รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.20 - 15.00 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (8 มิ.ย.) "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" ได้สัมภาษณ์ "ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง" อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม. รังสิต มาพร้อม "ศาสตรา โตอ่อน" นักวิชาการสถาบันทิศทางไทย กรณี "วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" ถูกอุ้มหายในกัมพูชา แอดมินเพจ "กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ" และผู้ต้องหาตามหมายจับคดีผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
อย่าหาว่าโง่เลย วันเฉลิมเป็นใครเหรอ?
ผศ.วันวิชิต : "ตอนแรกที่เราอึ้งกัน ผมนึกว่าเป็นชื่อเดิมคุณวัน อยู่บำรุงด้วยซ้ำ พอมาดูรูปก็ไม่รู้ คราวนี้ก็ไม่รู้จัก จนเข้าไปในเครือข่ายคนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในทางวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลประยุทธ์มาตลอด 6 ปี เขาก็ค่อยๆ เฉลยปริศนาต่างๆ ว่าเป็นใคร ทำกิจกรรมอะไร ผมก็เพิ่งรู้ว่าอ๋อ คนนี้เป็นแอดมินเพจกูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ หลังจากนั้นก็ดูประวัติต่างๆ คุณวันเฉลิมไม่ยอมไปรายงานตัว นับตั้งแต่คสช. ยึดอำนาจ ซึ่งทุกคน นักเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ว่าจะซีกไหนต้องไปรายงานตัวตามปกติ แต่คุณวันเฉลิมเป็นคนนึงที่เลือกปฏิเสธโอกาสตรงนั้น"
ทั้งที่เขาไม่ใช่ตัวเอ้?
ผศ.วันวิชิต : "ดูดีๆ นะครับ คนไปรายงานตัวได้กลับบ้านทุกคนนะครับ แต่จะคุยกับคสช.กี่วันอีกเรื่องนึง แต่ทุกคนกลับบ้านปลอดภัย"
ทำไมชอบหนีไปเขมรกัน?
ศาสตรา : "ผมมองว่ายังไงก็ตามต้องดูด้วยว่าขนาดความผิดที่เขาทำในประเทศมันมากน้อยแค่ไหน ถ้าเปรียบเทียบกับนักเคลื่อนไหวรายอื่นๆ อย่างคุณจอม เพชรประดับ ไประหกระเหินอยู่ในอเมริกา คุณจักรภพ เพ็ญแข ไปอยู่สแกนดิเนเวีย คนเหล่านี้จะเห็นว่าการพูดการให้ความเห็นล่อแหลมกว่านี้เยอะ ขณะที่กรณีวันเฉลิม มองว่าเป็นความผิดตามพ.ร.บ. คอมบ์ ซึ่งตั้งข้อสงสัยก่อนเลย ณ วันนี้คนทำผิดพ.ร.บ.คอมบ์ เต็มไปหมด ผมเป็นนักกฎหมายผมก็เห็น ขณะที่หน่วยงานรับแจ้งเรื่องยังไม่อยากรับเลยเพราะมันเยอะมาก เจ้าหน้าที่ตร. ยังไม่อยากทำงานเลยเพราะมันเยอะ แต่ถามว่าไอ้ความผิดแค่นี้ ผมตั้งข้อสงสัยว่าทำไมคุณต้องสะดีดสะดิ้ง ถึงขั้นหนีไปกัมพูชา ทีนี้ถามว่าทำไมต้องกัมพูชา เพราะมันออกไปง่ายที่สุดแล้ว เกี่ยวกับเงินทุนสนับสนุนด้วยหรือเปล่า เพราะอดีตการหนี จะเป็นการหนีแบบไฮโซ หนีไปกรุงปารีส หนีไปนั่งกินไวน์ริมแม่น้ำแซน หนีไปสวีเดนไปนั่งเรือสำราญ แต่งบประมาณอาจจะน้อย อย่างที่เห็นคุณวันเฉลิมอาจไม่ใช่หมากสำคัญเพียงพอ แต่การที่เขาใช้วิธีการไม่ไปรายงานตัว แล้วหนีไปกัมพูชา ผมคิดว่าเขาสร้างธีมอะไรบางอย่าง"
เขาไม่ใช่นักโทษคดี 112 แค่พ.ร.บ.คอมบ์?
ศาสตรา : "ถูกต้องครับ"
ข่าวว่าเขาโดนอุ้ม?
ศาสตรา : "ตอนนี้ยังไม่รู้นี่ว่าเขาเสียชีวิตหรือยัง แต่อย่างน้อยที่สุดเขาถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพในการเคลื่อนไหว การถูกอุ้มครั้งนี้ ความผิดเกิดขึ้นนอกประเทศไทย เกิดในกัมพูชา แล้วมีการพูดไปถึงขั้นว่าเป็นการกระทำของรัฐไทย ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม องค์กรใดก็ตาม แต่มีการพาดพิงว่าการถูกอุ้มครั้งนี้ ไม่ใช่การถูกอุ้มธรรมดา แต่เป็นภาษาเฉพาะครับคือคำว่าถูกบังคับให้หาย เป็นคำในกฎหมาย ซึ่งเขาต้องการบ่งชี้และเคลื่อนไหวในแอมเนสตี้ว่ากรณีนี้นายวันเฉลิมได้ถูกอำนาจรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐไทยบังคับให้หาย"
เชื่อมั้ยว่าเขาโดนอุ้ม รัฐบาลไทยเกี่ยวมั้ย?
ผศ.วันวิชิต : "ตรงนี้เราเห็นจากภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว ถ้าคนไม่ได้รอหลักฐานเชิงประจักษ์มากกว่านี้ ก็คงคิดว่าอุ้มไปไหนสักที่ แต่เราไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นใคร ประเด็นนึงคุณวันเฉลิมปรับตัวอยู่กัมพูชาได้ง่ายเพราะพูด เข้าใจภาษาเขมร ภูมิลำเนาอยู่อุบลฯ อีสานใต้ และเป็นคนมีความผูกพัน ต้องการติดต่อใกล้ชิดกับครอบครัว เขมรเป็นเส้นทางเข้าออกได้ง่าย นักการเมืองไทยเวลาจะหลบชอบไปแบบนี้ ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ไม่ต้องผ่านด่านอะไรมากมาย ประเด็นอุ้มไม่อุ้ม ผมว่ามันแปลกตรงที่แค่เพียงไม่กี่นาที ข่าวออกมาว่าคุณวันเฉลิมถูกอุ้มทันที ซึ่งเทียบกับเคสนักโทษหรือนักการเมืองที่หายไปอื่นๆ มันต้องพิสูจน์ ใช้ระยะเวลาพอสมควร อันนี้เร็วมากและกระเพื่อมเร็ว กล่าวหาฟาดงวงฟาดงามาที่รัฐไทยว่าเกี่ยวข้อง"
เขาคุยกับพี่สาวเขายาวนาน 30 นาที และประเด็นในการคุย มีหนึ่งประโยคที่คุ้นๆ หายใจไม่ออก คิดยังไง?
ผศ.วันวิชิต : "วินาทีแรกผมคิดว่าทำไมช่างบังเอิญจอร์จ ฟรอยด์เหลือเกิน สองถ้าเป็นคนอุ้มมืออาชีพ เขาจะไม่ปล่อยโอกาสให้ได้ใช้โทรศัพท์ ไม่ว่าะใช้ผ้าดำหรือถุงอะไรครอบศีรษะก็แล้วแต่ เพื่อตัดตอนพยานวัตถุหลักฐานต่างๆ เป็นไปไม่ได้เลย มันก็มองได้ ถ้ามองอย่างเห็นอกเห็นใจว่าอาจถูกอุ้มจริง แต่ถ้ามองอย่างคนคิดต่างกันได้ เอ๊ะ มันแปลกนะ ไม่งั้นทีมอุ้มทีมนี้คงไม่ใช่มืออาชีพแล้วแหละ มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งหรือสร้างสถานการณ์สมมติขึ้น ผมพูดงี้รับรองทัวร์ลงแน่ (หัวเราะ) มันก็มีโอกาสเพราะพอมีคนตั้งสมมติฐานที่ไม่เป็นคุณกับคนที่เห็นอกเห็นใจกับคุณวันเฉลิม ก็เกิดปรากฎการณ์ที่หลายคนฉกฉวยโอกาสผลักดันคนที่นิ่งหรือไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เห็นอกเห็นใจกับฝ่ายคุณวันเฉลิม ซึ่งก็แปลกที่ฝ่ายการเมืองออกมารับลูก ฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาขับเคลื่อนทันที"
เหมือนธนาธร จะออกมาโหนกระแสนี้?
ผศ.วันวิชิต : "มันก็ต้องจุดไฟให้ติด ไฟดวงแรกต้องทำให้เห็นว่าคุณวันเฉลิมคือใคร ถูกกระทำอย่างไรให้มีกระแส ข่าวกระเพื่อมให้มากและไวที่สุด และสิ่งที่ไวที่สุดคือการโจมตีเซเลบที่มีชื่อเสียงทางสังคม ดารานักแสดงต่างๆ"
ว่าทำไมไม่ออกมาช่วยวันเฉลิม?
ผศ.วันวิชิต : "ใช่ครับ โดยเฉพาะรอบนี้เราจะเห็นว่าตัวละครต่างๆ โดยเฉพาะดารา ไม่เกี่ยวพันกับการเมืองถูกดึงออกมาคลุกฝุ่นตรงนี้ ไม่ว่าจะปู ไปรยา หรือ แก้ม เดอะสตาร์"
แก้มบอกว่าเขาไม่อยากแสดงความคิดเห็นใดๆ ปู ไปรยาบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง เขาเป็นทูต UNHCR เขาว่าเรื่องนี้อ่อนไหวเกินไป ไม่อยากจะพูด การที่เขาเลือกไม่พูดเรื่องนี้ เขาทำถูกหรือยัง?
ผศ.วันวิชิต : "ผมคิดว่าถูกต้องในเรื่องตัวบุคคลแล้ว ต้องเข้าใจบทบาทคุณปู ไปรยา ถ้าให้วิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณวันเฉลิม ซึ่งเขาไม่ใช่ผู้ลี้ภัยทางการเมือง แล้วระมัดระวังมาก ไปช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม จากไข้ระบาด จากประเทศต้นทาง ไม่สามารถดูแลได้และต้องหนี ลี้ภัยไปประเทศที่กักกัน นั่นคือบทบาท"
นี่คือมนุษยธรรม?
ผศ.วันวิชิต : "นี่คือมนุษยธรรม คือบทบาทคุณปู ไปรยา ทีนี้พอไปมองที่คุณแก้ม เดอะสตาร์ น่าสงสารตรงที่เธอกลับกลายเป็นผู้ที่ถูกเหยียดไม่ต่างจากจอร์จฟรอยด์ อันนี้คือการถูกละเมิดสิทธิของจริงเลย คุณต้องการต้นทุนทางสังคม อยากให้คนมีชื่อเสียงมาเข้าข้าง ควรใช้คำพูดที่รู้สึกมีวาจามธุรส พอไปเหยียดปมด้อย แทนที่จะไปทำให้เขาเห็นอกเห็นใจ กลับไปผลักอีกฝ่ายที่มีมวลชนอยู่ไม่น้อย ออกมากลับกลายเป็นการขยายความแตกแยกในสังคม"
เพจอวตารก็แสดงลักษณะเป็นซอมบี้ ฮายีน่า ทุกครั้งที่ไม่มีใครเห็้นด้วยกับเขา?
ผศ.วันวิชิต : "การเมืองไทย ในภาวะช่วงนี้ ในศตวรรษที่ 21 เป็นยุคภูมิรัฐศาสตร์ทางอารมณ์ คือถ้าผมมาออกรายการอาจารย์ แน่นอนเลยว่าผมต้องเป็นสลิ่ม 1 2 3 เหมือนกับคุณแก้ม เขาไม่ได้คิดอะไรมาก อ๋อ เขาเป็นคนใต้ ต้องเป็นพวก กปปส. นี่คือวิธีการที่บอกว่าจะเป็นซอมบี้ หรือกักใครให้ติดเชื้อ เป็นไวรัลทางออนไลน์ให้เร็วที่สุด"
เรียกร้องให้รัฐบาลไทยโน่นนี่ แต่ตอนนี้ไม่เห็นรัฐบาลเขมร ขยับอะไรเลย?
ศาสตรา : "ความผิดต่างๆ เมื่อเกิดขึ้นในรัฐใด รัฐนั้นเท่านั้นถึงจะมีอำนาจอธิปไตยไปดำเนินการได้ กรณีนี้ความผิดเกิดในเขมร รัฐบาลที่มีอำนาจบริหารจัดการเรื่องนี้คือรัฐบาลเขมร ภาพที่เขาอยากให้เห็นคือเขาอยากลากรัฐไทยกับรัฐกัมพูชาให้มาร่วมมือกัน เพื่อสืบค้นว่าใครเป็นคนกระทำความผิด ซึ่งในตามกฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศไทยลงนามไปแล้ว แต่เราไม่มีกฎหมายอนุวัติการ เช่น เราไปยอมรับเรื่องยาเสพติดกับต่างประเทศ แต่จะบังคับใช้ในประเทศไทย คุณต้องมีพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด คุณต้องตั้งป.ป.ส. ขึ้นมา แต่ของเรายังไม่มีการทำเรื่องนี้ นี่คือพื้นฐานความผิดของเขาเป็นแบบนี้ ว่าเราไปอนุวัติการแล้วนะ เราต้องไปเรียกร้องคนหายนะ แล้วทำไมคุณปู ไปรยา คุณแก้ม คุณไม่เข้าใจกฎหมายตัวนี้เหรอ คุณเป็นทูตได้ยังไง ไม่ออกมา นี่คือความคิดของเขา เขาต้องการผนวกเอาอำนาจของรัฐไทย อำนาจของรัฐกัมพูชามาสืบสวนสอบสวนตรงนี้ แต่ผมก็ตั้งข้อสงสัยได้เหมือนกันว่าความผิดพ.ร.บ.คอมบ์ของคุณวันเฉลิม มันร้ายแรงถึงขั้นตองสะดิ้งหนีไปกัมพูชาเชียวหรือ"
เขาวางพล็อตไว้อย่างไร?
ศาสตรา : "ความผิดต้องทำให้เป็นความผิดที่ว่า คนหายโดยรัฐ เป็นคำในกฎหมาย และเขาใช้เป็นฐานในการเคลื่อนไหว ดังนั้นสิ่งแรกที่เขาต้องทำ เขามีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพ์ ซึ่งไม่ได้ร้ายแรงแบบพวก 112 เขาก็ไปกัมพูชา แน่นอนสร้างเงื่อนไขให้เกิดว่าเขาคือผู้ลี้ภัยทางการเมือง แล้วไปเข้าองค์ประกอบทางกฎหมายที่ผมบอกว่าเป็นผู้กระทำความผิดทางการเมือง หนีไปอยู่ต่างประเทศ และถูกเจ้าหน้าที่รัฐไทยเข้าไปอุ้ม"
นี่คือกล่าวหารัฐบาลไทย?
ศาสตรา : "ถูกต้อง และกระบวนการทั้งหมดเมื่อมันเข้าองค์ประกอบทั้งหมดนี้ จะกลายเป็นเข้าในเรื่องอนุสัญญาที่เราไปลงนามเอาไว้ และเขาก็ลากองค์กรระหว่างประเทศ แอมเนสตี้เข้ามา แต่ถามว่า ณ เวลานี้ความประสงค์ของพวกคุณคืออะไร ผมก็สงสัยได้ ไม่กลัวทัวร์ลงด้วย ทัวร์ลงมาหลายรอบ คุณกำลังจัดฉากสร้างสถานการณ์หรือเปล่า มันก็สงสัยได้ เพราะหนึ่งความผิดตามพ.ร.บ. คอมบ์ ทำไมต้องทำตัวสะดีดสะดิ้งมากมาย ต้องหนีเชียวหรือ ในขณะที่คนทำผิดตามพ.ร.บ.คอมบ์ในวันนี้ ทำผิดเป็นพันๆ ราย พอเหตุเกิดขึ้นก็เห็นผ่านๆ ในเฟซบุ๊ก ไม่ได้สนใจ ทุกอย่างมาไวมากครับ ป้ายไวนิล ขึ้นทั่วราชอาณาจักรอย่างรวดเร็ว ต่างประเทศอยู่มุมโลกมุมนั้นมุมนี้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก ตีปี๊บสอดรับกันเป็นกระบวนการ"
ทำไมถึงไปเอาวันเฉลิมซึ่งเป็นตัวที่เท่าไหร่ อริสมันต์ก็อยู่เขมร ทำไมไม่จัดการอริสมันต์?
ผศ.วันวิชิต : "เรื่องและโจทย์แกเยอะอยู่ภายในประเทศ เรื่องเคลื่อนไหวไม่ถูกไม่ควรมีมากมาย การจะได้พลังข้างนอกมาขับเคลื่อน เห็นอกเห็นใจจึงเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าเป็นคนอย่างคุณวันเฉลิม ภาพแบบคนไม่มีอะไร ไม่มีพิษมีภัย ไปจับเขาทำไม จะมีน้ำหนักในการขับเคลื่อนง่ายที่สุด"
ตกลงเขาโดนอุ้มหรือไม่โดนอุ้ม?
ผศ.วันวิชิต : "ภาพที่เห็นก็คืออุ้ม แต่คนอีกไม่น้อยตั้งคำถามว่าทำไมโซเชียลทำงานไวอย่างพร้อมเพรียงกัน กลุ่มที่เห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลชุดนี้ ทำงานสอดรับกันอย่างรวดเร็ว มันต้องใช้เวลานะ ว่าอุ้มหรือไม่อุ้ม สูญหายจริงมั้ย"
รัฐบาลไทยเกี่ยวข้องมั้ย?
ศาสตรา : "ตอนนี้ตอบไม่ได้เพราะไม่มีพยานหลักฐาน ถามว่าถูกอุ้มมั้ย ถูกอุ้มแน่นอนเพราะภาพมันออกมาว่าถูกอุ้ม ประเด็นสำคัญคือใครเป็นคนอุ้ม กรณีจอร์จ ฟรอยด์ ภาพมันชัดเจน ตร.คนขาวเอาเข่าไปกดบริเวณลำคอ ถามว่าถูกฆาตกรรมมั้ย ก็ถูกฆาตกรรม โดยใคร โดยตร. กรณีคุณวันเฉลิม ถูกอุ้มมั้ยถูกอุ้ม แต่เราไม่รู้ใครอุ้ม ถ้าบอกว่ารัฐไทยก็ถูกด่าดิ ถัาบอกว่าคุณจัดฉากอุ้มกันเองก็ด่า"
คุณธนาธรมาเล่นเรื่องนี้ คิดว่าม็อบจะจุดติดมั้ย?
ผศ.วันวิชิต : "มันคนละเรื่อง ไม่เกี่ยวกับจอร์จ ฟรอยด์เลย ไม่ติดหรอกครับ"
เขามีความหวังมั้ยถ้าใช้เรื่องนี้จะดึงม็อบมาได้?
ผศ.วันวิชิต : "เรื่องประเด็นนักศึกษาในฮ่องกง ยังมีเค้าโครงน่าขับเคลื่อนได้ง่ายกว่ากรณีจอร์จ ฟรอยด์ ตรงนี้ผมมองว่าคงได้สักอาทิตย์นึง หลังจากนั้นจะเข้าสู่ภาวะความเป็นจริง เมื่อมีหลักฐานต่างๆ ออกมามากกว่านี้"
แปลว่าม็อบคงจุดไม่ติด?
ศาสตรา : "ผมมองว่ากรณีจอร์จ ฟรอยด์ ไม่ใช่ใครไปจุดหรือไม่จุด มันคือไฟไหม้ป่า มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ภาพที่จอร์จฟรอยด์ถูกกดลงไปมันสะเทือนอารมณ์ เป็นการระเบิด ไม่ต้องไปจุด ไม่ต้องสร้างเรื่อง แต่กรณีนี้ ในแง่อีโมชั่นที่จะนำไปสู่การชุมนุมประท้วงขนาดใหญ่มันไม่มี มันไม่พอที่จะให้เกิดสิ่งนั้น ทุกคนยังตั้งข้อสงสัยอยู่เลยว่าสรุปถูกอุ้มจริงหรือไม่จริง ความสะเทือนอารมณ์ไม่เท่ากรณีจอร์จ ฟรอยด์ แล้วการสะสมประเด็นความขัดแย้งเรื่องการเหยียดผิวในสังคมสหรัฐฯ มันเป็นฟืนที่ถูกราดน้ำมันตลอดเวลาอยู่แล้ว กรณีวันเฉลิม ถ้าอยากเคลื่อนไหวให้วุ่นวายในบ้านเมือง ผมว่ามันไปไม่รอดครับ"
อารมณ์ยังไม่ถึงและคนยังไม่แน่ใจ น่าจะจุดยังไม่ติด เขาทำเรื่องนี้เป็นพล็อต ทำมากี่ครั้งแล้ว?
ศาสตรา : "เขาทำแบบนี้มาตลอด กลุ่มพวกนี้เขามีแนวคิดแบบปฏิวัติคือโค่นล้มอย่างเดียว กรณีศูนย์โควิด จะเห็นว่าเขาเครซี่มากกับการที่คุณหมอทวีศิลป์ เข้ามา รัฐบาลมีพิธีกรทีมงานที่ดี เขาทนไม่ได้ ณ วันนี้เขาอาศัยสถานการณ์อะไรที่เลวร้ายก็สุมไฟเข้ามาเมื่อให้เกิดการปฏิวัติ"