xs
xsm
sm
md
lg

“พีระพันธุ์” นั่ง ปธ.กมธ.แก้ รธน.ตามคาด ฝ่ายค้านยังฝันตั้ง ส.ส.ร.แก้ทั้งฉบับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประชุม กมธ.แก้ รธน. “เทพไท” เผย “พีระพันธุ์” เข้าวินนั่ง ปธ. เจ้าตัวขอบคุณ อยากให้มองเป็นเพื่อนร่วมงานทำเพื่อ ปชช. เชื่องานออกมาดี ฝ่ายค้านยังเชียร์ตั้ง ส.ส.ร.แก้ทั้งฉบับ จี้ รบ.-ส.ว.มองชาติเป็นหลัก แนะเผยทุกกระบวนการ




วันนี้ (24 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 นัดแรก โดยเจ้าหน้าที่ได้นำกล่องลงคะแนนมาวางรอไว้ที่ท้ายห้องประชุม เพื่อพิจารณาเลือกบุคคลทำหน้าที่สำคัญๆ ในคณะ กมธ.ตามระเบียบวาระ อาทิ ประธาน กมธ. รองประธานกมธ. รวมไปถึงโฆษก กมธ. เป็นต้น

โดยบรรยากาศก่อนการเริ่มประชุมเป็นไปอย่างดี กมธ.ทั้งสัดส่วนฝ่ายรัฐบาล และสัดส่วนฝ่ายค้านต่างทักทาย และจับมือกันด้วยความชื่นมื่น กระทั่งเมื่อ กมธ.มาครบองค์ประชุม เลขานุการคณะ กมธ.ได้เปิดการประชุม โดยเชิญ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ กมธ.ผู้ที่มีอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว ก่อนที่จะเชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม เพื่อดำเนินการตามระเบียบวาระต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวีตข้อความถึงผลการลงคะแนนตำแหน่งประธาน กมธ. โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้คะแนนมากที่สุด 25 คะแนน ขณะที่นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเป็นลำดับ 2 คือ 19 คะแนน

ด้าน นายโภคิน พลกุล กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ฝ่ายค้านยังเชื่อว่า แนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญดีที่สุด คือ การตั้ง ส.ส.ร.มาแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1 และ 2 โดยอาจแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อเปิดช่องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ขอเชิญทุกฝ่ายร่วมมือให้การแก้รัฐธรรมนูญเดินหน้าไปได้ วันนี้เป็นเพียงการศึกษาแนวทางแก้ไข เราจะตั้งตุ๊กตาไว้ให้ แล้วให้กระบวนการต่อไปมาดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่า รัฐบาลจะให้แก้รัฐธรรมนูญจริงหรือไม่ นายโภคิน กล่าวว่า คนเราต้องอยู่ด้วยความหวังและความเชื่อ ถ้ารัฐบาลมองประเทศเป็นหลัก คิดว่า ควรมาร่วมเดินกับฝ่ายค้านด้วย วันนี้ยังไม่รู้เลยว่า รัฐธรรมนูญที่ ส.ส.ร.จะร่างมาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ถ้าทุกพรรคเห็นด้วย มาตรา 256 จะไม่มีความหมาย สามารถแก้ไขได้เลย แต่จะแก้ไขไม่ได้ ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย ดังนั้น มาตรา 256 ไม่ใช่อุปสรรค

ต่อข้อถามว่า คิดว่า ส.ว.จะเห็นด้วยกับการให้มี ส.ส.ร.หรือไม่ นายโภคิน กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าอยากให้ประเทศเดินหน้าไปด้วยกัน ควรฟังเสียงจากทุกฝ่าย เพราะรัฐธรรมนูญนี้ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบเลย ถ้านี่คือทางออกของบ้านเมือง เรามาเดินไปด้วยกันหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยกับแนวทางก็มาเดินไปด้วยกัน ไม่มีอะไรยากเลย ส่วนจะหาฉันทามติจากประชาชนนอกสภา มาร่วมแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น จะต้องให้ความรู้แก่ประชาชนด้านต่างๆ เพราะประชาชนอยากมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่ กมธ.19 คนคุยกันเอง แต่ไม่ควรใช้เวลานานเกินไป ภาควิชาการ และภาคประชาชน มีสิทธิแสดงความเห็น กมธ.ก็ทำหน้าที่ไปควบคู่กับการให้ความรู้ประชาชน และคิดว่า ประเด็นนี้ควรเปิดเผยกระบวนการทุกขั้นตอนให้ประชาชนรับรู้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการคัดเลือกตำแหน่งต่างๆ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญาหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานกรรมาธิการวิสามัญ ส่วน รองประธาน กมธ. 7 คน ประกอบด้วย นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายวัฒนา เมืองสุข นายชำนาญ จันทรเรือง นายชินวรณ์ บุญเกียรติ นายวิเชียร ชวลิต นายสมชัย สุทธิยากร และ นายศุภชัย ใจสมุทร

นายทศพล เพ็งส้ม เลขานุการ โดยมีเลขานุการ 4 คน ประกอบด้วย นายจตุพร เจริญเชื้อ นายวลัย พรรัตนเศรษฐ นายภราดร ปริศนานันทกุล และ นายชัยธวัช ตุลาธน

ส่วนตำแหน่งโฆษก 5 คน คือ นายสุทิน คลังแสง นายธนกร วังบุญคงชนะ นายรังสิมันต์ โรม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์

สำหรับที่ปรึกษา กมธ. ประกอบด้วย นายโภคิน พลกุล นายสัมพันธ์ เลิศนวัฒน์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นายสุทัศน์ เงินหมื่น นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ และ นายสุรสิทธ์ นิธิวุฒิวร

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อ กมธ.ได้พิจารณาในตำแหน่งสำคัญครบทุกตำแหน่งแล้ว นายบัญญัติ ได้เชิญ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นั่งหัวโต๊ะเพื่อทำหน้าประธาน กมธ. โดย นายพีระพันธุ์ กล่าวขอบคุณตอนหนึ่งว่า “ต้องขอบคุณเพื่อน กมธ.ทุกคนที่มอบหมายให้ทำให้หน้าที่นี้ ผมอยากให้ กมธ.มองว่า เราเป็นเพื่อนร่วมงานกันเพื่อทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน และประเทศชาติ เพื่อประโยชน์สุขของบ้านเมืองทุกอย่างก็จะไปได้ดี ขณะนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะในท้ายที่สุดสามารถเดินหน้าการประชุมได้จนหาข้อยุติได้หมด ดังนั้น ผมเชื่อมั่นว่า กมธ.ชุดนี้จะทำงานออกมาได้เป็นอย่างดี เพราะแค่เริ่มต้นก็ผ่านได้ดีแล้ว” อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีการหารือถึงกำหนดการประชุม กมธ.ในแต่ละสัปดาห์ โดยเห็นชอบให้ประชุมทุกวันศุกร์ เวลา 09.00-12.00 น. ก่อนที่จะนัดประชุมครั้งต่อไป ในวันที่ 10 มกราคม 2563














กำลังโหลดความคิดเห็น