รองนายกรัฐมนตรี เผย แจงเลขาฯ นายกฯ ปมรถเมล์เอ็นจีวี หลังศุลกากรพบ บ.ซุปเปอร์ซาร่า เอารถประกอบในจีน ขนผ่านมาเลย์ส่ง ไม่ใช่รถประกอบจากเพื่อนบ้าน สำแดงเท็จชัด ต้องเสียภาษี 40% พร้อมค่าปรับ ระบุ กำลังเจรจา คาดอย่างน้อย ขสมก. ได้ 100 คันแรก สิ้นปีนี้ ยันไม่ผิดซ้ำ ส่วน 2 บริษัทถ้าจ่ายครบก็จบ
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.30 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเข้าพบ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ว่า ได้เข้ารายงานหลังจากเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเรื่องรถเมล์เอ็นจีวี ซึ่งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ทำสัญญาสั่งซื้อรถจากบริษัท เบสท์ริน ซึ่งบริษัท เบสท์ริน ให้บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ในฐานะผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวีเป็นคนจัดซื้อ ซึ่ง ขสมก. ไม่มีนิติสัมพันธ์ และไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด แต่อย่างใด
นายวิษณุ กล่าวว่า โดยการทำสัญญาบริษัท เบสท์ริน ได้กำหนดว่า จะเอารถที่ผลิตในจีน และนำมาประกอบที่มาเลเซียมาส่งมอบให้ แต่ปรากฏว่า เมื่อรถมาถึงกรมศุลกากรได้ตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวน่าจะผลิตและประกอบในจีน ก่อนที่จะขนผ่านมาเลเซียเข้ามายังไทย จึงถือว่ารถดังกล่าวมีแหล่งกำเนิดอยู่ในจีน ซึ่งจะต้องมีการเสียค่าแวตและอากรนำเข้า 40 เปอร์เซ็นต์ แต่มีการสำแดงว่ารถดังกล่าวมาจากมาเลเซีย เพื่อที่จะไม่ให้เสียค่าอากรนำเข้า เสียเพียงแค่ค่าแวต อย่างเดียว แต่ทางศุลกากรยืนยันต้องเก็บ 40 เปอร์เซ็นต์ด้วย เพราะเชื่อว่า รถผลิตจากจีน ดังนั้น เมื่อมีการสำแดงเท็จตั้งแต่ต้นจึงต้องมีการเสียค่าปรับเพิ่ม
รองนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า และ กรมศุลกากร ได้มีการเจรจากัน ซึ่งกรมศุลกากร ยอมให้หาเงินมาจ่ายสำหรับรถ 100 คันแรก หรือเอาธนาคารการันตีมาก็ได้ และหากเรื่องดังกล่าวมีความชัดเจนจะคืนธนาคารการันตีให้ ซึ่งหากทำได้ตามนี้ ขสมก. จะได้รถอย่างน้อย 100 คันแรกมาใช้ในสิ้นปีนี้ ถ้ารถมาถึง ขสมก. จะนำไปทดสอบพร้อมจ่ายเงินให้ทันที อย่างไรก็ตาม ขสมก. ไม่มีความผิดอาญา ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ และรถที่ได้มาหากผ่านกรมศุลากรมาได้จะเป็นรถที่ชอบโดยกฎหมาย ส่วน 2 บริษัทดังกล่าว หากมีการจ่ายเงินอย่างถูกต้องครบถ้วนทุกขั้นตอนความผิดฐานสำแดงเป็นเท็จก็จะหมดไป