xs
xsm
sm
md
lg

สรุปแก้ กม.ลูกพรรค 10 ปม เพิ่มโทษไพรมารีโหวตทำผิดมีสิทธิ์เจอคุก-ยุบพรรค “สมเจตน์” หวังให้รอบคอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)
กรธ. ร่วม สนช. สรุปแก้ร่างกฎหมายลูกพรรคการเมืองเสร็จ 10 ประเด็น จ่อชงที่ประชุม 3 ฝ่าย 25 ก.ค. เพิ่มโทษพวกสัญญาว่าจะให้ ข่มขู่ ให้ลงหรือไม่ลงระหว่างทำไพรมารีโหวต เสี่ยงคุก 1 - 10 ปี ปรับ 2 หมื่น - 2 แสน ใครเรียกรับเงินเจอ 1 - 5 ปี ปรับ 2 หมื่น - 1 แสน “สมเจตน์” ชี้ ให้ขั้นตอนชัด มีโทษทั้งอาญาและยุบพรรคคนทำผิด หากทำมิชอบให้หัวหน้ารับผิดด้วย แถมให้ กกต. สอบย้อนหลังเมื่อเป็น ส.ส. ได้ เชื่อไม่เป็นอุุปสรรคพรรคการเมือง หวังให้รอบคอบ

วันนี้ (19 ก.ค.) มีรายงานว่า จากกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายเพื่อพิจารณาแก้ไขร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองในประเด็นไพรมารีโหวตในวันที่ 20 ก.ค. นั้น ขณะนี้ตัวแทนกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ) และตัวแทนคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป. พรรคการเมืองของ สนช. ที่นำโดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ได้ข้อสรุปร่วมกันและยกร่างประเด็นที่จะแก้ไขเสร็จสิ้นแล้วเตรียมที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายพิจารณาในการประชุมนัดแรกที่เบื้องต้นกำหนดไว้ว่าจะมีขึ้นในวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งประเด็นที่ปรับแก้รวม 10 ประเด็นให้สอดคล้อง ปฏิบัติได้ ไม่มีปัญหาถูกตีความ และมีการกำหนดบทลงโทษชัดเจนหากไม่มีการปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ครบถ้วน อาทิ

แก้ไขปัญหาการคัดเลือกตัวแทนพรรคการเมืองประจำเขตเลือกตั้งไม่ทัน เพราะยังไม่มีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ก็แก้ให้เป็นจังหวัดใดที่มีสมาชิกพรรคตั้งแต่ 100 คน ก็ให้เลือกตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด แต่การเลือกตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดให้ยึดตามเขตเลือกตั้งของจังหวัดนั้นๆ ที่กกต.ประกาศครั้งสุดท้าย และตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสามารถที่จะประชุมและส่งได้ทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น

พรรคที่จะส่งสมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ต้องมีสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในเขตเลือกตั้งนั้น เปลี่ยนองค์ประกอบ คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งให้มีสัดส่วนตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดไม่น้อยกว่า 4 คน เว้นมีไม่เกิน 4 คนให้ใช้เท่าที่มี ให้อำนาจคณะกรรมการสรรหาฯ ตัดชื่อผู้สมัครแบ่งเขตที่มีความประพฤติไม่เหมาะสมได้ การสมัครแบบแบ่งเขตในกรณีคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เห็นชอบรายชื่อผู้สมัครแบ่งเขต 2 ลำดับแรกที่สมาชิกเลือกมา ให้ที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารกับคณะกรรมการสรรหาฯ ใช้มติ 4 ใน 5 ให้ส่งผู้สมัครคนอื่นได้

ส่วนการสมัครแบบบัญชีรายชื่อให้คณะกรรมการบริหารพรรค กก.บริหาร หัวหน้าสาขาพรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดเสนอรายชื่อผู้สมัครได้คนละไม่เกิน 150 ชื่อ และให้คณะกรรมการสรรหาฯ จัดทำบัญชีรายชื่อเรียงตามอักษร ไม่เกิน 150 รายชื่อ โดยให้สมาชิกลงคะแนนเลือกได้ไม่เกิน 15 ชื่อจากนั้นนับคะแนนและประกาศผล และให้คณะกรรมการสรรหาฯ จัดทำบัญชีเรียงตามผลรวมคะแนน กรณีหัวหน้าพรรคประสงค์สมัครแบบบัญชี ให้อยู่ลำดับ 1 คณะกรรมการบริหารพรรคใช้มติ 2 ใน 3 ของที่มีอยู่ ตัดผู้สมัครออกได้ และจัดลำดับผู้สมัครที่คะแนนเท่ากันใหม่ หรือไม่ได้คะแนน ใหม่ได้

นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นที่สำคัญ คือ มีการกำหนดบทลงโทษทางอาญาและทางการเมืองทั้งการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือที่เรียกว่าตัดสิทธิชั่วชีวิต เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ รวมทั้งยุบพรรคไว้ด้วย โดยกรณีหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค สาขาพรรค หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดไม่ดำเนินการเรื่องการส่งผู้สมัครให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด หรือยินยอมให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้าแสดงความคิดเห็นในที่ประชุม หรือออกเสียงลงคะแนนในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลาห้าปี ซึ่งการดำเนินคดีกรณีนี้ให้ถือว่าสมาชิกพรรคทุกคนเป็นผู้เสียหาย

ส่วนหากพบว่าในขั้นตอนการทำไพรมารีโหวตของพรรค ผู้ใดกระทำการให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ จัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน ผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม หรือหลอกลวง บังคับขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้ใด หรือไม่ให้ไปประชุมหรือลงคะแนน เพื่อให้สมาชิกลงคะแนนให้กับตนเองหรือผู้อื่น หรืองดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้ใด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น - 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นด้วย

และหากถ้าพบว่าพรรคการเมือง หรือผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด เพื่อให้สมาชิกผู้ใดลงสมัครหรือไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท - 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นเช่นกัน ในกรณีที่ตรวจสอบแล้วเป็นการกระทำของพรรค หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคนอกจำต้องรับโทษอาญาดังกล่าวแล้ว ให้ถือกรณีดังกล่าวเป็นเหตุที่จะยุบพรรคการเมืองนั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ในร่างแก้ไขจะกำหนดให้มีการเอาผิดกับพรรคที่ไม่ดำเนินการหรือดำเนินการขั้นตอนไพรมารี่โหวตไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดก็ตาม แต่ก็บัญญัติว่า การดำเนินการไม่ครบถ้วนนั้นไม่มีผลทำให้การสมัครรับเลือกตั้งนั้นเสียไป เพียงแต่ถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบถึงการไม่ดำเนินการดังกล่าวก็ให้กล่าวโทษหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเอาผิดตามที่กฎหมายกำหนดโทษไว้

ด้าน พล.อ.สมเจตน์ ซึ่งจะร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง เปิดเผยว่า มีการหารือเบื้องต้นกับ กรธ. แล้ว โดยจะมีการปรับปรุงเนื้อหาในกฎหมายตามข้อท้วงติงของ กรธ.ในเรื่องของไพรมารีโหวตเพื่อให้ขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัครมีความชัดเจนมากขึ้น และให้เป็นกิจการภายในของพรรคการเมืองที่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคต้องดูแลรับผิดชอบกระบวนการคัดเลือกให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากพบว่ามีการกระทำที่ไม่ครบถ้วนก็สามารถร้องไปยัง กกต.ให้ดำเนินคดีอาญากับหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคได้ แต่ถ้าพบว่ากรรมการบริหารพรรคมีส่วนในการทุจริตขั้นตอนการคัดเลือกดังกล่าวนอกจากมีโทษอาญาแล้วยังมีโทษยุบพรรคด้วย

“หากกระบวนการคัดเลือกไม่ชอบหัวหน้าพรรคต้องรับผิดชอบ โดยสมาชิกพรรคการเมืองซึ่งถือเป็นผู้เสียหายสามารถร้องไปที่ กกต. ได้ แต่ไม่กระทบกับการส่งชื่อผู้สมัคร แต่ถ้าได้เป็น ส.ส. กกต. ก็สามารถสอบย้อนหลังเพื่อฟ้องต่อศาลได้ และถ้ามีกรรมการบริหารพรรคไปมีส่วนรู้เห็นในการทุจริตการคัดเลือกดังกล่าวก็มีผลให้ยุบพรรคด้วย แต่ถ้าเป็นการทำผิดของผู้สมัครก็เป็นความผิดเฉพาะบุคคล หลังจากสนช.มีมติตั้งกรรมาธิการร่วมสามฝ่ายในวันพรุ่งนี้ คาดน่าจะมีการประชุมนัดแรกได้ในสัปดาห์หน้า เชื่อว่า การปรับปรุงเนื้อหาใหม่ครั้งนี้จะไม่ทำให้เป็นอุปสรรคกับพรรคการเมืองในการปฏิบัติจนกระทบกับการส่งผู้สมัครเพราะถ้าตั้งใจปฏิบัติก็สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นหลักการที่ดีในการพัฒนาระบบประชาธิปไตย รวมทั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคก็ต้องรอบคอบไม่เช่นนั้นก็ต้องรับผิดชอบ” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น