“พาณิชย์” เดินหน้าจับกุมไม่หยุด รวบขายหน้ากากอนามัยแพงได้อีก 6 ราย ทั้งล่อซื้อ ขายผ่านไลน์ และร้านค้าทั่วไป และยังบุกค้นยึดของกลางได้เพิ่มด้วย เผยยอดรวมล่าสุด 273 ราย ส่วนไข่ไก่คงที่ 26 ราย เหตุสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัยได้เพิ่มอีก 6 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 3 ราย โดยเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ล่อซื้อและจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัย 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยกล่องละ 50 ชิ้น ราคากล่องละ 725 บาท เฉลี่ยชิ้นละ 13.50 บาท ผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านแอปพลิเคชันไลน์ 1 ราย พบจำหน่ายในราคากล่องละ 660 บาท เฉลี่ยชิ้นละ13 บาท รวม 15,000 ชิ้น ทั้ง 2 รายกระทำความผิดข้อหาขายแพงเกินราคาสมควร และอีก 1 ราย เป็นการตรวจค้นสถานที่ พบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยจำนวน 1,650 ชิ้น จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 25 (5) ไม่แจ้งปริมาณราคาจำหน่ายต่อคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.)
ส่วนในต่างจังหวัดจับกุมได้ 3 ราย ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดมหาสารคาม ทั้ง 3 รายเป็นร้านค้าทั่วไป กระทำความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินราคาสมควร (มาตรา 29) ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นเป็น 273 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 135 ราย และต่างจังหวัด 138 ราย
สำหรับโทษที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มาตรา 28 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะที่การตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับไข่ไก่ พบว่าสถานการณ์ไข่ไก่ดีขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ โดยมีสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ณ วันที่ 7 เม.ย. 2563 ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่ม ยอดรวมการจับกุมทั่วประเทศคงที่ 26 รายเท่าเดิม
“หากประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือค้ากำไรเกินควร ขอให้ร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด จะมีการเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้กระทำความผิดทันที” นางลลิดากล่าว