"บิ๊กป้อม" ประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ปัญหาค้ามนุษย์ทุกมิติ ด้าน "สามารถ" อยากเห็นคดีฉ้อโกงประชาชน มาตรการเทียบเท่าสัมผัสผู้เสียหายกว่า 5 แสนราย ใช้เวลายาวนานกว่าจะได้เงินคืน
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี ชั้น 2 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกร้ฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ครั้งที่ 2/2563 โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสั่งคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของพรรคพลังประชารัฐ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สืบเนื่องจากที่
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา
ได้กำหนด รอบระยะเวลาขอรับข้อมูลจาก
ประเทศต่างๆ เพื่อประกอบการจัดทำรายงาน TIP Report คือ เดือนเม.ย.ของ
ปีก่อนการประเมิน จนถึงเดือนมี.ค.ของ
ปีที่จะประเมิน รัฐบาลจึงต้องจัดส่งรายงาน
ความคืบหน้า หรือ Progress Report เป็น
ผลงานสำคัญในช่วง 3 เดือนแรกของปีี
2563 ให้ประเทศสหรัฐฯ เพิ่มเติมจากรายงานประจำปี ในวันที่ 2 เม.ย.63 โดยที่ประชุม
ได้เห็นชอบในหลักการร่าง Progress
Report ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ประกอบ
ด้วยผลความคืบหน้าสำคัญ ได้แก่ 1.ด้าน
ดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย สถิติคดีค้ามนุษย์ 16 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 25 คน
และช่วยเหลือผู้เสียหายได้ 61 คน 2.ด้าน
การคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
และถูกบังคับใช้แรงงาน หรือบริการได้รับ
การคุ้มครองในสถานคุ้มครองของรัฐและ
เอกชน จำนวน 55 คน กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จ่ายเงินเยียวยาให้แก่ผู้เสียหาย จำนวนกว่า 2 ล้านบาท และการเร่งประชาสัมพันธ์ Mobile Application "Protect-U" เป็นช่องทางใหม่ในการช่วยเหลือผู้เสียหาย ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และ 3.ด้านป้องกัน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการแรงงานทั้งระบบ โดยเน้นการตรวจสถานประกอบการ กลุ่มเสี่ยง และเรือประมง รวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับประเทศต้นทางในการคุ้มครองแรงงาน
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ขอบคุณทุกหน่วย
งานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสั่งคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพหลัก รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้ร่วมกันจัดทำรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี 2562 และได้จัดส่งให้สถานเอกอัครราชทูต
สหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 3 ก.พ.63 เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาจัดระดับประเทศไทยในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ (Trafficking in Persons Report: TIP Report) ประจำปี 2563 และขอให้ รมว.พม. กำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามกรอบ
ระยะเวลาที่กำหนด โดยหากหน่วยงานใดมี
ปัญหาอุปสรรค หรือข้อติดขัดใด ขอให้
แจ้งให้ทราบโดยด่วน และยินดีให้การช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้
ประเทศสหรัฐฯ ได้รับทราบผลการดำเนินงานอย่างจริงจังของประเทศไทยอย่างถูกต้อง ครบถ้วน เพื่อประโยชน์ต่อการจัดระดับ
ประเทศไทยที่ดีขึ้นในปี 2563 ต่อไป
ด้าน นายสามารถ เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) มอบหมายให้ ตนเข้าร่วมประชุมรับฟังรายงานความคืบหน้าผลดำเนินการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ครั้งที่ 2/2563 โดยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ มีกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ตั้งคณะทำงานติดตามการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งตนอยากเห็นการแก้ไขปัญหาฉ้อโกงประชาชน ลักษณะแชร์ลูกโซ่ หรือการฟอกเงิน น่าจะต้องดำเนินการคล้ายกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
นายสามารถ เผยอีกว่า เพราะวันนี้มาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ทำได้ดี โดยประเทศสหรัฐฯ ให้การยอมรับมากขึ้น แต่เรื่องการฉ้อโกงประชาชน ยังเป็นปัญหาใหญ่ ของคนในชาติ และรัฐบาลให้เป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้น ตนจึงอยากเห็นการถอดบทเรียนในรูปกลไกลการทำงาน ในรูปแบบคณะทำงานจากการค้ามนุษย์มาสู่การปราบปรามการฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากตนสัมผัสกับผู้เสียหายหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบ มากกว่า 500,000 คน ตนยังจำความรู้สึกความทุกข์ร้อนของผู้เสียหายได้ดี โดยผู้เสียหายกว่าจะได้รับเงินคืนต้องใช้เวลาอย่างยาวนาน ทำให้บางคนต้องเลือกจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย บางคนต้องไปหลอกคนอื่นสร้างวัฏจักรที่ไม่จบสิ้น
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนจึงขอนำเงินส่วนตัวเบิกร่องตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้เสียหายจากแชร์ลูกโซ่ หากมีผู้เสียชีวิตจากการหมดหนทางจะช่วยค่าทำศพละ 5,000 บาท โดยสามารถติดต่อส่งข้อมูลได้ที่เฟซบุ๊ก "สามารถ เจนชัยจิตรวนิช" หรือที่ LINE Official "@JOBSTOPLOSS" พร้อมช่วยเหลือทุกคน และถอดบทเรียนผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งจะประสานการช่วยเหลือไปยังกระทรวงแรงงานให้ช่วยจัดหางาน และ กระทรวงสาธารณสุขให้ช่วยเยียวยาจิตใจ ซึ่งถือว่าเป็นการบูรณาการร่วมกัน ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพ่อแม่พี่น้องประชาชน
"ผมจะนำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไปหารือในเวทีเรื่องการป้องกันการฉ้อโกงทางเทคโนโลยีเข้าการประชุม โดยมีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ เวลา 13.30 น. โดย รมว.ยธ. เน้นย้ำให้ดำเนินงานยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ ผลักดันแก้กฎหมาย เยียวยาและรับฟังปัญหาของประชาชน ท้ายสุดนี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการฉ้อโกงประชาชน ผมพร้อมจับมือเดินไปกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนแก้ปัญหานี้ไปด้วยกันเพื่อไม่ให้คนไทยถูกโกง และคนโดนโกงต้องได้เงินคืน" นายสามารถ กล่าว