xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : “ธนาธร” โหมโรง! ปูทางต่อสู้เวอร์ชั่นใหม่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2562 ตอน “ธนาธร” โหมโรง! ปูทางต่อสู้เวอร์ชั่นใหม่



              
  20 พฤศจิกายน ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่ “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ไม่ว่า ผลลัพธ์จะออกมาตายเดี่ยว หรือตายหมู่ แต่ที่แน่ๆ พรรคสีส้มไม่หยุดเคลื่อนไหวแน่
               
คาดการณ์กันว่า หากไม่ได้อยู่เวทีการเมืองในสภาฯ ยังมีถนนและโซเชียลมีเดียให้สู้ ตามแผนที่พรรคอนาคตใหม่ วางปฏิทินเคลื่อนไหวก่อนวันชี้ชะตา 20 พฤศจิกายน 2562
               
เริ่มตั้งแต่การที่ธนาธร แถลงปิดคดีหุ้นสื่อ ณ ที่ทำการพรรค มีกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกมาร่วมรับฟังกันพร้อมหน้าพร้อมตา
               
คิวนี้เจตนาคงไม่ได้ต้องการจะชี้แจงแถลงไขข้อสงสัยรายละเอียดคดีต่อสาธารณะชน เพราะหากต้องการจะทำ “เสี่ยเอก” ไม่รอเวลายืดเยื้อมาถึงใกล้วันตัดสิน แต่น่าจะพูดไปแล้วตั้งแต่หลังวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานใหม่ๆ
               
เพราะต้องยอมรับว่า ธนาธรตอบอะไรไม่ได้เลยในชั้นไต่สวน นอกจาก “ผมจำไม่ได้” เพราะ โดยธรรมชาติต้องรีบออกมาสื่อสารกับสังคม อย่างน้อยกับบรรดาติ่งส้มให้เข้าใจ แต่กลับปล่อยเวลาล่วงเลยมา
               
การมาอธิบายกรณีถือครองหุ้นสื่อนาทีนี้ ไม่สามารถช่วยอะไรในรูปคดีได้ นอกจากกรอกข้อมูลใส่หัวสาวกว่า “ธนาธร” ไม่ได้กระทำความผิด แต่กำลังจะถูกกลั่นแกล้ง
             
รายละเอียดที่ธนาธรไล่เป็นข้อๆ ในวันแถลงปิดคดีเป็นอีเวนต์ที่จัดขึ้นมาเพื่อปลุกเร้ามวลชน คำอธิบายต่างๆ เป็นคำชี้แจงเดิมๆ ที่ล้วนพูดมาแล้ว ไม่มีอะไรใหม่ในเนื้อหา
               
เจตนาแท้จริงคือ ปล่อยวรรคทองที่ว่า “ถ้าถามผมว่าผมผิดอะไร คำตอบคือ มันไม่ใช่เรื่องหุ้นสื่อ แต่ความผิดของผม คือการต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช.

ผมฝันเห็นว่าทุกคนเท่าเทียมกันมีนิติรัฐนิติธรรม เราฝันเห็นประเทศไทยที่มีความก้าวหน้า และประเทศไทยที่ไม่มีรัฐประหาร ความฝันเช่นนี้มันเป็นผิดบาปมากเหรอครับ ในประเทศนี้ เพื่อให้ได้ความฝันนี้”
               
ใช่หรือไม่ ว่าธนาธรกำลังเบี่ยงเบนเนื้อหาของคดี เข้าสู่เรื่องการเมือง เพื่อให้เห็นว่า กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นการเขี่ยตัวเองออกจากวงโคจร
               
ตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ให้หลังธนาธรแถลงปิดคดี พรรคอนาคตใหม่มีอีเวนต์ “อยู่ไม่เป็น” ที่จัดรอไว้แล้ว เพื่อให้เรื่องราวของพรรคสีส้มยังอยู่ในความสนใจ
               
เลี้ยงเชื้อเพื่อให้มวลชนเชื่อว่า หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กำลังจะถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะเป็นเสี้ยนหนามของฝ่ายอำนาจในปัจจุบัน ทำให้เห็นว่า “อยู่ไม่เป็น” เลยต้องมีชะตากรรมแบบนี้
               
ถึงตรงนี้พรรคอนาคตใหม่ภายใต้การนำของธนาธร ไม่ได้คาดหวังว่า ตัวเองจะรอดจะเงื้อมือการยุบพรรค ไม่ได้ตื่นเต้นกับผลการตัดสินในวันที่ 20 พฤศจิกายน

แต่กำลังปูทางสู่บทบาทใหม่ในการต่อสู้กับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับพรรคพวก
               
ในวันไต่สวนประโยคที่ธนาธรเตรียมมาจากบ้านคือตั้งใจมาพูดให้เป็นผลดีทางการเมืองของเขา คือตอนที่พูดว่า “ผมตั้งใจอย่างจริงจังที่จะทำงานการเมืองโดยไม่อยากให้มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน อย่างที่นายทักษิณ ชินวัตร โดนมาก่อน "
               
ประโยคเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับรูปคดี แต่ต้องการสื่อสารออกไปยังบรรดาแฟนคลับโดยตรง

ดังนั้น จะเห็นว่าความคิดของหัวหน้าพรรคสีส้มเลยจุดที่จะมากังวลว่า จะถูกยุบหรือไม่แล้ว เพียงแต่ว่า จะทำอย่างไรให้ตัวเองไปอยู่ในสถานะเดียวกับ “ทักษิณ” นั่นคือ แม้ไม่ได้มีอำนาจแล้ว หรือไม่มีสถานะใดๆ ทางการเมือง แต่สามารถชักจูงมวลชนภายนอก เพื่อต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามได้
               
งาน “อยู่ไม่เป็น” เป็นเพียงอีเวนต์หนึ่งที่เลี้ยงกระแสไปจนถึงวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน นอกจากนี้ ยังเป็นการเบิกร่องไปสู่บทบาทใหม่หากอีก 3 วันต่อจากนี้ ไม่มีคนชื่อธนาธรในพรรคอนาคตใหม่และรัฐสภา
               
จะเห็นว่า มีการสร้างช่องทางสื่อสารมากมายกับภาคประชาชน เพื่อให้เชื่อมติดกันตลอดเวลา นอกเหนือจากช่องทางของพรรคอนาคตใหม่ในปัจจุบัน
               
บทบาทใหม่หากธนาธร หรือรวมถึงกรรมการบริหารพรรคจะต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองคือ การเคลื่อนไหวนอกสภา ในฐานะแกนนำมวลชนคนใหม่ ด้วยแผนการแล้วอาจจะคล้ายคลึงกับอดีตแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีประธาน มีเลขาธิการ มีที่ทำการ มีสมาชิก เป็นองค์กรภาคประชาชน
               
เพียงแต่ว่า ในยุคนี้สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่มีเหนือกว่าคือ โซเชียลมีเดียที่พวกเขามีความถนัด สื่อสารและสร้างอิมแพ็คในสังคมได้
               
อย่าลืมว่า ธนาธรและกรรมการบริหารพรรคแค่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่โทษไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นจำคุก ดังนั้น คนเหล่านี้จะกลับสู่ภาคประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำมาก่อนจะตั้งพรรคอนาคตใหม่
               
การเคลื่อนไหวข้างนอกจะถนัดมากกว่า เพราะไม่มีตำแหน่ง ไม่ต้องเข้าสู่กลไกถูกตรวจสอบเหมือนเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งทางการเมืองง
               
ขณะเดียวกัน อีเวนต์ “อยู่ไม่เป็น” ยังเป็นการเปิดตัวผู้นำ และแกนนำพรรคอนาคตใหม่เวอร์ชั่นใหม่ หากชุดเก่าถูกยุบพรรคไป ตามคิวที่มีการเลือก “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ “ดร.ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล 2 ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ขึ้นไปไฮปาร์คในงาน
              
  2 คนนี้ ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค แต่เป็นตัวชูโรงได้ เพราะการทำงานในสภาที่ผ่านมาค่อนข้างโดดเด่น เรื่องคำพูดคำจาและวิสัยทัศน์ ซึ่งสอดคล้องกับข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า “เสี่ยทิม” เตรียมพาสมัครพรรคพวกที่หลงเหลือไปตั้งพรรคใหม่ หากพรรคอนาคตใหม่ต้องถูกยุบ
               
จะเป็นการเดินคู่ขนาน ระหว่าง “พรรคการเมือง” ที่จะนำโดยแกนนำพรรคที่ไม่ถูกตัดสิทธิ์ และ “ภาคประชาชน” ที่จะนำโดยธนาธร และคนอื่นๆ ที่ต้องถูกเว้นวรรคทางการเมือง
               
พรรคอนาคตใหม่เตรียมการ และกำหนดการต่อสู้รูปแบบใหม่ เอาไว้หมดแล้ว!


กำลังโหลดความคิดเห็น