“ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ” ส.ส.อุตรดิตถ์ แนะทางรอด รบ.หลังวิกฤตโควิด เข้าสู่ยุค New normal จุดพลุขอกู้ล็อตใหญ่ 4 ล้านล้านบาท แจกคนเดือดร้อนแบบทั่วถึง 3-5 หมื่นต่อราย พร้อมลุยล้างหนี้ประชาชน-พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ฮึ่มหากคิดอุ้ม “เจ้าสัว” แม้แต่สลึงเดียว-อัดฉีดเงินกู้ซาก “เจ้าจำปี” ร่วมแสนล้าน โดยละทิ้งคนจน เจอกันแน่ทุกเวที
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 63 นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข้อเสนอแนะในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวนมากทั่วประเทศว่า รัฐบาลควรนำเงินที่ได้จากการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เกี่ยวกับการกู้เงินจำนวน 3 ฉบับ เพื่อแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์โควิด-19 มูลค่ารวม 1.9 ล้านล้านบาท มาช่วยคนยากคนจน แล้วกระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัว โดยหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า new normal ทุกอย่างในโลกจะเปลี่ยนแปลงไปหมด รัฐบาลจะนำงบประมาณที่จะจัดสรรไว้ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ไปทำแบบเดิมๆ ไม่ได้ เพราะต้องจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับวิกฤตหลังโควิด-19 และสอดคล้องกับ new normal ที่จะเกิดขึ้น
ส.ส.อุตรดิตถ์ เจ้าของฉายา ส.ส.พันธุ์ดุ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องรับรู้ข้อเท็จจริงว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของประเทศนับจากนี้จะติดลบแน่นอน อีกทั้งโอกาสติดลบเลขสองหลักมีสูง ดังนั้น รัฐบาลต้องกระตุ้นจากปัจจัยภายในวิธีการก็คือ รัฐบาลควรกู้เงิน 4 ล้านล้านบาท ไม่ใช่ 1.9 ล้านล้านบาท แต่มีเงื่อนไขว่าการกู้เงิน 4 ล้านล้านบาทดังกล่าวต้องนำมาช่วยเหลือประชาชนคนยากคนจน 60 กว่าล้านคน ไม่ใช่กู้เพื่อไปช่วยเหลือกลุ่มทุนเจ้าสัว หรือองค์กรที่มีปัญหาอย่างบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แล้วส่วนที่เหลือจากการเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนก็ต้องจัดสรรงบไปกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเน้นที่การทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีโครงสร้างที่เข้มแข็งจากภายใน
“เมื่อโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไป เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจต่างๆ ดับหมดแล้ว จึงเห็นว่าควรที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาให้กับประชาชนที่เดือดร้อนและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศภายใต้กรอบวงเงินที่รัฐบาลควรกู้เงินมาเพื่อใช้ในภารกิจครั้งนี้ประมาณ 4 ล้านล้านบาท เพราะแค่ 1.9 ล้านล้านบาทในขณะนี้ไม่เพียงพอ” นายศรัณย์วุฒิระบุ
นายศรัณย์วุฒิกล่าวขยายความถึงที่มาของข้อเสนอแนะให้รัฐบาลกู้เงินมากถึง 4 ล้านล้านบาทว่า อย่างเช่นเรื่องการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนก็ควรปรับเปลี่ยนวงเงินการแจกเงินช่วยเหลือประชาชนให้เพิ่มขึ้น เพราะการที่ประชาชนได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท ถือว่าน้อยเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพในยุคนี้ ตลอดจนประชาชนส่วนใหญ่ก็ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มาก่อนหน้าจะเกิดวิกฤตโควิด-19 อยู่แล้ว ความเป็นจริงควรเยียวยาประชาชนให้อย่างน้อย 30,000-50,000 บาทต่อรายด้วยซ้ำ ซึ่งตามข้อเสนอดังกล่าวจะใช้เงินไม่ถึง 2 ล้านล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 2 ล้านล้านบาท ขอเสนอว่าควรจัดสรรงบประมาณ 1 ล้านล้านบาท มาใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
“ตอนนี้ประชาชนลงทะเบียนขอรับสิทธิดังกล่าวแค่ 10 กว่าล้านคน รัฐบาลก็จะกระโดดหนีแล้ว เพราะรู้ว่าวงเงินที่จะกู้นั้นไม่เพียงพอ ทั้งที่ยังมีประชาชนเดือดร้อนอีกจำนวนมาก ขณะเดียวกัน กลับนำเงินกู้ร่วม 1 ล้านล้านบาทไปอุ้มกลุ่มนายทุนหรือเจ้าสัว แล้วไม่พอยังจะไปอุ้มการบินไทยอีกร่วมแสนล้านบาท” ส.ส.อุตรดิตถ์กล่าว
นายศรัณย์วุฒิกล่าวอีกว่า เวลานี้ประชาชนกำลังแย่ทั้งแผ่นดิน เพราะรัฐบาลจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนล่าช้า จนต้องไปพึ่งเงินนอกระบบ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับรู้ไว้ด้วยว่า วันนี้ประชาชนคนไทยฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจ แล้วโควิด-19 ก็มาซ้ำเติม ต้องโทษรัฐบาลที่บริหารประเทศล้มเหลว เพราะเมื่อประเทศไม่มีภูมิคุ้มกัน พอเจอโควิด-19 เข้ามาอีกก็เลยยิ่งเป็นการซ้ำเติม คนต้องล้มหายเพราะผลจากการฆ่าตัวตายก็เพราะผลงานของรัฐบาลที่เป็นเผด็จการสืบทอดอำนาจมาแต่บริหารประเทศล้มเหลว
“คุณทำได้ยังไงคุณประยุทธ์ ถ้าคุณจะอุ้มเจ้าสัว อุ้มการบินไทย คุณต้องช่วยเหลือประชาชนคนยากคนจนก่อนเพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือ เช่น แจกเงินไปเลยคนละ 30,000 บาท สมมติว่าต้องให้กับประชาชนจำนวน 40 ล้านคน ก็ต้องมาพิจารณาว่าจะใช้งบประมาณเป็นเงินเท่าใด หรือหาก 50 ล้านคนจะต้องใช้เงินเท่าใด ซึ่งดูแล้วอย่างมากก็ไม่ถึง 2 ล้านล้านบาท ข้อเสนอนี้ต้องฝากคุณประยุทธ์ด้วย” นายศรัณย์วุฒิกล่าว
สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนั้น นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ต้องนำงบประมาณราว 1 ล้านล้านบาท มาใช้ในการพัฒนาแหล่งน้ำ ประกาศโครงการน้ำแห่งชาติขึ้นเป็นวาระแห่งชาติเพื่อให้ประเทศไทยมีน้ำกินน้ำใช้อย่างอุดมสมบูรณ์ ให้เกษตรกรมีน้ำใช้ในการทำเกษตรอย่างอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เพราะประเทศไทยเราได้เปรียบด้านการเกษตร ต่อไป อาหารเป็นสิ่งที่โลกต้องการ พล.อ.ประยุทธ์ต้องทำให้การเกษตรของเราเป็นเกษตรปลอดสารพิษ แล้วก็พัฒนาการผลิตให้มีการแปรรูปสินค้าเกษตร ให้มีการจัดเก็บอาหารที่ดี สิ่งเหล่านี้เราต้องช่วยประชาชน
“คุณประยุทธ์ควรประกาศออกมาเลยเรื่องนโยบายเกษตรร่ำรวย โดยการทำให้คนที่ทำด้านการเกษตรทุกชนิด ต้องรวย รัฐบาลมีทั้งงบประมาณ มีองค์ความรู้ มีบุคลากร แล้วทำอะไรกันอยู่” นายศรัณย์วุฒิกล่าว
ส.ส.อุตรดิตถ์กล่าวด้วยว่า ส่วนเงินกู้อีก 1 ล้านล้านบาทที่เหลือจากข้อเสนอของตน ก็ให้นำมาแก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบให้ประชาชน โดยจัดการหนี้ทุกภาคส่วนของประชาชน เช่น หนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), หนี้สินเชื่อธนาคาร, หนี้ของกลุ่มที่ทำธุรกิจแบบเอสเอ็มอี, หนี้สินครูต่างๆ เหล่านี้ เป็นต้น โดยรัฐบาลต้องเข้าไปแก้เรื่องหนี้ให้หมดให้สถาบันการเงิน และเจ้าหนี้ทั้งหมด ทั้งในระบบและนอกระบบ หยุดฟ้อง หยุดยึดทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งนอกจากหยุดแล้วยังไม่พอ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเติมเงินให้สะพัดในประเทศ แล้วจะเกิดกำลังซื้อมหาศาล เศรษฐกิจจะขับเคลื่อน
“นี่คือสิ่งที่ผมสอนมวยให้คุณแก้ปัญหาเศรษฐกิจและช่วยคนยากคนจนในช่วงวิกฤตโควิด-19 และขอย้ำว่าหากประชาชนยังมีความลำบาก แล้วรัฐบาลยังช่วยประชาชนไม่ได้ แต่จะไปอุ้มเจ้าสัว อุ้มการบินไทย คุณกับผมต้องเจอกันแน่นอนในทุกเวที ผมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะปลุกประชาชนออกมาต่อต้านไม่ให้ช่วยเจ้าสัว ไม่ให้ช่วยการบินไทย ถ้าประชาชนยังลำบาก” นายศรัณย์วุฒิกล่าวในที่สุด
