจอฝูงซอมบี้รุมด่ารุมขยี้ “ปู ไปรยา” รายล่าถูกจัดหนัก โยงตำแหน่งทูต UNHCR
กรณี “ต้าร์” หรือ “วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์” แอดมินเพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” และผู้ต้องหาตามหมายจับคดีผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อปี 2561 หายตัวไประหว่างลี้ภัยในกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา
จากนั้นได้มีกระแส #Saveวันเฉลิม ในโซเชียลฯ จนกลายเป็น แฮชแท็กฮิตในทวิตเตอร์หลายวันต่อเนื่อง
แน่นอนว่า “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไม่พลาดที่จะเป็นผู้นำทางความคิด ปั่นกระแสนี้โดยความเชื่อว่า “วันเฉลิม” นั้นถูกอุ้ม ถูกบังคับให้หายตัว
“ธนาธร” โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้อง #Saveวันเฉลิม ว่าเป็นเรื่องของทุกคน พร้อมเปรียบเทียบว่าเป็นกรณีเดียวกับการเสียชีวิตของ “จอร์จ ฟลอยด์” คนผิวสีในอเมริกาซึ่งทำให้เกิดการประท้วงในหลายพื้นที่
หลังจาก “ธนาธร” เริ่มปั่นกระแสก็มีติ่งติดตามเคลื่อนไหวเล่นด้วย ด้วยความพยายามรุมกดดัน “ดารา-นักร้อง” เพื่อให้ช่วยติดแฮชแท็ก #save วันเฉลิม เพื่อหวังความมีชื่อเสียงและมีผู้ติดตามจำนวนมากในโลกโซเชียลฯ สร้างกระแสให้ใหญ่โตขึ้น ... แต่ปรากฏว่าคนเหล่านั้นไม่เอาด้วย-ไม่ทำ ซึ่งได้รับผลตามมาคือ ติ่งเหล่านี้ หรือที่เรียกกันในโลกออนไลน์ว่า “ฝูงซอมบี้” ก็รุมถล่มโซเชียลฯ ของดารา-นักร้อง คนเห็นต่างอย่างหนัก
ว่ากันว่า คนที่โดนมีทั้งนักร้องดัง คัตโตะ ลิปตา, แก้ม-เดอะสตาร์ รวมถึง Game Youtuber ชื่อดัง เอก-Heart Rocker (HRK)
“คัตโตะ” เจอรุม flood ข้อความจนต้องลบข้อความเหล่านั้น สุดท้ายเลยโดนเอาไปด่าว่า “ไม่เคารพสิทธิความเท่าเทียม เห็นคนไม่เท่ากัน”
“แก้ม เดอะสตาร์” โดนบูลลี่ โดนเหยียดเรื่องตัวดำ ขณะที่ “เอก HRK” โดนด่าว่าโง่ และวางเฉยต่อเรื่องสังคม
ฟังว่าไม่ใช่แค่นี้ “ฝูงซอมบี้” ที่เชิดชูเสรีภาพและประชาธิปไตย-เชียร์ธนาธร ไปข่มขู่กดดัน “เจนนิส” สมาชิก BNK48 และดาราอีกหลายคนให้ติดแฮชแท็กตามที่ตนต้องการด้วย
ล่าสุดมาคิว “ปู-ไปรยา ลุนเบิร์ก” ก็โดนถล่ม หลังไม่ยอมติดแฮชแท็ก #saveวันเฉลิม ตามคำสั่ง แต่พอเธอไม่ทำตาม เลยถูกรุมถล่มใน IG ส่วนตัว โดยด่าหยาบคาย เสียๆ หายๆ และดูถูกการทำงานในฐานะ “ทูต UNHCR” ของปู ไปรยา ด้วย
รู้กันว่า “ปู ไปรยา” มีตำแหน่งทูตสันถวไมตรี จากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ซึ่งถือเป็นคนแรกจากไทยในตำแหน่งนี้ และคนแรกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ปู ไปรยา” ได้ตอบใน IG กรณีนี้ว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง โดยเธอนั้นทำหน้าที่ของทูตสันถวไมตรี UNHCR ในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยอย่างเต็มที่ เรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากนี้อยู่นอกขอบเขตบทบาทของเธอ
งานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งอีเวนต์ของ “ฝูงซอมบี้” ที่กระหายเหยื่อ ซึ่งก็ต้องบอกว่ามักจะเป็นเช่นนี้บ่อย หรือการรับลูก ปฏิบัติการข่าว “ไอโอ” ต่อจาก “ธนาธร และพวก” มาเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกัน
ขณะที่การหยิบยก “วันเฉลิม” มาเปรียบเทียบว่าเหมือนกรณีของ “จอร์จ ฟลอยด์” ที่สหรัฐฯ เป็นเรื่องเดียวกันของธนาธร มีคนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วย ... บอกไม่เชื่อ เพราะไม่ได้กินหญ้า!
สรุปว่า ไม่ว่าธนาธรและพวกจะคิดอย่างไรก็มีสิทธิ์ทำได้ แต่หากคนอื่นๆ เขาเห็นต่างก็ควรเคารพสิทธิเสรีภาพ ความคิดเห็นของคนอื่นๆ เขาด้วย
** ขวบปี “รัฐบาลลุงตู่” ได้คะแนนสู้โควิด-19 ช่วยหนุน ส่วนที่จะปรับ ครม. จาก “น้ำผึ้งหยดเดียว” ถูกมองว่าปล่อยนักการเมืองน้ำเน่าเข้ามาถอนทุนหาประโยชน์จากเงินกู้
ภาพสะท้อนสำหรับ 1 ปีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้การนำของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ผ่าน “สองโพลดัง” ต้องบอกว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
“นิด้าโพล” ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดผลสำรวจความเห็นของประชาชน เรื่อง “1 ปี นายกฯประยุทธ์ ภายใต้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง” โฟกัสไปที่ตัว “ลุงตู่” ภาพรวมๆ ประชาชนมองว่ามีผลงานโดยส่วนตัวจัดว่าใช้ได้ ที่เห็นว่า ดีแบบสุดๆ และแย่สุดๆ เปอร์เซ็นต์พอๆ กัน แต่คนส่วนใหญ่ 35.60% เห็นว่า “ลุงตู่” ทำงานในตำแหน่งนายกฯ ได้ค่อนข้างดี เพราะบริหารจัดการโรคโควิด-19 ได้ค่อนข้างดี แก้ปัญหาความไม่สงบได้ และช่วยเหลือประชาชน
เรียกว่าในวิกฤตโควิดก็เป็นโอกาสของลุงตู่ ที่แสดงฝีมือการจัดการบริหารสถานการณ์ ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคและการเยียวยาได้เข้าตาประชาชนส่วนใหญ่
ขณะที่กรณีปัญหาการเมืองภายในพรรคพลังประรัฐ กลุ่มก๊ก ล้มอำนาจแย่งชิงพรรคเพื่อหวังกดดันให้ “ลุงตู่” ปรับ ครม.หลังสภาฯ ผ่าน พ.ร.ก.กู้เงิน แค่วันเดียว สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) ก็ได้เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “ปรับคณะรัฐมนตรีเพื่อใคร” สะท้อนเรื่องนี้
โดยผลการสำรวจออกมาว่า คนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 63.3 มองว่ารัฐบาลจะปรับคณะรัฐมนตรี เอานักการเมืองเข้ามาหาผลประโยชน์เงินกู้ และถอนทุนคืนใช้เลือกตั้งต่อไป
นี่แทบไม่ต้องอธิบายกันเลยทีเดียวว่าสังคมมองปรากฏการณ์ “พลังประชาเละ” ที่เกิดขึ้นอย่างไร
ตามด้วย ถ้า “ลุงตู่” ตัดสินใจปรับครม.ตามแรงกดดัน คนส่วนใหญ่ ร้อยละ 85.1 มองว่า การปรับคณะรัฐมนตรีจะก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในหมู่ประชาชนต่อความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล แสวงหาผลประโยชน์จากเงินกู้ เข้ากระเป๋านักการเมือง
เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ย้ำหลายครั้งว่า ปัญหาการแตกแยกในพรรคพลังประชารัฐ เป็นเรื่องของพรรค และการปรับครม. เป็นเรื่องของผู้นำรัฐบาล ก็คือตนเอง จะปรับหรือไม่ปรับ ครม.ก็ขึ้นอยู่กับลุงตู่คนเดียว แต่โพลก็มีคำตอบให้ลุงตู่ต่อประเด็นนี้ว่า “น้ำผึ้งหยดเดียว” กำลังจะทำให้บ้านเมืองระส่ำระสาย สถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังแย่อยู่แล้ว ยิ่งจะวิกฤตตกต่ำลงไปอีก
คนมองว่า “ลุงตู่” ลอยตัวเหนือปัญหา ทำตัวเป็นพระเอกตลอดกาล ไม่แก้ปัญหา หรือหาทางทำให้ดีขึ้น อาจจะทำให้ประชาชนที่มีอารมณ์คับแค้นใจและความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชน ต่อความชอบธรรมของรัฐบาลจะกลายเป็นชนวนที่ติดเพลิงแห่งความขัดแย้งรุนแรงบานปลายได้ง่าย
ข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรี ควรรีบแสดงความเป็นผู้นำ ทำให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง ไม่ต้องรอดูกระแสจนนาทีสุดท้าย เดี๋ยวจะสายเกินไป
โพลว่ามาแบบนี้ “ลุงตู่” จะว่าอย่างไร? หากจะรับฟังไว้เป็นข้อมูลบ้างก็ดี เพราะนี่ก็เป็นเสียงประชาชนส่วนหนึ่งที่เขาคิดกัน