xs
xsm
sm
md
lg

“ธนาธร” กับการดิ้นรนเฮือกสุดท้าย !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา


หากนับจากวันนี้ 18 พฤศจิกายน ก่อนจะถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน ก็เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นก็จะรู้ว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เวลานี้ยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จะมีชะตากรรมเช่นไร เพราะในวันดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญได้นัดวินิจฉัยคดีที่ถูกร้องกรณีถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด จะมีคำวินิจฉัยออกมาแบบไหนกันแน่ เป็นบวกหรือลบกับตัวเขาอย่างไร แต่หากฟังจากเสียงประเมินของหลายฝ่ายที่เป็นผู้รู้ด้านกฎหมายส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดล้วนออกมาในทางเดียวกันคือ “รอดยาก”

เพราะแม้แต่เจ้าตัวเมื่อพิจารณาจากท่าทีที่ผ่านมาก็เหมือนกับรู้ชะตากรรมล่วงหน้าในทำนองว่า “โดนแน่” จะด้วยสาเหตุแบบนี้หรือเปล่าที่ในระยะหลังเขาจึงใช้เครือข่าย แนวร่วมมีการเคลื่อนไหวในการ “ปลุกพลัง” กันมากแบบผิดปกติหรือไม่

สำหรับคดีถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นาทีนี้คงไม่ต้องกล่าวถึงรายละเอียดของเรื่องราวกันมากนัก เชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะทราบเรื่องราวกันดีอยู่แล้ว เอาเป็นว่า สิ่งที่ ธนาธร จะต้องพิสูจน์ให้ได้ก็คือมีการขายหุ้นหรือถ่ายเทหุ้นก่อนหรือหลังวันสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่เท่านั้นเอง ซึ่งหากขายหุ้นหลังวันสมัครรับเลือกตั้งเขาก็จะมีความผิดตามกฎหมาย

หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าก่อนหน้านี้ สิ่งที่ ธนาธร พยายามอธิบายและชี้แจงทั้งคำพูดและนำเสนอเอกสารพยายามชี้ให้เห็นว่าเขาได้ขายหุ้นสื่อดังกล่าวไปให้กับคนในครอบครัวก่อนวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ว่าจะเป็นการ “บึ่งรถยนต์” ด้วยการแสดงหลักฐาน “ใบสั่ง” เพื่อชี้ให้เห็นว่าความเร็วเกินกฎหมายกำหนด เพื่อมาให้ทันเวลาการเซ็นต์ดอนโอนหุ้นตามวันที่กำหนด แต่ก็มีเสียงโต้แย้งกลับไปว่า ใบสั่งดังกล่าวไม่ใช่สิ่งพิสูจน์ตัวตนว่าเขาได้เดินทางในวันดังกล่าว เพราะในใบสั่งจะระบุแค่หมายเลขทะเบียนรถและความเร็วที่เกินกฎหมายกำหนดเท่านั้น

นอกเหนือจากนี้ในวันที่มีการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมาที่ศาลได้เปิดให้มีการไต่สวนนั้น ทาง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็มักจะบอกว่า “จำไม่ได้” หรือไม่ยอมตอบคำถามโดยแสดงอารมณ์หงุดหงิดออกมาเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ชี้แจงหลักฐานออกมาเท่าใดนัก ทำให้หลายคนที่สังเกตการณ์อยู่วงนอกประเมินได้ทันทีว่างานนี้ “รอดยาก” เพราะมองว่าไม่ได้มีหลักฐานใหม่มาหักล้างได้เลย

และจะด้วยสาเหตุนี้หรือเปล่าที่ในช่วงเวลาหลังจากนั้น เขาจึงใช้เวลาเกือบทั้งหมดออกมาเคลื่อนไหวข้างนอก เริ่มตั้งแต่ใช้การเคลื่อนไหวทางโลกออนไลน์โพสต์ข้อความสื่อออกมาบางอย่าง โดยเฉพาะคำว่า “อยู่ไม่เป็น” ทำนองชี้ให้เห็นทำนองว่า เป็นเพราะพวกเขาและพรรคอนาคตใหม่ “อยู่ไม่เป็น” ถึงทให้ต้องมีชะตากรรมแบบนี้ เป็นต้น ขณะเดียวกันก็มีการจัดงานรณรงค์รวมพล คน “อยู่ไม่เป็น” ไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาในห้องประชุมแห่งหนึ่งก็มีบรรดาสมาชิกพรรคและบรรดาผู้สนับสนุนนับพันคนที่ไปร่วมงานดังกล่าว

หากพิจารณาจากเนื้อหาที่ ธนาธร พยายามเน้นย้ำสื่อสารออกมาก็คือเป็นเพราะ “ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ” หรือต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ออกมาจากวังวนแบบเดิมๆ จึงต้องมีชะตากรรมแบบนี้ ความหมายก็คือเขาถูก “กลั่นแกล้ง” นั่นแหละ ซึ่งแน่นอนว่า บรรดา “จำเลย” ก็มักจะพูดหรืออ้างแบบนี้เกือบทุกคน หรือไม่ก็แบบว่า “เขาหาว่า” อะไรแบบนี้ แต่ทุกอย่างต้องพิสูจน์กันด้วยหลักฐานข้อเท็จจริง และที่สำคัญในระบบของศาลรัฐธรรมนูญยังเปิดโอกาสให้ศาลมีการไต่ส่วนหาความจริงด้วยความจริงอีกทางหนึ่งด้วย ต่างกับระบบของศาลอาญาทั่วไปที่เป็นระบบกล่าวหาอย่างเดียว

อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาตามรูปการเท่าที่เห็นอาการในเวลานี้สำหรับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เหมือนกับ “ยืนอยู่บนปากเหว” เพราะเมื่อพิจารณาจากพยานหลักฐานเอกสารทางราชการ และมติเอกฉันท์ก่อนหน้านี้ทั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่มีมติยื่นคำร้องพร้อมแสดงหลักฐานยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็มีมติเป็นเอกฉันท์ รมไปถึงมติเอกฉันท์ในการสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.เป็นการชั่วคราวก่อนหน้านี้ มันก็ย่อมมีความหมายในตัวเองอยู่แล้ว
การที่ ธนาธร และพวกจัดงานวัน รวมพล “คนอยู่ไม่เป็น” เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีถือหุ้นสื่อในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ไม่ว่าใครก็ย่อมมองออกในทางเดียวกันว่าเป็นความพยายามกดดันศาล แต่ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ในอดีตเมื่อเปรียบเทียบกับคดี “ซุกหุ้น” ของทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2544 กับตอนนี้บรรยากาศต่างกันลิบลับ

โดยเฉพาะกระแสของ ทักษิณกับ ธนาธรในตอนนี้ อีกทั้งยังเกิดความผิดพลาดจากการที่ไป “เหยียบ” ทักษิณ กลางศาลมาแล้ว มันก็ยิ่งทำให้มวลชนฝ่าย ทักษิณ ที่เคยเป็นแนวร่วมก็ออกห่าง หรืออีกมุมหนึ่งก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าสำหรับพรรคเพื่อไทยแล้วในใจลึกๆแล้วคงอยากให้ ธนาธร มีอันเป็นไปเสียได้ก็ดี เพราะจะว่าไปแล้วนี่คือคู่แข่งในเส้นทางเดียวกันในวันข้างหน้านั่นแหละ

ดังนั้นการเคลื่อนไหวของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพวกในเวลานี้ มันจึงถูกมองว่าเป็นเพียงการดิ้นรนครั้งสุดท้ายหรือเปล่า อีกทั้งยังต้องลุ้นกันอีกว่าจะมีผลกระทบตามมามากน้อยแค่ไหนอีกด้วย !!


กำลังโหลดความคิดเห็น