“พาณิชย์” เดินหน้าจับกุมผู้กระทำความผิดขายหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์แพงต่อเนื่อง ล่าสุดรวบได้อีก 5 ราย เจอทั้งขายผ่านไลน์ เฟซบุ๊ก และกักตุน รวมยอดล่าสุด 265 ราย ส่วนไข่ไก่ไม่พบการกระทำความผิดเพิ่มเติมหลังสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ เผยหากผู้บริโภคพบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร สามารถร้องเรียนได้ทันที
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ได้เพิ่มอีก 5 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 2 ราย เป็นการจับกุมผู้จำหน่ายสินค้าทางแอปพลิเคชันไลน์ 1 ราย ในเขตสายไหม จำหน่ายหน้ากากอนามัยกล่องละ 50 ชิ้น ราคากล่องละ 750 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท ได้แจ้งข้อหาขายแพงเกินราคาสมควร และอีก 1 ราย เป็นสถานที่ผลิตเจลแอลกอฮอล์ในเขตแจ้งวัฒนะ ข้อหากระทำความผิดตาม มาตรา 25 (5) ไม่แจ้งราคาต้นทุนการซื้อขาย และสต๊อก
ส่วนในต่างจังหวัดจับกุมได้เพิ่ม 3 ราย พบผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินราคาสมควร (มาตรา 29) ที่จังหวัดนครราชสีมา 1 ราย โดยทำการล่อซื้อจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก จำหน่ายในราคากล่องละ 730 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 14.60 บาท รวม 5,000 ชิ้น และที่จังหวัดปราจีนบุรี 1 ราย ส่วนอีก 1 รายเป็นการเข้าตรวจค้นหน้ากากอนามัยและจับกุมชาวจีนในจังหวัดชลบุรี ในข้อหาไม่แจ้งปริมาณและปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าควบคุม มาตรา 25 (5) และมาตรา 30 ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นเป็น 265 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 131 ราย และต่างจังหวัด 134 ราย
ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) และมาตรา 25 (5) ไม่แจ้งต้นทุนซื้อ ขาย สต๊อก มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มาตรา 28 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ณ วันที่ 5 เม.ย. 2563 ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่ม ทำให้มียอดรวมการจับกุมทั่วประเทศอยู่ที่ 26 รายคงเดิม เพราะขณะนี้สถานการณ์ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งการผลิต การกระจายไข่ไก่ และการจำหน่าย
“หากประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือค้ากำไรเกินควร ขอให้ร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด จะมีการเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้กระทำความผิดทันที” นางลลิดากล่าว