ประธานศาลปกครอง นำทีมแถลงผลงานครบ 17 ปี แสดงความพอใจผลพิจารณาคดีปี 60 ทะลุหมื่นคดี 2 ปีซ้อน ตั้งเป้าปี 61 เป็นศาลอัจฉริยะ
วันนี้ (8 มี.ค.) นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด พร้อมด้วยทีมโฆษกสำนักงานศาลปกครอง ได้แถลงผลการดำเนินงานครบรอบ 17 ปี โดยแสดงความพอใจผลการพิจารณาคดี ในปี 2560 ที่สามารถพิจารณาคดีได้แล้วเสร็จจำนวน10,412 คดี โดยเป็นการพิจารณาคดีที่แล้วเสร็จสูงกว่าการดำเนินงานในรอบ 5 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2555-2559 ถึง 449 คดี และถือเป็นปีที่ 2 ต่อจากปีที่แล้วที่ศาลสามารถพิจารณาคดีได้แล้วเสร็จมากกว่าหมื่นคดีและคิดเป็นปีที่ศาลปกครองชั้นต้นสามารถพิจารณาคดีค้างนานได้มากกว่าร้อยละ 60 รวมถึงเป็นปีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคดีรับเข้ามากที่สุดนับตั้งแต่เปิดทำการโดยมีถึง 4,776 คดี
ทั้งนี้ 17 ปีนับแต่ก่อตั้งศาลปกครองเมื่อปี 2544 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 60 ศาลปกครองมี คดีรับเข้าจำนวน 137,778 คดี ทำการพิจารณาแล้วเสร็จ 115, 574 คดี คิดเป็นร้อยละ 83.88 แยกเป็นรับและพิจารณาแล้วเสร็จในศาลปกครองชั้นต้น 86,906 คดี หรือร้อยละ88.58 รับและพิจารณาแล้วเสร็จในศาลปกครองสูงสุด 28,668คดี หรือร้อยละ72.28 อย่างไรก็ตามคดีค้างพิ จารณานานที่สุดคือคดีฟ้องปี 2552 ที่เหลือเพียงคดีเดียวเป็นคดีที่ชาวบ้าน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ฟ้องเทศบาลทุ่งสงเรื่องการใช้สถานที่กำจัดขยะโดยไม่ชอบ ขณะนี้อยู่ในชั้นการแสวงหาข้อเท็จจริงของศาลปกครองนครศรีธรรมราช
นอกจากนี้ในปี 2560 ศาลปกครองยังได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่ 9) 2560 และปรับปรุงระเบียบข้อกฎหมายเพื่อเพิ่มความต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการ รวมถึงกฎหมาย หลักเกณฑ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญใหม่ จัดทำหนังสือเสียงระบบเดซี่ ที่ประกอบไปด้วยเสียง และตัวหนังสือเต็มรูปแบบเพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถเข้าถึงส่วนต่างๆ ของหนังสือ และหนังสือเสียงระบบบาร์โค้ดสองมิติเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับศาลปกครองแก่ผู้บกพร่องทางการมองเห็น
นายปิยะยังกล่าวอีกว่า ในปี 2561 นี้ศาลปกครองจะให้ความสำคัญกับการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมจะสร้างความสมดุลระหว่างสิทธิเสรีภาพของประชาชนกับประโยชน์สาธารณะให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 257 และมาตรา 258 เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานในการบริหารราชการแผ่นดินมีการกำหนดกรอบระยะเวลาการพิจารณาคดีและบังคับคดีให้มีประสิทธิภาพให้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็ นทางเลือกในการระงับข้อพิพาทในคดีปกติ มุ่งนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการพิจารณาคดีเพื่อสร้างบรรทัดฐานในการตัดสินมุ่งไปสู่การเป็นศาลอัจฉริยะ และเตรียมเปิดศาลภูมิภาคเพิ่มที่ จ.สุพรรณบุรี พร้อมเร่งรัดก่อสร้างศาลปกครองภูเก็ต และยะลา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและการอำนวยความยุติธรรมเป็นไปโดยสะดวกรวดเร็วขึ้น