ผู้จัดการรายวัน360-ครม.คลอดมาตรการรับมือ "โควิด-19" สั่งหน่วยงานรัฐระงับการเดินทางไปประเทศเสี่ยง ตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ปัญหาที่ทำเนียบ ขอความร่วมมือเลี่ยงจัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก มอบ "สมคิด"เป็นแม่ทัพ ออกมาตรการดูแลผู้ได้รับผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจรอบด้าน "บิ๊กตู่"นัดถกวันนี้ หามาตรการรับมือ "ผีน้อย" กลับไทย คาดอาจถึงหมื่นคน สธ.-บัวแก้ว เร่งประสานตม.เกาหลีใต้ ขอรายชื่อด่วน ตม.เผยกลับมาแล้ว 7 เจอ 2 รายมีไข้ ส่งกักตัวทันที "อนุทิน"เซ็นประกาศ สธ.ฉบับใหม่ สั่งเฉียบมาจาก 9 ประเทศเสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน "สังฆราช"ประทาน 2 ล้านซื้อหน้ากากให้พระ นายกฯ นำทีม ครม. สละเงินเดือนเข้ากองทุนรับมือวิกฤตโควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (3 มี.ค.) ว่า ตนได้มีข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี พร้อมเสนอในที่ประชุม ครม. และเป็นมติ ครม. แล้ว เป็นข้อสั่งการและมาตรการระยะเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) และยังมีประกาศของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มาตรการในการควบคุมโรคเพิ่มเติม รวมถึงมาตรการในการปฏิบัติตัวของผู้ที่จะต้องสังเกตอาการอยู่ที่บ้าน เพราะหลายคนได้ไปร่วมในกิจกรรมต่างๆ ประจำวัน โอกาสมีความเสี่ยงพอสมควร ตรงนี้ต้องแก้ปัญหาให้ได้
ห้ามราชการไปประเทศเสี่ยง
จากนั้นนายกฯ ได้แจกเอกสาร โดยด้านป้องกันโรค ให้หน่วยราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ระงับหรือเลื่อนการไปดูงานหรืออบรมในประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรค และให้ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเสี่ยงสังเกตอาการที่บ้าน และทำงานที่บ้านพัก 14 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา โดยให้ ก.พ. ทำหลักเกณฑ์ในการทำงานที่บ้านพักด้วย ส่วนประชาชนที่เดินทางกลับมาจากประเทศเสี่ยง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคัดกรองเคร่งครัด
ทั้งนี้ ได้จัดให้มีศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อบูรณาการข้อมูลจากทุกส่วนราชการ เป็นศูนย์รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน และสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องให้กับสาธารณชน โดยเฉพาะมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทุกมิติ
ขณะเดียวกัน มอบกระทรวงพาณิชย์ ป้องกันการกักตุน และควบคุมราคาหน้ากากอนามัย น้ำยาฆ่าเชื้อหรือเจลฆ่าเชื้อ อย่างเคร่งครัด ครอบคลุมถึงช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ มอบกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คัดกรองผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า สถานีขนส่งผู้โดยสารและท่ารถ อย่างเคร่งครัด มอบกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน ติดตามและดูแลคนไทยที่พำนักอยู่ในประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม จัดเตรียมสถานที่ พื้นที่สำหรับสังเกตอาการ ให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็น ให้สามารถของบประมาณเพิ่มเติมได้
นอกจากนี้ ให้ขอความร่วมมือภาคเอกชนหลีกเลี่ยงหรือเลื่อนการจัดกิจกรรมที่มีคนรวมตัวมาก เช่น การแข่งขันกีฬา การจัดคอนเสิร์ต และการจัดมหรสพ เป็นต้น
ตั้ง"สมคิด"ทำมาตรการบรรเทาผลกระทบ
ด้านการบรรเทาผลกระทบที่เกี่ยวข้อง ได้มอบหมายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมกับรมว.คลัง จัดทำมาตรการบรรเทาผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครอบคลุมด้านต่างๆ เช่น มาตรการทางภาษี มาตรการด้านสินเชื่อและพักชำระหนี้มาตรการด้านงบประมาณ มาตรการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน มาตรการการจ้างงานและพัฒนาทักษะ และมาตรการด้านสินค้าเกษตรและสินค้าอื่นในชุมชน เพื่อเสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาโดยเร็ว ก่อนนำเสนอ ครม. พิจารณาตามขั้นตอน
นัดถกวันนี้ทำแผนรับมือผีน้อยกลับบ้าน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงมาตรการคัดกรองผู้ใช้แรงงานไทยที่ขอกลับจากเกาหลีใต้ ว่า วันนี้ (4 มี.ค.) ตนจะประชุมในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร และจะมีมาตรการอย่างไร หากจะต้องกักตัวทั้งหมด โดยปัญหาใหญ่ คือ จะควบคุมคนจำนวนมากได้อย่างไร เพราะไม่ใช่แค่ร้อยกว่าคน แต่มีจำนวนหลายพัน อาจถึงหมื่นคน ต้องดูว่าจากต้นทางจะปล่อยออกมาเท่าไร อย่างไร เขามีมาตรการควบคุมอยู่แล้วส่วนหนึ่ง ด้วยการกักตัว 14 วัน เมื่อมาถึงเรา ก็ต้องกักตัวไว้อีก 14 วัน หรือจะเฉพาะบางส่วนที่ตรวจพบ ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม
ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ยอดสะสมคงที่ 43 ราย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ โดยผู้ป่วยยืนยันสะสม 43 ราย รักษาหายแล้ว 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย รักษาอยู่ใน รพ.11 ราย สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) มีทั้งหมด 3,519 ราย กลับบ้านแล้ว 2,099 ราย ยังอยู่ใน รพ.1,420 ราย
สธ.ประสานขอข้อมูลผีน้อยใช้ติดตามตัว
นพ.โอภาสกล่าวว่า ผู้ที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ จะมีการคัดกรองตามปกติ หากมีไข้ มีอาการ ก็จะเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ก็ต้องเข้าห้องแยกโรคและมาวินิจฉัย แต่เราจะไม่รู้ว่าเป็นผีน้อยหรือไม่ ซึ่งการจะรู้ว่าเป็นผีน้อยหรือไม่ ต้องประสานขอข้อมูลรายชื่อจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนผีน้อยที่ถึงไทยแล้วและไม่มีอาการ ก็ขอให้โทรเข้ามาที่ 1422 เพื่อแจ้งข้อมูล ก็จะช่วยประเทศได้เยอะในการติดตาม และคนที่ทราบว่ามีแรงงานไทยกลับมา เช่น อาจจะอยู่ข้างบ้าน หรือเป็นคนรู้จัก ก็ให้โทรแจ้งข้อมูล 1422 ได้เช่นกัน ซึ่งจะเก็บข้อมูลเป็นความลับและจะลงไปติดตามดูแล แต่ขออย่าแสดงความรังเกียจ เพราะอาจทำให้ผู้ที่กลับมาปกปิดข้อมูล และหากทราบชื่อว่าอยู่ตรงไหน ก็สามารถให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ไปติดตามได้
ทั้งนี้ กำลังประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอรายชื่อเพื่อนำมาติดตามดูแล และอยู่ระหว่างการหารือเพื่อวางแผนในการดูแลรับคนไทยกลุ่มนี้กลับมาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งอยู่บนพื้นฐานการคำนึงความปลอดภัยของประชาชนในประเทศมากที่สุด
"ดอน"สั่งทูตรวบรวมรายชื่อจากตม.เกาหลีใต้
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เร่งรวบรวมรายชื่อแรงงานไทยที่ต้องการกลับมา ส่งมาให้กระทรวงฯ เพื่อที่จะได้มีข้อมูล โดยให้ตรวจสอบข้อมูลจาก ตม.เกาหลีใต้อีกครั้ง เพราะที่ผ่านมา คนที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ไม่มีการรายงานตัวใดๆ จึงไม่มีข้อมูล
ตม.พบ 2 ผีน้อยมีไข้ ส่งตรวจโควิด-19
พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา มีแรงงานไทยกลับมาผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ 7 ราย พบ 2 คน มีไข้ ส่งไปเฝ้าระวังแล้ว อีก 5 คน มีอาการปกติ ปล่อยตัวกลับบ้าน ให้ดูแลตัวเองระยะ 14 วัน ส่วนที่มีความกังวลว่าคนเหล่านี้ จะกักตัวเองหรือไม่ ขอให้รับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม รวมถึงกลุ่มคนที่เดินทางไปต่างประเทศและกลับมาก็ต้องรับผิดชอบด้วย
"บิ๊กป้อม"บอกไม่มีกฎหมายกักตัว
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับแรงงานไทยในเกาหลีใต้ที่จะกลับมา กระทรวงการต่างประเทศระบุแล้วว่าให้กับมากักตัวอยู่ที่บ้านของตัวเอง เนื่องจากประเทศเกาหลีไม่ได้ถูกปิดเมืองอย่างเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จึงให้มารักษาตัวและเฝ้าสังเกตอาการอยู่ภายในบ้านของตัวเอง อีกทั้งเราไม่มีกฎหมายที่จะเข้าไปควบคุม
กลับจาก9ประเทศเสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติตต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 พ.ศ.2563 โดยกำหนดให้ 9 ประเทศเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ จีน (รวมฮ่องเกง มาเก๊า) ไต้หวัน ฝรั่งเศส สิงคโปร์ อิตาลี และอิหร่าน ทุกคนที่เดินทางมาจาก 9 ประเทศ ซึ่งเป็นเขตติดโรค ต้องกักตัว 14 วัน โดยไม่มีข้อยกเว้น
"สังฆราช"ประทาน 2 ล้านซื้อหน้ากากให้พระ
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานเงินมา 2 ล้านบาท เพื่อต้องการให้นำไปซื้อหน้ากากอนามัย ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อนำไปแจกจ่ายให้พระสงฆ์ในวัดทั่วประเทศ โดยเน้นวัดที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และรวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย
ผลิตหน้ากากผ้าแจกฟรี 50 ล้านชิ้น
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบ “โครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา” วงเงิน 225 ล้านบาท เพื่อการผลิตหน้ากากผ้า ให้เป็นอีกทางเลือกแทนหน้ากากอนามัย มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นผู้รับผิดชอบ โดยให้ประชาชนผู้ผ่านการอบรมจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นผู้ผลิตตามมาตรฐานกระทรวงฯ มีเป้าหมายการผลิตหน้ากากผ้า 50 ล้านชิ้น ต้นทุนชิ้นละ 4.50 บาท แจกจ่ายกับประชาชนทั่วไปฟรี
ครม.สละเงินเดือนใส่กองทุนสู้โควิด-19
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. มีการหารือถึงมาตรการในการจัดหาและดูแลสิ่งจำเป็นให้กับประชาชน สำหรับสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เสนอให้มีการตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อให้ ครม. ร่วมบริจาคเงินเข้ากองทุน แต่ยังไม่อยากกำหนดว่าใครจะต้องให้เงินเท่าไร แต่เบื้องต้น ครม. ควรจะสละเงินเดือน 1 เดือน เข้าสมทบในการจัดตั้งกองทุน หรือมากกว่านั้นก็ได้ แล้วแต่ใครจะบริจาคก็ได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทีมโฆษกรัฐบาล ก็จะร่วมสละเงินเดือนเพื่อนำเงินเข้ากองทุนด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ในที่ประชุม ครม. รัฐมนตรีส่วนใหญ่เห็นด้วย โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ยินดีที่จะบริจาคเงินเดือนให้
เลื่อนจัด "มอเตอร์โชว์"เป็น 22เม.ย.-3 พ.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้จัดงานมอเตอร์โชว์ ได้มีมติให้เลื่อนการจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41” ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-5 เม.ย.2563 ณ. อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ออกไปก่อน โดยมีกำหนดการให้เลื่อนการจัดงานไปเป็นวันดังกล่าวต่อไปนี้ วัน V.I.P วันจันทร์ที่ 20 เม.ย.2563 เวลา 12.00 - 20.00 น. วัน Press Day วันอังคารที่ 21 เม.ย.2563 เวลา 08.59 - 18.00 น. วันสำหรับประชาชนทั่วไป วันพุธที่ 22 เม.ย.-วันอาทิตย์ที่ 3 พ.ค.2563 รวมระยะเวลา 12 วัน