xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าตัดใหญ่กองทัพบก ภารกิจสุดหินของ"บิ๊กแดง"

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

หลังจากเกิดเหตุทหารนายหนึ่งก่ออาชญากรรม กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนเกิดเหตุเศร้าสลด มีผู้เสียชีวิตถึง 30 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 50 ราย ขณะเดียวกันจากเหตุการณ์นี้ ก็ได้สร้างแรงกดดันขึ้นมาจากกลุ่มคนบางกลุ่ม พุ่งเป้าโจมตีมาที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในกองทัพ โดยเฉพาะ “บิ๊กแดง”พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก โดยคนกลุ่มนี้ยังเรียกร้องให้ พล.อ.อภิรัชต์ แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก
แน่นอนว่า ก็ต้องย้ำว่าแรงกดดันที่พุ่งไปที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ นั้นมาจากคนบางกลุ่ม หรือมาจากบางพรรคการเมือง และบรรดาแนวร่วมของพรรคการเมืองนั้น
หากพิจารณาจากความเป็นจริงเมื่อได้เห็นหน้าค่าตาที่คนพวกหน้าโผล่หน้าออกมาชี้หน้าด่าว่า ซึ่งหากมองจากแบ็กกราวด์ และที่มาที่ไปมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะมีท่าทีแบบนี้ การชื่นชมนั่นอาจถือว่าเป็นเรื่องแปลก
แต่คำถามก็คือ ปฏิกิริยาแบบที่ว่าเป็นการกดดันให้ พล.อ.อภิรัชต์ ต้องลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เพื่อแสดงความรับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่มีทหารนายหนึ่งก่อเหตุกราดยิงที่โคราช จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าวนี้ เป็นกระแสสังคมเกิดเป็นอารมณ์ร่วมมากน้อยแค่ไหน หรือว่ามีแค่เฉพาะวงจำกัดเฉพาะคนในพรรคเพื่อไทย และแนวร่วม “บางคน”เท่านั้นหรือไม่
**เมื่อพิจารณาตามสถานการณ์ความเป็นจริง มันก็เป็นแค่การแสดงออกเฉพาะในกลุ่มไม่กี่คน หรือเป็นแค่คนส่วนน้อย ไม่ใช่อารมณ์ร่วมของสังคม เพราะเท่าที่มองเห็นคนส่วนใหญ่ยังมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แม้ว่าอาจจะมีความข้องใจว่า การป้องกันอาวุธในคลังนั้นยังมีความหละหลวมและไม่มีความรัดกุมมากพอ
อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดเหตุ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีการแถลงชี้แจงในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ อย่างละเอียด โดยตอบคำถามทุกคำถาม ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเต็ม โดยเน้นย้ำว่าคนที่ก่อเหตุถือว่าเป็นอาชญากรแล้ว แม้ว่าจะเคยเป็นทหาร และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสุดซึ้ง พร้อมกันนี้ ได้ระบุอย่างชัดเจนว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุมาจากเรื่องความไม่ได้รับความเป็นธรรม และถูกเอาเปรียบจากผู้บังคับบัญชาและญาติพี่น้อง
แต่สิ่งที่น่าจับตาก็คือ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ได้ประกาศว่า นับจากนี้ไปในช่วงเวลาราชการที่เหลืออยู่ 6-7 เดือนนี้ เขาจะผ่าตัดกองทัพ จัดการกับปัญหาการทุจริต การเอารัดเอาเปรียบทุกรูปแบบในกองทัพ พร้อมทั้งมีการเปิด “สายด่วน”ให้ทหารทุกคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเดือดร้อนร้องเรียนในทางลับได้โดยตรงอีกด้วย โดยย้ำว่า จะทำให้ดีที่สุด พร้อมทั้งเปิดเผยว่าที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการไปแล้วเพียงแต่ว่าไม่ได้เป็นข่าวเท่านั้นเอง
**แน่นอนว่า คำพูดและท่าทีของผู้บัญชาการทหารบกที่ย้ำว่าจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ในลักษณะการ “ผ่าตัด”ในกองทัพบกย่อมต้องเป็นที่จับตาจากสังคมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสังคมภายนอก หรือแม้แต่สังคมภายในกองทัพด้วยกันเอง ว่าเขาจะทำได้แค่ไหน เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่และไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะเชื่อว่าหลายคนย่อมรับรู้ว่าภายในกองทัพซึ่งถือว่าเป็นองค์กรใหญ่ที่มีทั้งอำนาจและผลประโยชน์มหาศาล โดยเฉพาะผลประโยชน์ ที่มีนายทหารหลายกลุ่มทั้งระดับล่างขึ้นไปถึงระดับสูงได้รับต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ซึ่งเรื่องบ้านพักสวัสดิการทหาร ที่เป็นสาเหตุในการก่อเหตุอันน่าเศร้าในครั้งนี้ ก็เป็นเพียงแค่หนึ่งตัวอย่างเท่านั้น ยังมีหลายเรื่องที่จะต้องมีการ “ผ่าตัด”หรือรื้อกันครั้งใหญ่
แต่คำถามก็คือ “บิ๊กแดง”จะทำได้แค่ไหน เพราะสิ่งที่เขาพูดมานั้น ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และที่ผ่านมายังไม่เคยมีการประกาศดำเนินการแบบนี้มาก่อน ขณะเดียวกันเมื่อมีการสอบสวน ก็ย่อมต้องมีการโยกย้ายตามมา ซึ่งในวันแถลงข่าว พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ก็ประกาศแล้วว่า อีกไม่นานจะมีการโยกย้ายกันกราวรูดตามมา
ขณะเดียวกัน ยังเป็นคำถามตามมาอีกว่าการผ่าตัดคราวนี้จะเป็นการ “ปฏิรูปกองทัพ”หรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงการจัดการกับปัญหาความไม่ชอบมาพากลที่กลายเป็นข้อสงสัยหรือมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกมาเป็นเวลานาน เป็นการมุ่งเน้นแก้ปัญหา ข้อครหาเรื่องการทุจริตภายใน การไม่ได้รับความเป็นธรรมของทหารระดับล่าง หรือไม่
อย่างไรก็ดี การขยับตัวของ “บิ๊กแดง”พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ในครั้งนี้ ถือว่าน่าจับตาและน่าจะได้รับการสนับสนุนจากสังคมที่อยากให้กองทัพบกมีการเปลี่ยนแปลงที่ทันสมัย ขจัดข้อครหาในเรื่องความไม่ชอบมาพากล การเอาเปรียบผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบได้ในระดับที่เหมาะสม แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ดำเนินการนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ และย่อมต้องมีคนเสียผลประโยชน์ขัดขวาง
**แต่เชื่อว่าเมื่อเดินหน้าแล้วก็คงต้องเดินไปให้สุด เพราะงานนี้เดิมพันสูงเหมือนกัน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น