ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กตู่"เผยข่าวใหญ่ คือ การแก้ไขปัญหาโควิด-19 เตรียมแถลงมาตรการรับมือที่ชัดเจนวันนี้ ย้ำต้องจัดการพวกกักตุน โก่งราคาเด็ดขาด ล่าสุดพบติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย รวมป่วย 43 ราย หาย 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย "อนุทิน"ชงของบกลาง 3,500 ล้านบาท ใช้รักษาผู้ป่วย ระบุยังได้ประสานขอซื้อยารักษาจากจีน หลังมีสรรพคุณใช้ได้ดีกับผู้ป่วย ย้ำไม่มีปัญหาขาดแคลนยา ยังไม่เข้าสู่ระยะ 3 "พาณิชย์"แก้ปัญหาสินค้าหาย ส่งคนคุมถึงโรงงานผลิต พร้อมรับปากช่วยลดต้นทุน เตรียมปล่อยรถคาราวาน 111 คันทั่วประเทศ จำหน่ายหน้ากากอนามัยถึงชุมชน ดีเดย์ 5 มี.ค.นี้ ขู่ฟัน "ลาซาด้า-ช้อปปี้-เจดี เซ็นทรัล" ปล่อยโก่งราคาขายออนไลน์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงกรณีที่มีสื่อลงข่าวว่าจะแถลงข่าวใหญ่ ว่า จะไม่พูดเรื่องการเมืองอะไรทั้งสิ้น จะพูดในส่วนของเรื่องสำคัญ คือ ไวรัสโควิด-19 ที่เรากำลังเผชิญขณะนี้ อยากเรียนว่าสิ่งที่มีการพูดว่าจะพูดในวันจันทร์ วันอังคาร ก็เป็นเรื่องนี้ เรื่องโควิด-19 กำลังเตรียมการอยู่ และมาตรการลดผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงมาตรการรับมือภัยแล้ง ก็มาตามลำดับ ยังไม่มีประกาศเรื่องอื่น หรือแถลงการณ์อะไรทั้งสิ้น ขอให้เข้าใจด้วย เอาเรื่องที่เป็นสาระประโยชน์ เป็นประเด็นที่ประชาชนเดือดร้อนดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายรายงานว่า ตลอดการสัมภาษณ์ นายกฯ มีสีหน้าเรียบเฉย โดยไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน
เตรียมแถลงมาตรการรับมือโควิด-19วันนี้
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ กังวลในเรื่องของหน้ากากอนามัยที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน จึงได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์กระจายสินค้าให้ทั่วถึง และยังได้ขอให้กรมการค้าภายใน เคร่งครัดจับกุม ลงโทษอย่างจริงจัง ในกรณีกักตุนหน้ากากอนามัยและขายเกินราคา โดยนายกฯ ยังได้มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำมาตรการป้องกันและควบคุมการรับมือเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ให้ชัดเจน เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งเรื่องหน้ากากอนามัย และการเดินทางไปต่างประเทศ ที่จะต้องห้ามเดินทางไปประเทศใด โดยหลังการประชุม ครม. จะมีแถลงความชัดเจน
ขณะเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เตรียมขออนุมัติงบกลาง ในที่ประชุมครม.วันนี้ (3มี.ค.) วงเงิน 250 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อวัตถุดิบให้ท้องถิ่นผลิตหน้ากากใช้กันเอง
หาย 1 ป่วยเพิ่มอีก 1
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงชาวไทยอายุ 43 ปี ที่เดินทางกลับจากญี่ปุ่น และรับการรักษาที่รพ.ราชวิถี และยังมีผู้ป่วยรายใหม่อีก 1 ราย เป็นหญิงชาวไทย อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ทำงานร่วมกับผู้ป่วย รายที่ 37 ที่เป็นชายไทยขับรถให้นักท่องเที่ยว ถือว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และมีการติดตามดูแล จึงพบว่าป่วย ทำให้ไทยมีผู้ป่วยสะสม 43 ราย รักษาหาย 31 ราย เสียชีวิต 1 ราย นอนรักษาใน รพ. 11 ราย
ทั้งนี้ การติดตามเฝ้าระวังการเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงยังคงเป็น 11 พื้นที่ และได้ติดตามในหลายประเทศเสี่ยงในอนาคตด้วย เช่น อังกฤษ นอร์เวย์ ภาคกลางของสหรัฐฯ รวมทั้งได้เพิ่มการเฝ้าระวัง จากเดิมเป็นผู้มาจากพื้นที่เสี่ยง คนทำงานใกล้ชิดคนเสี่ยง บุคลากรทางการแพทย์ ปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ ได้ขยายไปยังการป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน คือ 5 คนขึ้นไปในสถานที่เดียวกัน
ของบกลาง 3,500 ล้านรักษาผู้ป่วยโควิด-19
ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ด สปสช. มีมติเห็นชอบให้โรคโควิด-19 อยู่ในประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) และยังได้อนุมัติหลักการให้ใช้เงินกองทุนรายการรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสม ไม่เกิน 1,020 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการเบิกจ่ายในกรณีโรคโควิด-19 ของหน่วยบริการ รวมทั้ง จะเสนอของบกลาง 3,500 ล้านบาทมาใช้เป็นค่ารักษาผู้ป่วยโรคดังกล่าวด้วย โดยจะเสนอ ครม. ในวันนี้ (3 มี.ค.)
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า งบกลางที่มีการเสนอขอ 3,500 บาทนั้น จะเอามาใช้เป็นเป็นค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ ซึ่งในงบประมาณปี 2563 ยังไม่มีการพิจารณาโรคนี้ในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสิทธิบัตรทอง จึงต้องเสนอของบกลางปีมาใช้ก่อนในระยะ 7 เดือนก่อนขึ้นปีงบประมาณใหม่
ขอซื้อยารักษาโควิด-19 จากจีน
วันเดียวกันนี้ นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ได้ติดต่อผ่านทางสถานทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อขอให้ช่วยเจรจากับทางบริษัทผู้ผลิตยาที่ทางการจีนประกาศว่ามีสรรพคุณที่ใช้ได้ดีกับผู้ป่วย โดยขอให้ช่วยเจรจาเพื่อให้ทางการไทยได้ซื้อยาตัวนี้ และขอให้เป็นนโยบายพิเศษ เพราะขณะนี้ทางการจีนยังไม่อนุญาตให้มีการขายยาตัวนี้ออกนอกประเทศ เพราะในประเทศเขายังมีความต้องการมาก แต่เราก็บอกเขาว่า ความจริงที่ต้องการยาตัวนี้มา ก็เพื่อนำมารักษาคนจีนที่ป่วยในไทย จึงขอให้ช่วยประสานงานเพื่อให้เราซื้อได้ ซึ่งทางจีนก็ให้ความร่วมมือเต็มที่
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่มียาใช้รักษาโควิด-19 แต่ยาที่จีนผลิตได้และใช้ได้ดี องค์การเภสัชกรรมได้ยามาส่วนหนึ่งแล้ว จากบริษัทผู้ผลิต ซึ่งใช้คอนเนกชันในการที่เป็นผู้ผลิตยาด้วยกัน ซึ่งนำเข้ามาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยาที่อยู่ในสต็อกของ สธ. หากสถานการณ์ไม่บานปลาย ก็มีเพียงพอที่จะเอามารักษาผู้ป่วยได้ ส่วนยาที่ไทยผลิตเอง ก็รักษาได้ ยับยั้งอาการของโรคได้เป็นอย่างดี ขอให้มั่นใจได้ว่ามียาพร้อม ไม่ได้ขาดแคลนยา
ย้ำยังไม่ระบาดระยะที่ 3
เมื่อถามว่า จะเป็นการประกาศเรื่องการแพร่ระบาด โควิด-19 ขึ้นเป็นระยะ3 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยัง ถ้าในทางการแพทย์ ตอนนี้ยังไม่ใช่ ระยะที่ 3 เพราะระยะที่ 3 ต้องเป็นการติดต่อจากคนสู่คนในประเทศ ในลักษณะที่เป็นคนหมู่มาก ตอนนี้เรายังอยู่ในระยะที่ 2 อยู่ ขอไม่ต้องกังวลกันมาก เพียงแต่ทุกคนต้องช่วยกันดูแล
ส่งตัวแทนรัฐคุมถึงโรงงาน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับ 11 โรงงานผู้ผลิต หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลรัฐ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาการกระจายหน้ากากอนามัยให้ทั่วถึง ว่า กระทรวงพาณิชย์จะส่งตัวแทนเข้าไปประจำอยู่ที่โรงงาน เพื่อรับแจ้งปริมาณการผลิตและกำกับดูแลเรื่องสต๊อกให้ได้ตัวเลขชัดเจน ส่วนการจัดสรรหน้ากากอนามัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขจะมีการบริหารจัดการร่วมกับศูนย์บริหารหน้ากากอนามัย เพื่อให้เพียงพอ
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาการจำหน่ายทางออนไลน์ที่มีราคาแพง กระทรวงพาณิชย์จะขอความร่วมมือกระทรวงดีอี ในการที่จะเข้าไปสืบค้นการโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อจัดการกับผู้ที่กระทำผิดที่ขายในราคาแพงเกินควร และกรณีของแพลตฟอร์มต่างๆที่เป็นแหล่งที่ทำให้ผู้ขายหน้ากากอนามัยเกินราคามาโพสต์จะดำเนินคดีด้วย
ขณะเดียวกัน จะเสนอ ครม. ช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้กับเอกชน ทั้งการนำเข้าเครื่องจักร การนำเข้าวัตถุดิบ เพื่อให้สามารถจำหน่ายหน้ากากอนามัยได้ราคาชิ้นละ 2.50 บาทต่อไป หลังจากที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น
ส่งรถคาราวาน 111 คันขายหน้ากาก
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ จะจัดรถคาราวานออกจำหน่ายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ รวม 111 คัน แยกเป็นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 21 คัน และในต่างจังหวัด 90 คัน ซึ่งถือเป็นช่องทางใหม่ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยราคาแพง และหาซื้อยาก โดยรถแต่ละคันจะมีหน้ากากอนามัยประมาณ 1 หมื่นชิ้น หมุนเวียนออกจำหน่ายให้ทั่วถึงแต่ละชุมชน จำหน่ายให้ประชาชนคนละไม่เกิน 1 แพก แพกละ 4 ชิ้น ราคาชิ้นละ 2.50 บาท หรือแพกละ 10 บาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 5 มี.ค. 2563 นี้ และก่อนที่จะออกไปในแต่ละชุมชนจะแจ้งรายละเอียดผ่านเว็บไซต์ของกรมฯ ก่อนที่จะออกเดินทางด้วย เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัวรอซื้อ
จ่อฟันแพลตฟอร์มออนไลน์ปล่อยขายแพง
นายวิชัยกล่าวว่า กรมฯ กำลังหาช่องทางเอาผิดตามกฎหมายต่อแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ ที่เคยมาร่วมหารือกับกระทรวงพาณิชย์ ทั้งลาซาด้า ช้อปปี้ และเจดี เซ็นทรัล ที่เคยรับปากจะช่วยดูแลการจำหน่ายหน้ากากอนามัยบนแพลตฟอร์มไม่ให้มีการค้ากำไรเกินควร แต่ทุกวันนี้ยังมีการเปิดให้คนเข้ามาขายสินค้าแพง เอาเปรียบประชาชน ก็ต้องถือว่ามีความผิดด้วย ส่วนการจำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก กรมฯ ได้ทำการตรวจสอบ และตามหาตัวผู้กระทำผิดโดยตลอด แต่ต้องยอมรับว่าตามตัวได้ยาก แต่กรมฯ ก็จะตามให้ถึงที่สุด และขอความร่วมมือให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1569 โดยต้องมีรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อให้ทำงานได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ ล่าสุดกรมฯ ได้จับกุมผู้ที่ค้ากำไรเกินควรแล้ว 51 ราย มีทั้งผู้ค้าทั่วไปและค้าออนไลน์ โดยส่งดำเนินคดีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จำนวน 31 ราย มีโทษสูงสุดจำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท และผิดมาตรา 28 ในเรื่องปิดป้ายแสดงราคา 20 ราย มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
"วิษณุ"ยันไม่มีปัญหา"ผีน้อย"ขอกลับบ้าน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยที่ลักลอบเข้าประเทศเกาหลีใต้ผิดกฎหมาย และต้องการจะเดินทางกลับไทยเพื่อหนีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่ถ้าเขาเป็นคนไทยก็สามารถกลับได้อยู่แล้ว เป็นสิทธิของเขา การจะเข้าประเทศไทยไม่มีปัญหา แต่ปัญหาจะอยู่ที่ทางเกาหลี จะผ่านตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้ได้หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนกลับมาแล้วจะถูกดำเนินคดีในประเทศไทยหรือไม่ ก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง อยากกลับก็กลับ แต่ขอให้ผ่านออกมาจากเกาหลีให้ได้ก่อน เพราะขณะนี้เขายังไม่ให้ใครออกนอกประเทศโดยไม่จำเป็น เช่นเดียวกับไทยที่ไม่อยากให้ใครออกนอกประเทศโดยไม่จำเป็นเช่นกัน