นายกรัฐมนตรี เผย “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” รับสั่งให้รัฐบาลทำหน้าที่ให้ประชาชนมีความสุขที่สุดในรัชกาลปัจจุบัน โดยใช้แนวทางของสมเด็จพระบรมชนกนาถ ทรงห่วงใยเรื่องการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สาธารณสุข การเสริมสร้างอาชีพ และคุณภาพชีวิต ที่สำคัญประเทศต้องสงบสันติ ไม่มีความขัดแย้ง ขณะที่ “ประยุทธ์” สั่งทบทวนโครงการใหญ่ เสนอให้เล็กลง ฉะแค่สร้างส่วนเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสีม่วง 1 กม.ไม่ได้ ลั่นถ้ายังไม่คืบเล่นงานผู้เกี่ยวข้อง เมินพรรคการเมืองขอปลดล็อก เฉ่งเอาแต่ได้ ขู่ถ้ายังไม่เลิกจะล็อกเพิ่มอีกชั้น พร้อมแนะ ก.พ.หาแนวทางใหม่รับข้าราชการ
ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เมื่อเวลา 09.45 น.วันนี้ (14 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 และการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 เพิ่มเติม ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเป็นแนวทางการในการจัดทำงบประมาณให้มีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกับร่างกรอบยุทธศาสนตร์ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 นโยบายของรัฐบาล ทั้งด้านความมั่นคง วาระการปฏิรูปประเทศ และแผนหลักอื่นๆ โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทาง เน้นการจัดทำงบประมาณ ในลักษณะบูรณาการ ซึ่งในงบปี 2561 มีอยู่ 28 เรื่อง เช่นการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก การพัฒนาศักยภาพ การผลิตด้านการเกษตร การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การพัฒนาระบบประกันสุขภาพ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และชุมชนเข้มแข็ง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ช่วงนี้มีคนถามว่านายกรัฐมนตรีหายไปไหนไม่ค่อยได้เจอตัว และไม่ได้ยินเสียง แต่ยืนยันว่ายังอยู่ แข็งแรงดี พร้อมจะทำงานอย่างเต็มที่ ตามสติกำลังของตน วันนี้เรากำลังเดินหน้าประเทศทั้งระบบ เพื่อไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งตนคิดว่าไม่น่าจะผิดจากการวางนโยบายไว้ แต่ทั้งหมดต้องอาศัยความร่วมมือ และความเข้าใจที่ตรงกันจากทุกภาคส่วน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะต้องทำให้เกิดความร่วมมือกันให้ได้โดยเร็ว ไม่คำนึงถึงตัวตนและวัฒนธรรมในองค์กรของตัวเองมากเกินไป โดยเรากำลังเดินหน้าไปสู่อนาคตที่สดใสจากศักยภาพที่มีอยู่ หากอนาคตเราสามารถทำให้มีความเชื่อมโยงกันได้ในทุกมิติ ประเทศไทยจะเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ดังนั้นเราจะต้องมีความฝันร่วมกันให้ได้โดยเร็ว วันนี้อยากให้ทุกคนมองอนาคตร่วมกัน และทำความเข้าใจกับประชาชนว่าถ้าเรายังคิดแบบเดิม ไม่ยอมคิดนอกกรอบ มันก็คิดอะไรไม่ออก เพราะจะติดปัญหาทุกอย่างทั้งกฎหมาย ระเบียบ กติกา ซึ่งเราจำเป็นต้องปรับปรุงให้ทันสมัยสามารถดำเนินการได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา 2 ปีเราพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการบูรณาการ การเริ่มต้นการทำงานทั้งหมด รวมทั้งการแก้ปัญหา ดังนั้นทุกคนจะต้องสร้างความหวัง สร้างอนาคตร่วมกันให้แก่ประเทศซึ่งประชาชนได้มอบความไว้วางใจและมุ่งหวังให้มายืนอยู่ตรงนี้มา 2 ปีกว่า ถือเป็นความไว้วางใจ ไม่ใช่ด้วยอำนาจของตน ถึงแม้ว่าอาจจะทำได้ในช่วงระยะเวลาแรกๆ ก็ตาม จากนั้นมาก็ต้องอาศัยความยินยอมจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศทำให้เราสามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้ซึ่งต้องขอบคุณ และสิ่งที่จะตอบแทนได้คือการทำตามในสิ่งที่ประชาชนมุ่งหวัง แต่ต้องทำความเข้าใจว่าการจะได้อะไรมาง่ายๆ นั้นเป็นไปไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจ เราจึงต้องเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นอะไรก็ตาม การเป็นผู้นำที่ดีจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ต้องมีการนำด้วยอำนาจ กฎหมายที่กำหนดไว้ตามระบบราชการ แต่ผู้นำที่ดีที่สุดจะต้องเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยการคิดนอกกรอบ มีวิสัยทัศน์เชิงรุก และนำกลับเข้ามาสู่ในกรอบ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เราจะเน้นเป้าหมายสำคัญตามที่รัฐบาลวางไว้ในปีงบประมาณ 2561 การจัดทำงบประมาณมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ วันนี้ระบบงบประมาณของประเทศได้เปลี่ยนไปจากช่วงที่ตนเข้ามา เกิดความคุ้มค่ามีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริง ดังนั้นการจัดทำงบประมาณปี 2561 ทุกคนจะต้องร่วมกันคิดและวางแผน และนำปัญหาจากงบประมาณปี 2560 มาปรับปรุงพัฒนาแก้ไข และเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น และต่อยอดจากงบประมาณปีที่ผ่านมา แต่ย่อมมีปัญหาบ้าง ซึ่งเราต้องยอมรับว่าประเทศไทยเรายังมีปัญหาพอสมควร เราต้องทำให้ทุกอย่างเชื่อมโยงกันให้ได้ในทุกๆ ระบบถึงจะสามารถทำให้ทุกคนมีความสุข ถือเป็นระบบประชาธิปไตยที่ถูกต้องสมบูรณ์ เราจึงจำเป็นต้องพัฒนาให้ครบวงจรทั้งเศรษฐกิจ เกษตร ระบบน้ำ การค้าขายชายแดน ท่องเที่ยวพัฒนาเมือง แก้ปัญหาความขัดแย้งอันเกิดมาจากการพัฒนาเมือง การทุจริตผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย โดยการน้อมนำศาสตร์พระราชา ซึ่งเป็นศาสตร์ในการบริหารราชการแผ่นดินมาประยุกต์ใช้
“สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ทรงรับสั่งกับรัฐบาล และรัฐมนตรีบางท่านว่า ขอให้รัฐบาลทำหน้าที่เพื่อให้ประชาชนมีความสุขให้มากที่สุดในรัชกาลปัจจุบัน โดยใช้แนวทางของสมเด็จพระบรมชนกนาถ ซึ่งได้ทรงทำมาตลอด 70 ปีที่ผ่านมา พระองค์ท่านทรงให้สืบสายต่อในสิ่งเหล่านี้ไม่ให้เสื่อมถอย หรือน้อยลงไปกว่าเดิมที่มีอยู่ ทรงรับสั่งด้วยความห่วงใยในสิ่งสำคัญหลักๆ คือ เรื่องของการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การสาธารณสุข การเสริมสร้างอาชีพรายได้ และคุณภาพชีวิต สิ่งสำคัญจะต้องทำให้ประเทศชาติสงบสุข สันติไม่มีความขัดแย้ง ดังนั้น พวกเราทุกคนจะต้องสนองพระราชปณิธานของพระองค์ท่านตามแนวทางของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ โดยใช้ศาสตร์พระราชาของพระบรมชนกนาถ รัชกาลที่ ๙ มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นแก่ประชาชนและพวกเรา รัฐบาลจะต้องสนองต่อสิ่งที่พระองค์ทรงรับสั่งไว้ และแนวทางของยุทธศาสตร์ชาติที่จะทำให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงมีรับสั่งไว้วางการพัฒนาประเทศไทยจำเป็นต้องมีการพัฒนาคู่ขนานกัน ไม่ใช่พัฒนาโดยใช้แนวทางตะวันตกเพียงอย่างเดียว จะต้องใช้ของตะวันออกควบคู่ไปด้วย เพราะแบบตะวันตกอาจทำให้ทุกอย่างพัฒนาเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วแต่อาจจะไม่ยั่งยืน จนเกิดผลกระทบและความเสี่ยงต่างๆ การพัฒนาแบบตะวันออกอาจจะช้าแต่มีความมั่นคงมากกว่า หากเราสร้างความเข้มแข็งระดับฐานรากได้ก็จะเติบโตไปอย่างมั่นคง ในเรื่องของงบประมาณถือเป็นปัญหาหนึ่งที่สำคัญในการบริหารประเทศ ทั้งการจัดสรร และการใช้จ่าย เราจึงจำเป็นต้องใช่ศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง และการบริหารประเทศตะวันตกและตะวันออกคู่ขนานไปด้วยกัน เป็น 3 ห่วง 2 เงื่อนไข การใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดี”
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตนพยายามขับเคลื่อนศาสตร์พระราชาไปยังประเทศอื่นด้วย เพราะจะทำให้เกิดความยั่งยืนให้แก่ทุกประเทศที่กำลังพัฒนาไม่ใช่แค่ไทย โดยกว่า 28 ประเทศได้นำไปใช้แล้วได้ผล และยินดีกับประเทศไทยที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ เราอยู่กับพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มา 70 ปี ซึมซับแนวทางมาตลอด และวันนี้สมัยปัจจุบันสืบต่อเนื่องประวัติศาสตร์ไทยกว่า 800 ปี ต้องเรียนรู้ไม่ให้เกิดปัญหา นั่นคือความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้แก่ข้าราชการทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การทำอาชีพสุจริตขอชื่นชม แต่ถ้ารายได้น้อยเกินไปก็ต้องพัฒนาตัวเอง เพื่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ไม่ใช่ทำเหมือนเดิมแล้วรอรัฐบาลช่วยเหลือ ถ้าแบบนี้ไปไม่ได้ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลอย่างทั่วถึง ต้องไม่ประมาทต่อความเสี่ยงในอนาคต ถ้าประเทศและสังคมอ่อนแอ ประเทศจะล้มเหลวเพราะประชาชนไม่มีคุณภาพ รอแต่การช่วยเหลือรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลก็หาเงินอุดไปจนไม่พอกลายเป็นประเทศล้มเหลว ดังนั้นต้องตั้งหลักกันใหม่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อรัฐบาลในอนาคตที่ต้องใช้จ่ายงบประมาณอย่างรัดกุม
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยการโอนเงินมีปัญหาหมด เพราะเราไม่เคยสร้างระบบเหล่านี้ขึ้นมา ระบบการตรวจสอบถ่วงดุลที่ผ่านมาไม่ชัดเจน เป็นของหน่วยงานใดเพียงที่เดียว ไม่ทันสมัย ใช้ร่วมกันไม่ได้ ฉะนั้นวันนี้ข้อมูลต้องทันสมัย ถูกต้อง เป็นข้อมูลเดียวกันในการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นอยากให้ทุกคนไปทบทวนมีการใช้ศาสตร์พระราชาครบ ทั่วถึง แต่ละองค์กรต้องสร้างจริยธรรมตั้งแต่ลูกจ้างยันรัฐมนตรีคือเจ้าของกระทรวงในการบริหาร ไม่ใช่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน ถ้ารายได้ประเทศดีขึ้นเงินเดือนก็ดีขึ้น และให้นำหลักการทรงงานเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจปฏิบัติ ต้องสอนให้ประชาชนเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้ว่าเรากำลังเดินหน้าประเทศกันอย่างไร อยู่แบบนี้ไม่ได้ พอถึงเวลาเอาโครงการไปลง ทำประชาพิจารณ์ก็ไม่ผ่าน โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ ตนจึงบอกให้จำแนกเป็นโครงการขนาดเล็ก แต่ไม่ทิ้งโครงการใหญ่ แต่ทำในส่วนที่ทำได้ก่อน ถ้ารองานจะติดทั้งหมด เดินต่อไม่ได้ทั้งชาตินี้ชาติหน้า ขอให้ไปทบทวนโครงการขนาดใหญ่ทั้งหมด จำแนกย่อยมาใหม่ ให้เกิดประโยชน์ทั้งต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ถ้ามีแต่ต้นทางตนไม่ให้ และบูรณาการกระทรวงที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้ติดว่าเพียงงบประมาณปี 2561 คงไม่พอ จึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องทำเท่านี้เท่านั้นอย่างที่เขาบิดเบือนมันไม่ใช่ เขียนวันนี้ทำวันนี้ใครจะเปลี่ยนก็เชิญ
“ผมไม่ได้จะสืบทอดอำนาจอะไรทั้งสิ้น แต่สืบสิ่งที่จะทำให้ประชาชนในสิ่งที่จะเกิดขึ้นอีก 20 ปี ถ้าเขาไม่ทำเราต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะเลือกรัฐบาลมา ฉะนั้นต้องกำกับดูแลกัน เพียงมีแต่แผนที่และเข็มทิศนำทางให้เขาเดินในกรอบ ทำเส้นทางเชื่อมโยงที่ชัดเจน สอดคล้องแผนพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เออีซี”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องรถไฟฟฟ้าจะทำไปทำไมถ้ามันเชื่อมต่อกันไม่ได้ วันนี้ 1 กม.ยังต่อไม่ได้ แต่จะต้องต่อให้ได้ในรัฐบาลนี้ ถ้าต่อไม่ได้ตนจะเล่นงานคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ เดี๋ยวจะทำเอง 2-3 ปีแล้วติดอยู่นั่น ไม่รู้ติดอะไรนักหนา อ้างกฎระเบียบ ตนบอกแล้วจะดูให้ ขอให้บอกมาจะแก้ให้ ลงทุนรถไฟ 20 กว่าขบวนงบมหาศาลเส้นทาง 30 กม. มันอะไรกันแบบนี้ ทำไมไม่เชื่อมต่อแต่ละเส้นให้ได้ เราเขียนลูปไว้ให้ทั้งหมด ว่าจะทำรถไฟฟ้าอย่างไรใน 20 ปี ถ้าจะไปทำอย่างอื่นเป็นเรื่องกลไกในสภาที่จะกำกับดูแล โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม ทั้งหมดนี้ไม่โทษใคร โทษตัวเอง แต่ถ้าไม่เข้ามาก็ไม่รู้ เพราะไว้ใจทุกคน ซึ่งเป็นระบบการปกครองการบริหารราชการแผ่นดิน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าเราวางกรอบไม่ได้ เราก็วางแผนงานไม่ได้ มันก็จะไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนตามที่คาดหมายไว้ วันนี้โลกเจริญขึ้น หลักการในหลวงมีอยู่แล้ว แก้ปัญหาจากจุดเล็ก มองปัญหาภาพรวมอยู่เสมอ มองผลสัมฤทธิ์ไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เห็นว่าเราจะเดินหน้าไปอย่างไร เริ่มจากจุดเล็กๆ ที่คนส่วนใหญ่มองข้ามตรงนี้ แต่ต้องมองบนพื้นฐานประชาชนเป็นศูนย์กลาง ประชาชนมีความสุข พึงพอใจ นี่คือหลักการสำคัญ ซึ่งมันไม่ง่าย เพราะความสุขของทุกคนไม่เท่ากัน มีความต้องการไม่เหมือนกัน อันนี้แหละเขาเรียกว่ามนุษย์มองทุกสิ่งให้เป็นพลวัต ให้เชื่อมโยงและปรับเปลี่ยนตลอดเวลา การจะทำอะไรต้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหาทางแก้ไขปัญหาไว้ล่วงหน้า
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า นายของตน รมว.มหาดไทย เคยสอนมาว่าจะทำอะไรให้ถึงจุดหมาย ให้มองที่หมายและระหว่างทางด้วย เพราะถ้ามองที่หมายที่เดียว ปัญหาระหว่างทางจะเละไปหมด ไปตีที่หมายสุดท้ายไม่ได้ เพราะถูกข้าศึกซุ่มโจมตีตลอดทางทำให้ตายหมดทั้งขบวน ถ้าเราทำระบบใหญ่ไม่ได้ก็ทำระบบเล็กก่อน เพื่อทำให้เห็น ทำให้คนอยู่รอบๆ เห็นดีด้วย ถ้าไปบอกทำแบบใหญ่ๆ จะคิดได้ว่าจะมีการโกงกันอีก เพราะความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน เราต้องทำตามลำดับขั้น บนพื้นฐานพอมีพอกิน วันนี้เวลาเราเสียไปมากแล้ว เราต้องทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน ให้เกิดสมดุลระหว่างประชาชนกับรัฐ ไม่อย่างนั้นล้มเหลวในที่สุด ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และหลักทำให้ประชาชนมีความสุขทุกมติ สอดคล้องกฎหมายที่มีขึ้นมาใหม่ ใช้งบฯอย่างมีลำดับ เพียงพอและพอประมาณ เลือกทำสิ่งที่จำเป็นก่อน
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า อย่าคิดแบบเดิมๆ ทำงานไปวันๆ ใช้จ่ายงบฯหมดไปวันๆ เซ็นหนังสือจบไปวันๆ ตนคิดตลอด คิดๆ แล้วก็ทำ กลางวันไม่พอ กลางคืนยังเก็บไปฝันเป็นงาน เช้ามาก็ได้รู้ว่ายังไม่เสร็จ ยังไม่ได้ทำ ลองทำแบบตนทำ ตัดทุกอย่างทั้งหมดบางครั้งยังลืมว่าใครอยู่บ้านกับตนบ้าง ตื่นก็ขึ้นรถไปทำงาน พอกลับบ้านก็ไปถาม ไปโน้นมาไม่ใช่เหรอ เขาบอกกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนไปงานด้วยกันมา สมองผมเสียแล้ว แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ท่านคงไม่เป็นเหมือนตน
“อยากให้ทุกคนคิดแบบผมคิดถึงจะไปได้ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เราไมได้คิดเอง เพราะมีความเห็น มีคณะกรรมการ มีการฟังความคิดเห็นทั้งสภาปฏิรูป นักวิชาการ ข้าราชการและนักการเมืองที่เขามาร่วมมือ มีไม่ร่วมมือก็คงรู้ อะไรกูก็ไม่ฟังทั้งสิ้น จะฟังแต่ความเห็น จะฟังแต่รัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่มาร่วม พอถึงเวลาก็วุ่นวาย ขอปลดล็อก มันยังไม่ปลดล็อกตัวเอง แล้วจะไปปลดใครได้ ผมก็ไม่ปลดล็อกให้หรอก วันนี้ต้องร่วมมือกันก่อน จะทำให้ปลดล็อกทุกคนได้หมด ถ้าไม่ร่วมมือ ไม่ฟัง ไม่แสดงความคิดเห็น เอาแต่ได้ ผมก็ไม่ปลดล็อก แต่จะใส่ล็อกเพิ่มขึ้นอีกชั้นด้วย”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมาแก้ปัญหาหมดทุกอันแล้ว เพียงแต่ว่าปีนี้และงบฯ ปี 2561 จะต้องทำให้เป็นระบบให้ได้ และต้องถึงปลายทาง ให้ทุกกระทรวงไปรื้อดูว่าสิ่งที่ทำไปแล้ว ยังใช้ประโยชน์ไม่ได้ ก็กลับไปใช้ประโยชน์ให้ได้ โดยใช้งบฯปี 2560 เสริมเข้าไป ถ้าเป็นไปได้ควรใช้งบฯ ปี 2561 เสริมเข้าไป เพื่อให้เกิดระบบ ทั้งนี้ ปี 2560-2564 อยู่ยุทธศาสตร์แรก 5 ปี ทำให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด ใส่แผนแม่บทลงไป เอาวาระปฏิรูปใส่ลงไป ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยความเห็นประชาชน สภา และระบบบริหารราชการแผ่นดิน วันนี้ถ้าไม่ทำแผนต่างๆ ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ตนพูดในวันนี้ ท่านจะไม่ได้รับงบฯ ตนได้สั่งการสำนักงบประมาณไปแล้ว และวันนี้ขอสั่งการอีกครั้ง ให้ทุกกระทรวงแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ ในการบูรณการเรื่องของการปฏิบัติให้ชัดเจน ในสำนักงานปลัดกระทรวง แล้วตนจะเรียกคนเหล่านี้มาชี้แจงว่า งบฯที่ใช้ แผนงาน โครงการ เข้าใจว่าอย่างไร ต้องชี้แจงให้ได้ ซึ่งรัฐมนตรีชี้แจงกับตนได้อยู่แล้ว แต่ตนจะเล่นงานคนที่รัฐมนตรีหรือปลัดกระทรวงมอบหมายทำตรงนี้ แต่ปลัดกระทรวงก็ไม่ได้รอดตัว ถ้าคนที่มอบหมายมาชี้แจงไม่รู้เรื่อง ปลัดกระทรวงก็โดนด้วย ตนไม่ได้ไล่บี้ใคร แต่ต้องการให้ตอบคำถามตนให้ได้จะเกิดประโยชน์อย่างไร
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การบูรณาการของหน่วยงานจะต้องมีความเชื่อมโยงกันทั้งหน่วยงานในกระทรวง และมีความเชื่อมโยงกับกระทรวงอื่นๆด้วย ต่อไปทุกจังหวัดจะต้องรวมกลุ่มกันเป็นกลุ่มจังหวัด ซึ่งงบประมาณของรัฐที่จะลงไปตั้งแต่ต้นปีนั้น จะลงไปทำในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ให้เกิดขึ้น ดังนั้น งบประมาณต้องสอดคล้องกันทั้งงบแผนงานและตามวาระ
อย่างไรก็ตาม งบประมาณในปี 2559-2560 จะเพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้งานสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เรามีความจำเป็นต้องหาแนวทางเพื่อลดรายจ่ายประจำ โดยได้มอบหมายให้ ก.พ. หารือเรื่องการรับเจ้าหน้าที่ ก.พ., ก.พ.ร. โดยให้ไปพิจารณาใหม่ ทั้งเรื่องรับข้าราชการ โดยต้องหาวิธีการการบรรจุคนเข้ามา ซึ่งควรจะมีทั้งพาร์ทไทม์ ฟูลทาร์ม และรายได้พิเศษ อาจจะมีรายได้ที่ไม่ได้มาจากการเป็นข้าราชการได้หรือไม่ หรือมีรายได้ตามภารกิจ และขณะนี้เห็นว่า ก.พ.ร.กำลังผลิตข้าราชการขึ้นมาใหม่ให้เรียนรู้เรื่อง 4.0 ซึ่งคนเหล่านี้จะบรรจุเป็นข้าราชการ สามารถปรับเปลี่ยนย้ายงานได้ วันนี้เราอย่าคิดแบบเดิม เราต้องมีทั้งข้าราชการประจำและลูกจ้างที่มีรายได้ตามสติปัญญาของทั้งจากประเทศและต่างประเทศ
ส่วนการขึ้นทะเบียนบัญชีคนจนให้เงินช่วยเหลือ ที่บางพื้นที่ประชาชนลงทะเบียนไม่ทันนั้น การขึ้นทะเบียนคนจนไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ยังมีบางคนบิดเบือนว่าหากขึ้นทะเบียนแล้ว รัฐบาลจะเข้าไปล่วงข้อมูลส่วนตัว ขณะที่หนังสือพิมพ์ก็โจมตีว่าตนประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง ทั้งที่พูดจนไม่รู้จะพูอย่างไรแล้ว อย่างไรก็ตามใครที่ยังไม่ลงทะเบียน ข้อให้รอการเปิดลงทะเบียนครั้งหน้าที่จะมีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงปัญหาการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า ประเทศไทยต่อจากนี้จะต้องสงบ ไม่มีความขัดแย้งอีกต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ มีข่าวเดี๋ยวก็จบ และการพูดกันไปมาไม่เกิดประโยชน์ เพราะจะทำให้เสียหายกันไปหมด ตนได้สั่งให้เลิกพูดไปแล้ว ทุกอย่างต้องทำให้เป็นเหมือนเรื่องทั่วๆ ไป โดยให้สังคมได้เรียนรู้เอง เพราะเหล่านี้ทำให้ประเทศไทยเดินหน้าไม่ได้ เพราะความขัดแย้งเกิดขึ้นด้วยการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ใช้ประชาชนที่มีความเชื่อมั่นและศรัทธาเข้ามาอยู่ด้วย นั่นคือปัญหาทั้งสิ้น วันนี้ต้องเอากติกามาเดินหน้า ทุกคนต้องทำเป็นตัวอย่าง เริ่มปฏิรูปด้วยตัวเราเอง จึงจะเดินหน้าปฏิรูปประเทศไปได้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า การทางพิเศษฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่หรือไม่ เพราะทางเข้าโรงแรมโนโวเทลมีเถาวัลย์ขึ้นเสาไฟฟ้า ขอให้ดูให้ทั่วถึง บ้านเมืองจะได้สะอาดเรียบร้อย เพราะเวลาที่ตนไปตรวจกระทรวงก็จะไปดูห้องส้วม โรงอาหาร ครัว ไปดูว่าสะอาดหรือไม่ เพราะถ้าเหล่านี้สะอาดส่วนอื่นก็จะสะอาดด้วย