xs
xsm
sm
md
lg

ปฏิรูปตำรวจเข้ม กำหนดเกณฑ์คะแนนประเมินทุกราย-สำรวจความพอใจประชาชนทุกมิติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายคำนูณ สิทธิสมาน
ถก พ.ร.บ.ตำรวจ เดินหน้าลงลึกในรายละเอียดกำหนดเกณฑ์คะแนนประเมินตำรวจทุกคนโดยให้คะแนนอาวุโสมากที่สุดตามมาด้วยความรู้ความสามารถและความพึงพอใจจากประชาชนโดยให้สำนักงานสถิติฯสำรวจความพอใจในทุกมิติ

วันนี้ (22 มิ.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการดังกล่าว เกี่ยวกับรายละเอียดในเรื่องหลักเกณฑ์การโยกย้ายนายตำรวจทุกระดับให้เกิดความเป็นธรรม

Change in action (17)

กำหนดเกณฑ์คะแนนประเมิน ตร.ทุกคน / ให้สำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจความพึงพอใจประชาชนใน 4 มิติ

ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... ได้พิจารณาลงรายละเอียดในเรื่องหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจทุกระดับทุกสายงาน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด

หนึ่งในประเด็นสำคัญคือให้นายตำรวจทุกคนมีคะแนนการประเมินประจำตัว และจัดเรียงลำดับไว้

การแต่งตั้งโยกย้ายทุกระดับ ตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงมา นอกเหนือจากเกณฑ์เฉพาะต่างๆ ของแต่ละระดับและแต่ละสายงานแล้ว จะต้องอยู่ภายใต้เกณฑ์การประเมิน 100 คะแนน ดังนี้

1. ความอาวุโสในการดำรงตำแหน่ง มีคะแนนเต็ม 60 คะแนน

โดยให้ผู้ดำรงตำแหน่งนานที่สุดเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุด ได้รับคะแนนเต็ม 60 คะแนน ผู้ดำรงตำแหน่งนานในลำดับถัดลงไปให้ได้รับคะแนนลดลงปีละ 6 คะแนน ในกรณีที่ดำรงตำแหน่งนานเท่ากัน ให้ได้รับคะแนนเท่ากัน

ทั้งนี้ ผู้ใดอยู่ในเขตมลทิน เช่น อยู่ในระหว่างการถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง จะไม่ได้รับการพิจารณา

ผูใดทำผิด แต่โทษไม่ถึงกับออกจากราชการ ให้หักระยะเวลาที่ถูกสอบสวนออกจากอาวุโส ในทางตรงกันข้ามถ้าสอบสวนแล้วไม่ผิด ให้นับเวลาตลอดช่วงที่ถูกสอบสวนไว้ในอาวุโสด้วย

2. ความรู้ความสามารถที่มีผลต่อการปฏิบัติงาน มีคะแนนเต็ม 20 คะแนน

ให้ประเมินตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก.ตร.กำหนด

3. ความพึงพอใจในบริการที่ประชาชนได้รับ มีคะแนนเต็ม 20 คะแนน

ในประการนี้ที่ประชุมได้ใช้เวลาหารือกันมากเป็นพิเศษ เพราะมีปัญหา 2 ด้าน

ด้านหนึ่งคือทำอย่างไรจะให้ผู้ถูกประเมินจะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด เนื่องจากตำรวจบางหน่วยงานไม่ได้สัมผัสกับประชาชนโดยตรงหรืออยู่ในพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนเท่ากับตำรวจที่ประจำอยู่ในสถานีตำรวจ 1,482 แห่งทั่วประเทศ เช่น สันติบาล ต่างประเทศ

อีกด้านหนึ่งคือจะให้ใครหรือหน่วยงานใดเป็นผู้ประเมิน

ผลการพิจารณาสรุปเป็นหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้

1. ให้มีการประเมินความพึงพอใจฯจากสถานีตำรวจ กองกำกับการ หรือหน่วยงานอื่นที่เทียบเท่า และเมื่อหน่วยงานได้รับคะแนนความพึงพอใจฯเป็นจำนวนเท่าใด ให้ถือว่าผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานนั้นได้รับคะแนนเท่ากัน

2. คะแนนความพึงพอใจฯของหน่วยงานในระดับกองบังคับการใด ให้ถือเอาคะแนนความพึงพอใจฯของทุกสถานีตำรวจ กองกำกับการ หรือหน่วยงานเทียบเท่าที่อยู่ในสังกัด มาเฉลี่ย ได้จำนวนเท่าใดให้ถือเป็นคะแนนความพึงพอใจฯของกองบังคับการนั้น และให้ถือว่าผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกองบังคับการนั้นได้รับคะแนนนั้นเท่ากัน

3. คะแนนความพึงพอใจฯของหน่วยงานในระดับกองบัญชาการใด ให้ถือเอาคะแนนความพึงพอใจฯของทุกกองบังคับการที่อยู่ในสังกัด มาเฉลี่ย ได้จำนวนเท่าใดให้ถือเป็นคะแนนความพึงพอใจฯของกองบัญชาการนั้น และให้ถือว่าผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกองบัญชาการนั้นได้รับคะแนนนั้นเท่ากัน

ในการประเมินความพึงพอใจฯข้างต้น ให้สำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นผู้สำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยอย่างน้อยต้องครอบคลุมมิติต่างๆ ดังนี้

- ความมีประสิทธิภาพ

- ความเป็นธรรม

- การไม่เลือกปฏิบัติ

- ความสะดวกในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม

ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ตร.กำหนด

และเมื่อมีผลการสำรวจเป็นประการใด ให้ประกาศให้ประชาชนและแจ้งให้หน่วยงานที่ถูกประเมินทราบด้วย

ข้าราชการตำรวจผู้ใดเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการเรียงลำดับอาวุโสหรือในการแต่งตั้ง ให้มีสิทธิร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ตร.



กำลังโหลดความคิดเห็น