วานนี้ (24ธ.ค.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 นัดแรก เพื่อพิจารณาเลือกบุคคลทำหน้าที่สำคัญๆ ในคณะกมธ. ตามระเบียบวาระ อาทิ ประธานกมธ. รองประธานกมธ. รวมไปถึงโฆษกกมธ. เป็นต้น
บรรยากาศก่อนการเริ่มประชุมเป็นไปด้วยดี กมธ.ทั้งสัดส่วนฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านต่างทักทายและจับมือกันด้วยความยินดี กระทั่งเมื่อกมธ. มาครบองค์ประชุม เลขานุการคณะกมธ.ได้เปิดการประชุม โดยเชิญนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกมธ.ผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว ก่อนที่จะเชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม เพื่อดำเนินการตามระเบียบวาระต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวิตข้อความถึงผลการลงคะแนนตำแหน่งประธานกมธ.ฯ โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้คะแนนมากที่สุด 25 คะแนน ขณะที่นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเป็นลำดับ 2 คือ 19 คะแนน
ด้านนายโภคิน ในฐานะกมธ. กล่าวว่า ฝ่ายค้านยังเชื่อว่าแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดคือ การตั้ง ส.ส.ร. มาแก้ไขทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1 และ หมวด 2 โดยอาจแก้รธน. มาตรา 256 เพื่อเปิดช่องให้มีการแก้ไขรธน.ทั้งฉบับ ขอเชิญทุกฝ่ายร่วมมือให้การแก้รธน. เดินหน้าไปได้ วันนี้เป็นเพียงการศึกษาแนวทางแก้ไข เราจะตั้งตุ๊กตาไว้ให้ แล้วให้กระบวนการต่อไปมาดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่ารัฐบาลจะให้แก้รธน. จริงหรือไม่ นายโภคิน กล่าวว่า คนเราต้องอยู่ด้วยความหวังและความเชื่อ ถ้ารัฐบาลมองประเทศเป็นหลัก ก็คิดว่าควรมาร่วมเดินกับฝ่ายค้านด้วย วันนี้ยังไม่รู้เลยว่ารธน. ที่ส.ส.ร.จะร่างมา จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ถ้าทุกพรรคเห็นด้วย มาตรา 256 จะไม่มีความหมาย สามารถแก้ไขได้เลย แต่จะแก้ไขไม่ได้ ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย ดังนั้นมาตรา 256 ไม่ใช่อุปสรรค
ส่วน ส.ว.จะเห็นด้วยกับการให้มี ส.ส.ร.หรือไม่นั้น นายโภคิน กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าอยากให้ประเทศเดินหน้าไปด้วยกัน ควรฟังเสียงจากทุกฝ่าย เพราะรธน.นี้ จะไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบเลย ถ้านี่คือทางออกของบ้านเมือง เราจะมาเดินไปด้วยกันหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยกับแนวทาง ก็มาเดินไปด้วยกัน ไม่มีอะไรยากเลย ส่วนจะหาฉันทามติจากประชาชนนอกสภาฯ มาร่วมแก้รธน. หรือไม่นั้น จะต้องให้ความรู้แก่ประชาชนในด้านต่างๆ เพราะประชาชนก็อยากมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่ กมธ.19 คน คุยกันเอง อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เวลานานเกินไป ภาควิชาการ และภาคประชาชน มีสิทธิแสดงความเห็น กมธ.ก็ทำหน้าที่ไปควบคู่กับการให้ความรู้ประชาชน และคิดว่าประเด็นนี้ควรเปิดเผยกระบวนการทุกขั้นตอนให้ประชาชนรับรู้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตัดเลือกตำแหน่งต่างๆในกมธ.ชุดนี้ ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานกมธ. ส่วนรองประธานกมธ. มี 7 คน คือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายวัฒนา เมืองสุข นายชำนาญ จันทร์เรือง นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายวิเชียร ชวลิต นายสมชัย ศรีสุทธิยากร และ นายศุภชัย ใจสมุทร
นายทศพล เพ็งส้ม เลขานุการ โดยมีรองเลขานุการ 4 คน คือ นายจตุพร เจริญเชื้อ นายวลัย พรรัตนเศรษฐ นายภราดร ปริศนานันทกุล และ นายชัยธวัช ตุลาธน
ตำแหน่งโฆษกฯ 5 คน คือ นายสุทิน คลังแสง นายธนกร วังบุญคงชนะ นายรังสิมันต์ โรม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และน.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์
สำหรับที่ปรึกษา กมธ. ประกอบด้วย นายโภคิน พลกุล นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นายสุทัศน์ เงินหมื่น นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ และ นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรลักษณ์
บรรยากาศก่อนการเริ่มประชุมเป็นไปด้วยดี กมธ.ทั้งสัดส่วนฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านต่างทักทายและจับมือกันด้วยความยินดี กระทั่งเมื่อกมธ. มาครบองค์ประชุม เลขานุการคณะกมธ.ได้เปิดการประชุม โดยเชิญนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกมธ.ผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว ก่อนที่จะเชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม เพื่อดำเนินการตามระเบียบวาระต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวิตข้อความถึงผลการลงคะแนนตำแหน่งประธานกมธ.ฯ โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้คะแนนมากที่สุด 25 คะแนน ขณะที่นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนเป็นลำดับ 2 คือ 19 คะแนน
ด้านนายโภคิน ในฐานะกมธ. กล่าวว่า ฝ่ายค้านยังเชื่อว่าแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดคือ การตั้ง ส.ส.ร. มาแก้ไขทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1 และ หมวด 2 โดยอาจแก้รธน. มาตรา 256 เพื่อเปิดช่องให้มีการแก้ไขรธน.ทั้งฉบับ ขอเชิญทุกฝ่ายร่วมมือให้การแก้รธน. เดินหน้าไปได้ วันนี้เป็นเพียงการศึกษาแนวทางแก้ไข เราจะตั้งตุ๊กตาไว้ให้ แล้วให้กระบวนการต่อไปมาดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่ารัฐบาลจะให้แก้รธน. จริงหรือไม่ นายโภคิน กล่าวว่า คนเราต้องอยู่ด้วยความหวังและความเชื่อ ถ้ารัฐบาลมองประเทศเป็นหลัก ก็คิดว่าควรมาร่วมเดินกับฝ่ายค้านด้วย วันนี้ยังไม่รู้เลยว่ารธน. ที่ส.ส.ร.จะร่างมา จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ถ้าทุกพรรคเห็นด้วย มาตรา 256 จะไม่มีความหมาย สามารถแก้ไขได้เลย แต่จะแก้ไขไม่ได้ ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เห็นด้วย ดังนั้นมาตรา 256 ไม่ใช่อุปสรรค
ส่วน ส.ว.จะเห็นด้วยกับการให้มี ส.ส.ร.หรือไม่นั้น นายโภคิน กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ถ้าอยากให้ประเทศเดินหน้าไปด้วยกัน ควรฟังเสียงจากทุกฝ่าย เพราะรธน.นี้ จะไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบเลย ถ้านี่คือทางออกของบ้านเมือง เราจะมาเดินไปด้วยกันหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยกับแนวทาง ก็มาเดินไปด้วยกัน ไม่มีอะไรยากเลย ส่วนจะหาฉันทามติจากประชาชนนอกสภาฯ มาร่วมแก้รธน. หรือไม่นั้น จะต้องให้ความรู้แก่ประชาชนในด้านต่างๆ เพราะประชาชนก็อยากมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่ กมธ.19 คน คุยกันเอง อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เวลานานเกินไป ภาควิชาการ และภาคประชาชน มีสิทธิแสดงความเห็น กมธ.ก็ทำหน้าที่ไปควบคู่กับการให้ความรู้ประชาชน และคิดว่าประเด็นนี้ควรเปิดเผยกระบวนการทุกขั้นตอนให้ประชาชนรับรู้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการตัดเลือกตำแหน่งต่างๆในกมธ.ชุดนี้ ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานกมธ. ส่วนรองประธานกมธ. มี 7 คน คือ นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายวัฒนา เมืองสุข นายชำนาญ จันทร์เรือง นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายวิเชียร ชวลิต นายสมชัย ศรีสุทธิยากร และ นายศุภชัย ใจสมุทร
นายทศพล เพ็งส้ม เลขานุการ โดยมีรองเลขานุการ 4 คน คือ นายจตุพร เจริญเชื้อ นายวลัย พรรัตนเศรษฐ นายภราดร ปริศนานันทกุล และ นายชัยธวัช ตุลาธน
ตำแหน่งโฆษกฯ 5 คน คือ นายสุทิน คลังแสง นายธนกร วังบุญคงชนะ นายรังสิมันต์ โรม นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และน.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์
สำหรับที่ปรึกษา กมธ. ประกอบด้วย นายโภคิน พลกุล นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นายสุทัศน์ เงินหมื่น นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ และ นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรลักษณ์