หากได้เห็นผลงานรูปปั้นดินเผาเป็น “พระพิฆเนศ” ของศิลปินหนุ่มจาก จ.สุโขทัย “ลำพิน ม้วนอ่ำ” คงอดไม่ได้จะต้องชื่นชมในฝีมือสร้างสรรค์อันประณีตอ่อนช้อยสวยงามเหมือนมีชีวิต และที่สำคัญ เติมความพิเศษด้วยการเป็นศิลปะร่วมสมัย ประยุกต์ท่าทาง หรือแต่งกายในแบบปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพต่างๆ นำไปบูชาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อการทำมาหากิน
ลำพินเล่าว่า แนวคิดการสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัยเกิดจากความคิดนอกกรอบของตัวเอง ประกอบกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เคารพ “พระพิฆเนศ” อยู่แล้ว อยากจะนำไปบูชาให้เหมาะกับกิจการ หรืออาชีพของตัวเองให้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของการปั้น “พระพิฆเนศ” ในรูปแบบแปลกใหม่ ทั้งอยู่ในเครื่องแต่งกายประจำอาชีพต่างๆ หรือมีท่าทางกำลังประกอบอาชีพ รวมถึงถืออุปกรณ์ประจำอาชีพต่างๆ เช่น ใส่ชุดสูท ถือสมาร์ทโฟน เล่นเครื่องดนตรี สวมเครื่องแต่งกายนักกีฬา ฯลฯ
เขาเสริมว่า จากการศึกษาข้อมูลแล้ว การปั้นรูปแบบใหม่ดังกล่าวไม่ได้มีข้อห้ามตามหลักศาสนา ตรงกันข้าม ถือเป็นการแสดงความเคารพอย่างสูง เพราะพระพิฆเนศถือเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง ดังนั้น การปั้นพระพิฆเนศในรูปแบบประกอบอาชีพต่างๆ เท่ากับยกย่องนับถือท่านในฐานะเป็นสุดยอดแห่งศาสตร์อาชีพนั้นๆ
ในส่วนตัวของศิลปินท่านนี้แล้ว เขาบอกด้วยว่า บารมีแห่ง “พระพิฆเนศ” ยังช่วยสร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่เขาและครอบครัว โดยจุดเริ่มต้นเล่าย้อนไปแล้วเป็นความบังเอิญที่น่าอัศจรรย์ไม่น้อย
ลำพินบอกว่า เป็นชาวสุโขทัยโดยกำเนิด ก่อนหน้านี้เคยทำมาหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเปิดร้านขายเสื้อผ้า เลี้ยงหมู เลี้ยงวัว ฯลฯ แต่ล้วนไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องมองหาอาชีพใหม่เรื่อยๆ จนวันหนึ่งคิดถึงการปั้น “ดิน” เพราะเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายทั่วไป ไม่ต้องลงทุน ทว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีพื้นฐานความรู้เรื่องงานศิลปะใดๆ มาก่อนเลย ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการฝึกฝนลองผิดลองถูกด้วยตัวเองทั้งสิ้น
“ที่ จ.สุโขทัย มีกลุ่มผู้ทำเครื่องปั้นดินเผาสังคโลกอยู่หลายราย แต่ผมไม่เคยมีความรู้ในการทำมาก่อนเลยแม้แต่น้อย แรกๆ ก็อาศัยไปเดินดูช่างปั้นเขาทำกันแล้วก็กลับมาลองทำเอง เพราะตอนนั้น ไปขอความรู้ก็ไม่มีใครยอมสอนให้ ผมเลยต้องศึกษาเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการปั้น การเผา การเลือกใช้ดินชนิดต่างๆ แต่ผมก็สามารถปั้นได้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อน สิ่งสำคัญคงจะเป็นพรสวรรค์ที่อยู่ในตัวแต่ไม่เคยรู้มาก่อน” ศิลปินหนุ่มเล่า
อย่างไรก็ตาม ผลงานในช่วงแรกนั้น ลำพินบอกว่า เน้นปั้นเป็นพวกสัตว์ เช่น ม้า วัว และพวกรูปองค์พระบูชาทั่วไป ซึ่งยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก กระทั่ง เกิดแรงบันดาลใจปั้น “พระพิฆเนศ” เพราะได้ยินลูกค้าหลายคนมาเล่าให้ฟังถึงบารมีของท่าน จากนั้นเมื่อได้ศึกษาตำนานของพระพิฆเนศ ยิ่งทำให้เกิดความศรัทธา จนเป็นที่มาของการยึดปั้นพระพิฆเนศเป็นหลัก ซึ่งหลังจากปั้นมาแล้วได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีอย่างต่อเนื่อง มีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย
“ช่วงแรกที่ปั้นเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ถึงจะสวย แต่ก็ขายไม่ค่อยดี จนหลังจากปั้นพระพิฆเนศผมก็ได้รับคัดเลือกเป็นโอทอป 5 ดาวของจังหวัดสุโขทัยเลย และพอได้มาออกบูทในงานโอทอปประจำปี ในชื่อกลุ่ม “พึ่งดินสังคโลก” เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว นับถึงปัจจุบันผมมีออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งผมเชื่อว่าเกิดจากการปั้นด้วยใจของผม และบารมีของท่านคอยเกื้อหนุน”
สำหรับจุดเด่นของงานปั้นนั้น ลำพินบอกว่าอยู่ที่ความประณีต ทุกส่วนเก็บรายละเอียดไว้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นนิ้วมือ นิ้วเท้า รูปร่าง ขนตา เส้นผม ฯลฯ รวมถึงใบหน้าดูออกมาแล้วสื่อถึงอารมณ์ดี มีเมตตา ให้ผู้มองเกิดความสุขสบายใจ ส่วนสีของรูปปั้นแต่ละองค์ ยกเว้น “สีทอง” เป็นสีที่เกิดจากการเผาดินตามธรรมชาติล้วนๆ นอกจากนั้น เทคนิคการปั้นภายในจะ “กวง” เนื่องจากใช้วิธีเผาในอุณหภูมิความร้อนถึง 800-1,000 องศาเซลเซียล หากปั้นเป็นลักษณะก้อนดินตันทั้งองค์ รูปปั้นจะเกิดการแตกร้าว หรือระเบิดได้เลย
ในส่วนลูกค้านั้น เจ้าของผลงานบอกว่า ส่วนใหญ่เป็นบรรดาเจ้าของกิจการ ซึ่งเคารพและศรัทธาใน “พระพิฆเนศ” อยู่แล้ว สั่งไปบูชาให้กิจการหรืออาชีพตนเองประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น โดยการทำงานจะปั้นด้วยมือล้วนๆ ไม่มีการใช้แม่พิมพ์ใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อให้ชิ้นงานออกมามีคุณค่าที่สุด แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกัน รวมถึงเมื่อขายให้แก่ลูกค้าแล้วจะแนะนำวิธีการบูชา รวมถึงบอกคาถาบูชาพระพิฆเนศกำกับให้ด้วย
ในด้านการผลิต ลำพินระบุว่า เปิดโอกาสสร้างอาชีพ โดยสอนวิธีปั้นให้แก่ผู้สนใจด้วย จนขณะนี้มีทีมงานที่สามารถทำงานออกขายได้รวมกัน 4 คน นอกจากปั้นพระพิฆเนศแล้ว ยังปั้นงานศิลปะอื่นๆ ด้วยตามความสนใจของทีมงานแต่ละคน เช่น รูปปั้นศิลปะไทย รูปปั้นตัวละครตามวรรณคดี รูปสัตว์ต่างๆ เป็นต้น รวมกันแล้วผลงานที่ผ่านมานับเป็นพันชิ้น แต่ละชิ้นไม่เหมือนกันเลย ส่วนราคาขายเริ่มตั้งแต่หลักร้อยบาทถึงหลักแสนก็เคยทำมาแล้ว
“งานแต่ละชิ้น ผมจะคิดเสมอว่าต้องทำด้วยใจก่อนเสมอ ไม่คิดเรื่องเวลาว่าต้องเสร็จให้เร็วหรือช้า เพราะผมถือว่างานของผมเป็นงานประณีต ไม่ลอกเลียนแบบใคร ออกมาแล้วต้องดูดี ผมเลยใส่ใจทุกรายละเอียด และคิดนอกกรอบเสมอ ซึ่งผมมีคติเตือนใจตัวเองคือ ทำงานด้วยหัวใจ อย่าเห็นแก่เงิน” ลำพิน ทิ้งท้าย
โทร. 08-9753-6758 FB: พึ่งดินสังคโลก
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *