'บิ๊กแดง' ส่งสัญญาณความเร็วสูง ถึงพวก “ชอบด่า” ยก 'ซีบร้า' รู้จักบุญคุณ มีมารยาท ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ เป็นคนได้คงไม่อยากเป็น เพราะคนพวกนั้น
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(12 ก.พ.63) นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ระบุว่า "มันคงอยากได้นายแมนๆ และมีความรับผิดชอบมากกว่าครับ"
ทั้งนี้ ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ “บิ๊กแดง” รับผิดชอบ ด้วยการลาออก ในกรณี “จ่าคลั่ง”
และท่ามกลาง “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้พบกับสุนัขทหารพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดที่มีชื่อว่า “ซีบร้า” วัย 3 ปี จากหมวดสุนัขทหารกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ซึ่งทำหน้าที่ดูแลบก.ทบ. ก่อนเข้าร่วมทดสอบร่างกายประจำปีงบประมาณ 2563
ในวันเดียวกัน (12 ก.พ. 63) มีรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบร่างกายพล.อ.อภิรัชต์ ได้ขึ้นไปยังห้องทำงานและเขียนข้อความเป็นบทความสั้นๆ แสดงความรู้สึกส่งต่อให้คนใกล้ชิดและสื่อมวลชนได้อ่าน หลังจากถูกกระแสโซเชียลมีเดียแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สืบเนื่องจากกรณีที่ร้องไห้ระหว่างแถลงรายละเอียดเหตุการณ์กราดยิงโคราช
โดยพล.อ.อภิรัชต์ ระบุว่า “สุนัขทหารยังรู้จักสำนึกบุญคุณกองทัพบก รู้สึกรัก และหวงแหน มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ถูกฝึกมาให้ปฏิบัติหน้าที่ เช่น ตรวจหาวัตถุระเบิด ค้นหายาเสพติด เฝ้าสถานที่สำคัญ หรือปกป้องเจ้านาย เขาจะดุจะเห่าคนแปลกหน้า หรือหากพบสิ่งผิดสังเกต เพื่อนๆของซีบร้าเคยเสียชีวิต จากการปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
และซีบร้า เขาก็รู้ว่า ผมคือผู้บังคับบัญชาเขา ถึงแม้เราจะพบกันเป็นครั้งแรก ซีบร้าเขาไม่เห่าพร่ำเพรื่อ มีมารยาท และมีความรับรู้ ถึงความรู้สึกของมนุษย์ เช่น ทหารที่เลี้ยงดูเขาเป็นอย่างดี ถ้าเจ้าซีบร้า สุนัขทหารตัวนี้พิมพ์ทวิตเตอร์เป็น เล่นเฟซบุ๊ก เล่นไอจีได้คงสนุกแน่
ถ้าเจ้าซีบร้าอ่านหนังสือออก มันคงมองเห็นพวกที่โพสต์ข้อความที่สร้างให้เกิดความเกลียดชังกันในระหว่างเพื่อนมนุษย์ โพสต์ข้อความชังชาติ และเจ้าซีบร้าก็คงอยากเป็นซีบร้าเหมือนเดิม คงกลัวที่จะกลายเป็นมนุษย์พวกนั้น” ลงชื่อพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.
อย่างไรก็ตาม พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวถึงกระแสภายหลังแถลงข่าวกรณีกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าเทอมินัล 21 จ.นครราชสีมาว่า ถือว่าดี และคิดว่าสื่อมีความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ข้าราชการทหาร ตำรวจ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถือเป็นบทเรียนทั้งประเทศ และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก
ในส่วนของกองทัพบกก็แสดงความเสียใจ และความรับผิดชอบไปแล้ว แต่ในสื่อออนไลน์ก็ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นเรื่องปกติ และเราก็ทำใจมานานแล้ว เพราะห้ามไม่ได้ ขอบคุณสื่อที่ระมัดระวังเรื่องการตั้งคำถามมากกว่าให้เป็นเรื่องประเด็นทางการเมือง
เมื่อถามว่า มองภาพรวมผลตอบกลับจากการแถลงข่าวอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่มีอินสตราแกรมและเฟซบุ๊ก ได้รับแต่ข้อความจากโทรศัพท์มือถือ ในส่วนของภริยาและบุตร ก็ต้องปิดโซเชียลมีเดียไปเลย เป็นผลกระทบจากตน ที่ทำให้บุคคลใกล้ชิดและครอบครัวได้รับผลกระทบไปด้วย
แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตนมองว่า วิกฤตินี้ไม่ควรลืมง่ายๆ เราควรหันมารักใคร่กลมเกลียวสามัคคีกัน หันหน้าเข้าหากัน มองผลประโยชน์ของประเทศชาติและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก อย่ามุ่งแต่ คนนั้นดี คนนั้นเก่ง คนโน่นไม่ดี สิ่งไม่ดีก็ช่วยกันแนะนำแก้ไข
ตอนนี้มีกำลังใจดี เมื่อวานได้ผ่อนคลายในสิ่งที่ตนเองรู้สึกตั้งแต่วันเกิดเหตุ และได้แสดงความรับผิดชอบ ตนพูดจากใจ อาจจะมีคนไปตีว่าเป็น emotional บ้าง อะไรบ้างแต่ทุกอย่างมาจากใจ สิ่งที่ตนทำเขียนมาจากใจกว่าจะลงมาเป็นตัวปากกา ขณะที่สื่อเองก็ได้รับบทเรียน โดยเฉพาะดิจิทัลทีวีที่ถูก กสทช.เรียกไปทำความเข้าใจ ว่าในต่างประเทศเขาบริหารจัดการกันอย่างไร หลายสื่อก็ได้ให้ข้อเสนอแนะที่ดี เพราะบางอย่างอาจทำให้เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบขึ้นมา รวมถึงเอกอัครราชทูตหลายประเทศได้ส่งเอกสารมาถึงตนเอง ว่าประเทศเขาก็เคยเกิดขึ้นและได้แนะนำวิธีการบริหารจัดการในหลายๆ อย่าง
เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า “บิ๊กแดง” ก็ไม่ธรรมดา ในการตอบโต้กระแส และเกมการเมืองเหมือนกัน!?