“โฆษกพลังธรรมใหม่” เปรียบ รบ.แก้ปัญหามาสก์เหมือนมวยการ์ดตก ชกไม่เข้าเป้า ย้ำ หากต้องการลดการแพร่เชื้อ ต้องมีหน้ากากอนามัยให้ ปชช.ชิ้นละ 1.50 บาท
วันนี้ (8 เม.ย.) นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกระแสข่าวการกวาดล้างจับกุมผู้กักตุนและขายหน้ากากอนามัยเกินราคาที่ยังมีต่อเนื่อง ว่า ทำให้เห็นว่ายังมีกระบวนการกักตุนและลักลอบขายหน้ากากอนามัยเกินราคา ทั้งที่รัฐประกาศให้เป็นสินค้าควบคุม แต่ขณะนี้ยังไม่มีประชาชนคนไหนสามารถซื้อหน้ากากอนามัยในราคาที่ควบคุมตามได้เลย ซึ่งตนเห็นว่าการแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยของรัฐบาลตั้งแต่เกิดวิกฤตเปรียบเสมือนมวยการ์ดตกชกไม่เข้าเป้า ทั้งที่รู้ปัญหาแต่ก็ชกไปตามสภาพ ได้แต่เป็นห่วงว่ามาตรการอื่นๆ ที่รัฐบาลคิดมาดี แต่จะมาสะดุดถูกน็อกเพราะเรื่องแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยให้ถูกลงไม่ได้
“ผมอยากตั้งคำถามถึงผู้รับผิดชอบโดยตรง จะดำเนินการอย่างไรในการแก้ไขปัญหาอย่างไรให้ถูกจุด ให้ประชาชนมีหน้ากากอนามัยคุณภาพดี มีมาตรฐานที่ถือเป็นอาวุธสำคัญเป็นด่านแรกในการรับมือกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ใช้อย่างทั่วถึง และเท่าเทียมด้วยราคาที่รัฐประกาศว่าจะควบคุมราคาไม่ให้เกิน 2.50 บาทต่อแผ่น แต่ถ้าให้ดีกว่านี้ถ้ารัฐบาลบริหารจัดการเรื่องหน้ากากอนามัย และสามารถทำให้ราคากลับสู่ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19” นายจาตุรันต์ กล่าว
นายจาตุรันต์ กล่าวต่อว่า ก่อนที่ไวรัสโควิด-19 จะระบาด ราคาขายหน้ากากอนามัยเกรดเอ มีราคาขายส่ง 1.2 บาทต่อชิ้น และเกรด B ราคาประมาณ 1 บาทต่อชิ้น แต่เมื่อโควิด-19 ระบาด กรมการค้าภายในตรวจเช็กสต๊อกเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา รายงานว่า มี 11 โรงงานที่สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน และมีสต๊อกวัตถุดิบที่สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้ 200 ล้านชิ้น
และต่อมาได้กำหนดราคาขายปลีกให้ประชาชนทั่วไปที่ชิ้นละ 2 บาท 50 สตางค์ ยกตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลเวียงเวช ได้รับการจัดสรร 8 กล่องต่อสัปดาห์ ราคาชิ้นละ 2 บาท เมื่อรวมค่าขนส่ง ราคา 2.5 บาทต่อชิ้น แต่ปรากฏว่า หน้ากากที่ได้มา เป็นเกรด B ซึ่งเดิมแบบนี้ราคา 0.8 บาทต่อชิ้นเท่านั้น
“ข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ปัจจุบันผลิตมาสก์ได้วันละ 2.3 ล้านชิ้น แยกให้สาธารณสุขและมหาดไทยทั้งหมด แสดงว่าจำนวนทั้งหมดรัฐซื้อไปจัดสรรให้ประชาชนโดยไม่ได้ขาย แต่ไม่เคยประกาศให้ทราบว่า สั่งซื้อมาราคาเท่าใด ผมขอเสนอให้รัฐบาล แถลงราคาที่รับซื้อจากทั้ง 11 โรงงาน 2.3 ล้านชิ้นต่อวัน ว่า ขายให้รัฐในราคาเท่าใด ถ้าราคาแพงกว่า 1 บาทต่อชิ้น ขอให้รัฐบาลไปปรับลดราคาลงทันที โดยต้องควบคุมการผลิตหน้ากากอนามัยให้เป็นเกรด A ทุกชิ้น” นายจาตุรันต์ กล่าว
นายจาตุรันต์ กล่าวอีกว่า ถ้าจะทำให้ประชาชนเข้าถึงหน้ากากอนามัย เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 และเป็นการร่วมกันจับมือไปกับรัฐบาล เพื่อลดและหยุดยั้งเชื้อ รัฐบาลต้องมีมาตรการเด็ดขาดในการคุมราคาขายส่งให้ทางรัฐบาลไม่เกิน 1 บาทต่อชิ้น และราคาขายปลีกให้ประชาชนไม่เกิน 1.5 บาทต่อชิ้น