อดีตรอง ผจก.ปตท.ยื่นเรื่องต่อประธาน สนช.สอบ “สุภา” กรณีทุจริตปาล์มน้ำมันอินโดฯ ชี้ปล่อยให้ผู้ถูกกล่าวหามีเอี่ยวสอบพยาน พร้อมทิ้งบอมบ์ปมสินบนโรลส์-รอยซ์ กล้าชี้มูล “จุลสิงห์” หรือไม่ เหตุเป็นลูกศิษย์-อาจารย์กัน
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายนิพิฐ อิศรางกรู ณ อยุธยา อดีตรองผู้จัดการบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการพัฒนาธุรกิจน้ำมันปาล์มที่ประเทศอินโดนีเซีย และนายสุรสิทธิ์ กิตติสุทธิวงศ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นหนังถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านนายสุรัตน์ หวังต่อลาภ รองเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อขอให้สอบสวนกรณีที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญในกรณีที่ให้นางรสยา เธียรวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งถูกกล่าวหาในคดีทุจริตปาล์มน้ำมันประเทศอินโดนีเซีย เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการสอบสวนพยานในกรณีดังกล่าว
โดยนายนิพิฐระบุว่า สืบเนื่องจาก น.ส.สุภา ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีที่ตนถูกกล่าวหา เป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปสอบข้อเท็จจริงที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่นางรสยาก็ได้เดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซียในช่วงเดียวกันกับที่ น.ส.สุภาเดินทางไปสอบสวนฯ ซึ่ง น.ส.สุภาก็ทราบดีว่านางรสยาเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีเดียวกัน ทั้งนี้ การให้นางรสยาซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาและเป็นจำเลยในคดีดังกล่าวเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องนั้นจึงถือเป็นการเปิดเผยความลับของทางราชการให้บุคคลภายนอกรับทราบ และช่วยเหลือนางรสยาไม่ให้ต้องรับโทษ อีกทั้งนางรสยายังมีพฤติกรรมติดสินบนพยานซึ่งเป็นผู้ลงทุนในโครงการดังกล่าวโดยให้พยานให้ถ้อยคำพยานซึ่งผลร้ายต่อตนอีกด้วย
“วันนี้มายื่นหนังสือเพราะหลังจากที่ตนไปลงทุนที่อินโดนีเซียและถูกกล่าวหาว่าไม่โปร่งใส และส่งเรื่องไปที่ ป.ป.ช.ซึ่งในระหว่างที่สืบสวนสอบสวนค้นหาความจริง กรรมการ ป.ป.ช.ท่านหนึ่งมีส่วนร่วมและไม่ได้ดำเนินการอย่างเป็นกลาง ผมได้ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตไป แต่ศาลไม่สามารถดำเนินการได้เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจศาล ผมจึงนำเรื่องดังกล่าวมายื่นร้องเรียกต่อประธานสภาฯ อีกทั้งผมเห็นว่างานนี้ถือเป็นการขายขี้หน้าระดับชาติ และขายขี้หน้าข้ามชาติ ดังนั้น น.ส.สุภา ปิยะจิตติ จะต้องรับผิดชอบในผลแห่งการกระทำด้วยการลาออกจากตำแหน่งทันที” นายนิพิฐกล่าว
นายนิพิฐกล่าวด้วยว่า ขอให้จับตากรณีสินบนโรลส์-รอยซ์ ที่ น.ส.สุภาเป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดีดังกล่าว โดยมีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ซึ่งนายจุลสิงห์เป็นอาจารย์ที่ปรึกษารายงานของหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูงของ น.ส.สุภาอีกด้วย ดังนั้น ลูกศิษย์จะกล้าชี้มูลอาจารย์หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป
ด้านนายสุรสิทธิ์กล่าวว่า เบื้องต้นจะเอาผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ และการฝ่าฝืนระเบียบจริยธรรมของ ป.ป.ช.รวมทั้งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับเรื่อง ป.ป.ช.ด้วย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นที่ปาล์มอินโดนีเซีย ปตท.มีการกล่าวหาทั้งสิ้น 6 คน แต่กลับเป็นนายนิพิฐที่ถูกดำเนินการว่ากระทำความผิดเพียงคนเดียว อีกทั้งในการดำเนินการของ ป.ป.ช.กลับพบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวหาเนื่องจากมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน เราจึงมายื่นเพื่อให้ประธาน สนช.ให้นำเรื่องไปดำเนินการ และยื่นให้ประธานศาลฎีกาตรวจสอบด้วย
