xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กแดง” น้อมรับเสียงวิจารณ์หลังแถลงเหตุกราดยิงโคราช ถือเป็นบทเรียนประเทศ รับเป็นคนอ่อนไหว หลั่งน้ำตาสูญเสีย “พลทหารเมธา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผบ.ทบ.เผยทำใจไว้ล่วงหน้าต้องโดนวิจารณ์หลังแถลงข่าวเหตุกราดยิงโคราช แต่สบายใจขึ้นได้พูดสิ่งที่ออกมาจากใจ ขอบคุณสื่อที่ไม่โยงประเด็นการเมือง ยอมรับกระทบครอบครัว ภรรยา-ลูกต้องปิดอินสตาแกรม แต่ถือเป็นเรื่องธรรมดา คนไทยควรหันหน้าเข้าหากันเพื่อประโยชน์ชาติ เผยหลั่งน้ำตาเพราะอ่อนไหวกับเรื่องละเอียดอ่อน โดยเฉพาะต้องสูญเสียกำลังพล ยันดูแลคลังอาวุธไม่หละหลวม ใครจะไปรู้คนคุ้ยเคยกันจะเดินเข้ามาเอาปืนยิง พร้อมเดินหน้าเปิดศูนย์ให้กำลังพลร้องเรียนจันทร์นี้

วันนี้ (12 ก.พ.) เมื่อเวลา 08.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกระแสภายหลังแถลงข่าวรายละเอียดเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ว่า ถือว่าดี และคิดว่าสื่อมีความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ข้าราชการทหาร ตำรวจให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถือเป็นบทเรียนทั้งประเทศ และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก ในส่วนของกองทัพบกก็แสดงความเสียใจ และความรับผิดชอบไปแล้ว แต่ในสื่อออนไลน์ก็ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ก็เป็นเรื่องปกติ และเราก็ทำใจมานานแล้วเพราะห้ามไม่ได้ ขอบคุณสื่อที่ระมัดระวังเรื่องการตั้งคำถามมากกว่าให้เป็นเรื่องประเด็นทางการเมือง

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปร่วมพิธีศพ อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพวงหรีด และพระราชทานสวดอภิธรรมศพ รวมถึงพระราชทานเพลิงศพให้แก่ผู้เสียชีวิต ในส่วนของตนก็จะเดินทางไปร่วมงานศพของตำรวจที่เสียชีวิตที่วัดตรีทศเทพด้วย ขณะที่ส่วนอื่นเป็นเรื่องภายในที่กองทัพบกต้องแก้ไข

พล.อ.อภิรัชต์กล่าวอีกว่า หลังจากได้ชี้แจงไปเมื่อวานนี้แล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ทุกคนก็ต้องพร้อมรับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป

เมื่อถามว่า มองภาพรวมผลตอบกลับจากการแถลงข่าวอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ตนไม่มีอินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก ได้รับแต่ข้อความจากโทรศัพท์มือถือ ในส่วนของภริยาและบุตรก็ต้องปิดโซเชียลมีเดียไปเลย เป็นผลกระทบจากตนที่ทำให้บุคคลใกล้ชิดและครอบครัวได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ตนมองว่าวิกฤตนี้ไม่ควรลืมไปง่ายๆ เราควรหันมารักใคร่กลมเกลียวสามัคคีกัน หันหน้าเข้าหากัน มองผลประโยชน์ของประเทศชาติและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก อย่างมุ่งแต่คนนั้นดี คนนั้นเก่ง คนโน้นไม่ดี สิ่งไม่ดีก็ช่วยกันแนะนำแก้ไข ตอนนี้มีกำลังใจดี

“เมื่อวานได้ผ่อนคลายในสิ่งที่ผมรู้สึกตั้งแต่วันเกิดเหตุ และได้แสดงความรับผิดชอบ ผมพูดจากใจ อาจจะมีคนไปตีว่าเป็น emotional บ้างอะไรบ้าง แต่ทุกอย่างมาจากใจ สิ่งที่ผมทำเขียนมาจากใจกว่าจะลงมาเป็นตัวปากกา ขณะที่สื่อเองก็ได้รับบทเรียน โดยเฉพาะดิจิทัลทีวีที่ถูก กสทช.เรียกไปทำความเข้าใจ ว่าในต่างประเทศเขาบริหารจัดการกันอย่างไร หลายสื่อก็ได้ให้ข้อเสนอแนะที่ดี เพราะบางอย่างอาจทำให้เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบขึ้นมา รวมถึงเอกอัครราชทูตหลายประเทศได้ส่งเอกสารมาถึงผมว่าประเทศเขาก็เคยเกิดขึ้นและได้แนะนำวิธีการบริหารจัดการในหลายๆ อย่าง” ผบ.ทบ.กล่าว

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกมองเรื่องแถลงข่าวด้วยน้ำตา พล.อ.อภิรัชต์กล่าวว่า ตนเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะสิ่งที่เสียใจที่สุดคือการสูญเสียผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะพลทหารเมธา เลิศศิริ ที่ไม่มีใครกล่าวถึงว่าเขาเสียชีวิตระหว่างยืนยามรักษาการณ์ แต่ไปมองว่ากองทัพหละหลวม ตนถามว่าถ้าหละหลวมจะมียืนยามรักษาการณ์อยู่ไหม เพราะคนที่เห็นหน้ากันทุกวันใครจะรู้ว่าจะเดินเข้ามาแล้วเอาปืนมายิง คนทำงานด้วยกันเห็นหน้ากันทุกวัน ใครจะไปรู้ ใครจะไปเฉลียวใจ

“ฝากขอให้คิดไปดูข้อความที่คนแชร์ในโซเชียลมีเดีย เรื่องเฉินหลง ที่บรรทัดแรกๆ เขียนว่าเฉินหลง 65 ปี ได้นอนอย่างสงบที่ฮ่องกง ทำให้เข้าใจว่าเฉินหลงเสียชีวิต แต่พอไล่บรรทัดถัดมาเขาก็เขียนว่าเฉินหลงตื่นเช้ามาก็ตื่นเช้าออกกำลังกายปกติ จึงอยากให้คนไทยอ่านหนังสือมากกว่า 8 บรรทัด เวลาอ่านอะไรอย่าอ่านแค่ 3-4 บรรทัดแล้วไม่อ่าน” ผบ.ทบ.กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น