เมืองไทย 360 องศา
หลังจากที่มีข่าวว่า นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางสังคม และผู้ต้องหาคดีความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และลี้ภัยการเมืองในกัมพูชา ถูก “อุ้ม” หายไปในประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา แม้ว่าเวลานี้ยังไม่แน่ชัดว่าเขาถูกอุ้มหายจริงหรือไม่ รวมไปถึงยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม แต่บรรดานักเคลื่อนไหวที่เรียกว่า กลุ่ม “เอ็นจีโอ” ทั้งหลายต่างก็เรียกร้องให้ รัฐบาลไทยรับผิดชอบ และพยายามสื่อให้เห็นว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวมีที่มาจากเว็บในเครือข่ายเอ็นจีโอ ที่อ้างข้อมูลจากพี่สาวของ นายวันเฉลิม ว่า เขาถูกอุ้มที่หน้าคอนโดฯ ในกรุงพนมเปญ โดยกลุ่มชายฉกรรจ์นำขึ้นรถยนต์ขับออกไปในเวลากลางวัน พร้อมทั้งมีการให้ข้อมูลแบบมีเสียงร้องอันเข้ากับยุคสมัยที่เป็นเสียงร้องแบบเดียวกับ “จอร์จ ฟลอยด์” ชายผิวสีในสหรัฐอเมริกา ที่ถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดที่ลำคอนานเกือบ 9 นาทีจนเสียชีวิต ซึ่ง “จอร์จ ฟลอยด์” ก็ร้องว่า “ผมหายใจไม่ออกๆๆ” จนเกิดการลุกฮือไปทั่วสหรัฐฯ และหลายประเทศในโลก
แต่กรณีของ วันเฉลิม นั้น มีการอ้างข้อมูลจากพี่สาวของเขา จากเว็บในเครือข่ายเอ็นจีโอ บอกว่า “นานถึง 30 นาที” ซึ่งถือว่ายาวนานไม่ธรรมดาทีเดียว
ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในกัมพูชา อีกทั้งจะว่าไปแล้ว สำหรับ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ในสายตาของคนทั่วไป ยังถือว่า “โนเนม” มาก และจากข้อมูลอีกด้านหนึ่ง แม้ว่าเขาจะเคยเป็นอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ที่ยังมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรค และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการพรรค ก่อนจะถูกยุบพรรคจากความผิดเรื่องปล่อยเงินกู้ให้กับพรรค
สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นฝ่ายที่ออก “แอ็กชัน” ล้ำหน้ากว่าใคร ก็น่าจะเป็น “พรรคก้าวไกล” รวมไปถึงอดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ทั้ง นายธนาธร และ นายปิยบุตร ที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน แต่ที่น่าสงสัยก็คือ “ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาจากพรรคเพื่อไทยเลย” อาจจะมีบ้างในแบบเล็กๆ น้อยๆ แบบส่วนตัวผ่านสื่อโซเชียล เช่น นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย แต่ในระดับของพรรคการเมืองแล้ว ถือว่าพรรคเพื่อไทย ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งในและนอกสภา
การสงวนท่าที หรือ “เงียบ” จนถูกมองว่า “วางเฉย” ของพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ ทำให้มีบรรดาผู้สนับสนุน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล หรือที่เรียกกันว่าบรรดา “สาวก” ต่างเข้าไปโพสต์ โจมตี “ด่าทอ” พรรคเพื่อไทย รวมไปถึงบรรดาแกนนำพรรคหลายคน ไม่ว่าจะเป็น คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ร่วมเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลกัมพูชาของ สมเด็จฮุนเซน แม้ว่าถ้อยคำอาจจะไม่ได้รุนแรง หรือมีจำนวนมากมาย เหมือนกับการเข้าไป “ถล่ม” ปู ไปรยา ลุนเบิร์ก นักแสดงสาว และเวลานี้เป็นทูตสันถวไมตรีของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอชซีอาร์ จากการที่ไม่ยอม “เซฟวันเฉลิม” ตามเสียงเรียกร้องกดดันของบรรดานักเคลื่อนไหว และผู้สนับสนุนของพรรคก้าวไกล และผู้สนับสนุน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เนื่องจากเธอเห็นว่าเป็นเรื่อง “ละเอียดอ่อนและซับซ้อน” เกินไปที่เธอจะเข้าใจได้ในเวลานี้
ซึ่งหากพิจารณาจากความหมายที่เธอสื่อกลับมาอย่างสุภาพ ก็คือ “เธอไม่ชัวร์ ยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ และที่สำคัญ ยังไม่รู้ว่าจริง ไม่จริง และอาจกลายเป็นเรื่องการเมืองที่มีกลิ่น “ทะแม่ง” แม้ว่าเธอไม่ได้พูดแบบนั้น แต่มันก็เหมือนกับคนในสังคมอีกหลายคนที่ยังสงวนท่าที เพราะไม่รู้ที่มาที่ไป และยังไม่รู้จัก นายวันเฉลิม ดีพอ เมื่อเปรียบเทียบกับนักเคลื่อนไหวและผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่ลี้ภัยในต่างประเทศ
ที่น่าสนใจก็คือ การโพสต์ข้อความของ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นสถาบันฯ ตาม มาตรา 112 และปัจจุบันลี้ภัยการเมืองในต่างประเทศ ที่ได้ตั้งคำถามถึงพรรคเพื่อไทย ทำนองว่า “ทำไมถึงไม่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้”
จนล่าสุด เมื่อบ่ายวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง พรรคเพื่อไทย ก็ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ “รัฐบาลไทยประสานกับทางการกัมพูชา” เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งในทางการเมืองถือว่าออกมา “โหนเกือบขบวนสุดท้าย” เลยก็ว่าได้ แต่เนื้อหาก็ไม่ได้ดุเดือด ดุดัน แต่อย่างใด ไม่ต่างจากการ “ตามน้ำ” เท่านั้น
แน่นอนว่า เมื่อพิจารณาจาก “แบ็กกราวนด์” ก็อาจเข้าใจได้ว่า อาจจะ “หยิกเล็กเจ็บเนื้อ” เพราะเมื่อพิจารณาจากความสัมพันธ์เก่าก่อนระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร ที่เคยเป็น “ดอง” ผ่านทางครอบครัวของน้องสาว คือ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ที่ลูกสาวคนหนึ่งไปแต่งงานกับลูกชายของครอบครัวระดับแกนนำในรัฐบาลกัมพูชามาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งหลายคนคงยังจำเหตุการณ์นั้นได้
ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่มีท่าทีสอบสวนในเรื่องดังกล่าว พร้อมกับตัดบทว่า “ไม่มีข้อมูล” ในเรื่องดังกล่าว ขณะที่ทางฝ่ายรัฐบาลไทยก็ยังไม่มีท่าทีใดๆ ชัดเจน มีเพียง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ที่ตอบคำถามแบบตามน้ำว่ากำลังประสานกับทางฝ่ายกัมพูชาอยู่เท่านั้น
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากกรณีนี้ สำหรับพรรคเพื่อไทยถือว่า “เสียหาย” ในหมู่แนวร่วมเดียวกัน ปล่อยให้กลุ่ม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตีกินล้ำหน้าไปอีก เพราะเพิ่งออกแอ็กชันแบบเบาๆ จนแทบตกขบวนในนาทีสุดท้าย จนอาจอยู่ในอาการ “หายใจแทบไม่ออก” ไปแล้ว !!