xs
xsm
sm
md
lg

แลนด์มาร์กใหม่ริมสุขุมวิท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พื้นที่ 43 ไร่ ริมถนนสุขุมวิท 101 กำลังจะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด The Great Good Place     Whizdom 101
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า คนยุคใหม่ไม่ได้เลือกซื้อแค่อาคารที่อยู่อาศัย หรือมองที่ทำเลที่ตั้งเพียงอย่างเดียวในการเลือกซื้อที่พักอาศัยอีกต่อไปแล้ว แต่คนยุคใหม่มองหาไลฟ์สไตล์หรือรูปแบบการใช้ชีวิตที่โครงการนำเสนอ เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมีความสุข ความสะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคุณภาพได้อย่างรอบด้าน เป็นได้ทั้งบ้าน ที่ทำงาน ที่พักผ่อนและทำกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการ “Whizdom 101” (วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน) ด้วยเงินลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท
พื้นที่ 43 ไร่ บนถนนสุขุมวิท 101 จึงถูกบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC วางเป้าหมายให้เป็นโครงการ Mixed-use ทันสมัยภายใต้แนวคิด The Great Good Place เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยมีโครงการในประเทศทำมาก่อน 
“The Great Good Place” เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ เพื่อมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ควบคู่กับการพัฒนาสภาพแวดล้อมโดยรอบ เพื่อเป็นโครงการมาตรฐานระดับโลก ออกแบบให้เชื่อมโยงวิถีชีวิตที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ เพราะต้องทำงาน ต้องใช้ชีวิต มีสังคม รวมถึงต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อม
สุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ผู้อำนวยการบริหารMQDC เปิดเผยว่า Whizdom 101 มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างความแตกต่างจากโครงการจัดสรรทั่วๆ ไป ด้วยการจัดสรรพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 43 ไร่ โดยพื้นที่ 65% ของพื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่เปิดโล่ง และ 30% เป็นพื้นที่สำหรับต้นไม้ใบหญ้าที่เชียวชอุ่ม มีพื้นที่ในอาคารรวม 340,000 ตารางเมตร ซึ่งในจำนวนนี้พื้นที่ประมาณหนึ่งในสามจะเป็นส่วนที่พักอาศัย และสองในสามเป็นพื้นที่เพื่อการพาณิชย์

ไม่ปะทะแสงแดดช่วยลดความร้อน
  การวางผังโครงการเพื่ออนุรักษ์พลังงานและคุณภาพชีวิต จัดวางอาคารแบบทิศเหนือ ทิศใต้ ทำให้แต่ละยูนิตที่พักอาศัยไม่ปะทะกับแสงแดดโดยตรง มีการติดตั้งแผงกันแดดและใช้กระจกที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดความร้อนเข้าสู่อาคารในส่วนของผนังห้อง จะจัดให้ห้องนั่งเล่นอยู่ทางทิศเหนือติดหน้าต่าง เพื่อให้แสงเข้ามาภายในห้อง ส่วนห้องครัวจะจัดไว้ในทิศใต้ติดหน้าต่าง เพื่อให้ระบายอากาศได้ดี      
วัสดุอุปกรณ์ทั้งหมด จะเลือกใช้อุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดพลังงาน อาทิ สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ เครื่องปรับอากาศ เบอร์ 5 และหลอดไฟ LED ส่วนโซนจอดรถจะแยกออกจากตัวอาคาร และปลูกต้นไม้บังแนวเสียงและฝุ่นที่จะเข้าสู่อาคาร
ไม่เพียงแค่คิดเรื่องการวางผังและใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยลดโลกร้อน หรือไม่ทำลายธรรมชาติเท่านั้น แต่เรายังคิดต่อไปถึงเรื่องอากาศบริสุทธิ์ภายในห้องนอน เพราะจากการวิจัยและให้นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มาทดลองนอนในห้องนอนขนาด 10ตารางเมตรเศษ พบว่าหากนอน 2 คน ระยะเวลานาน 6-8 ชั่วโมง จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สะสมเกินมาตรฐาน เราจึงใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้สุขภาพดีด้วยการใส่เครื่องเติมอากาศ ( Fresh air) ซึ่งจะช่วยดึงอากาศจากภายนอกเข้ามา รวมถึงช่วยกรองฝุ่น และปรับอุณหภูมิให้ต่ำลง ก่อนจะปล่อยเข้ามาในห้องนอน เป็นอากาศบริสุทธิ์ เย็นสบายแทนที่อากาศอับชื้น
สำหรับที่พักอาศัยจะพัฒนาขึ้นในลักษณะ A Good Place For Living บนพื้นที่ 17 ไร่ มีคอนโดมิเนียมHigh-Rise  3 อาคาร ทุกยูนิตจะมีความพิเศษด้วย "Smart Home Automation System" เทคโนโลยทันสมัย ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถควบคุมและสั่งการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เปิด-ปิด เครื่องปรับอากาศ ไฟ ทีวี รวมถึงควบคุมผ้าม่านในบ้านได้แม้อยู่นอกบ้าน 
คอนโดมิเนียมประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33.7–44.9 ตารางเมตร แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 51.9–83.8 ตารางเมตร แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 100.2–101.8 ตารางเมตร และแบบเพนต์เฮาส์ ขนาด 195.9–209.6 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท

เนรมิตเลนจักรยานและลู่วิ่งลอยฟ้า
เลนจักรยานและลู่วิ่งลอยฟ้าอยู่ภายใน Commercial Zone (พื้นที่เชิงพาณิชย์) ระยะยาวถึง 1.3 กิโลเมตร ทำให้นักปั่นและนักวิ่งสามารถมองเห็นวิวได้ในมุมกว้าง นอกจากนี้พื้นที่ 5 ไร่ครึ่ง เป็นสวนภายในคอนโดมิเนียม ยังช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้อีกด้วย อีกทั้งยังมีทางเดินและเลนจักรยานราบล้อมโครงการ ช่วยให้ผู้พักอาศัยสามารถลงมาออกกกำลังกาย
ส่วนที่ทำงานเป็นลักษณะ A Good Place For Working มีพื้นที่สำนักงานให้เช่า ประมาณ30,000 ตารางเมตร ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ "Innovative Office Park" ที่เปิดโอกาสให้ได้สร้างสรรค์งานใหม่ๆ ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติแทนความรู้สึกของการติดอยู่ในอาคารสำนักงาน พื้นที่สำหรับการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ (Innovation Ecosystem) เพื่อเป็นแหล่งความรู้
อาคารสำนักงานสมัยใหม่จะออกแบบให้คนทำงานที่ไม่ได้อยู่ในบริษัทเดียวกัน มีโอกาสได้พบปะกันมากขึ้นโดยบังเอิญจะเป็นในลักษณะแคมปัส อาทิ ออกแบบให้ต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปที่จุดนัดพบ อาจจะเป็นมุมกาแฟที่เป็นมุมที่คนทำงานจะมาพบกัน ซึ่งการพบกันจะทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆในการทำงาน เช่นบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่จะออกแบบพื้นที่สำนักงานให้เป็นลักษณะดังกล่าว และเรียกว่า แคมปัส เช่น Google FB APPLE ซึ่งในโซนอาคารสำนักงานจะใส่เทคโนโลยี ความทันสมัย ความสะดวกสบายผสมผสานกับความเป็นธรรมชาติ ใส่สีเขียวมากขึ้น จากงานวิจัยพบว่า สีเขียวมีพลังมหาศาล ทำให้เกิดแนวคิด เกิดไอเดียใหม่ๆ คิดนอกกรอบ สามารถเพิ่มผลผลิต ทำงานได้มากขึ้น
"พื้นที่สีเขียวไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้ลงไปในพื้นที่เท่านั้น แต่เรายังคิดต่อไปว่าจะปลูกต้นอะไร ปลูกไม้ดอก ไม้ผล เพื่อให้มีแมลง มีนกมาอาศัยอยู่ มีระบบนิเวศที่ดี เป็นการดึงธรรมชาติมาใกล้ชิดลูกบ้านมากขึ้น" สุทธากล่าว

ดิจิตอลแบบไร้รอยต่อ
ภายในWhizdom 101 จะเป็นA Good Place For Socializing สังคมดิจิตอลครบวงจรและสมบูรณ์ ที่ซึ่งสำนักงาน ที่พักอาศัย ร้านค้าปลีก สิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะเชื่อมกันเป็นเครือข่ายเมืองดิจิตอลแบบไร้รอยต่อ ด้วยฟรี WiFiที่มีความเร็วสูงสุด มีแอปพลิเคชั่นพิเศษ Whizdom Society Apps ที่ผู้พักอาศัยสามารถใช้จองฟิตเนส ร้านอาหารหรือกิจกรรมต่างๆ ในโครงการ ซึ่ง True จะทำ True Digital Park ที่นี่ด้วย
พื้นที่ร้านค้าปลีก ประมาณ 20,000 ตารางเมตร จะไม่มีสินค้าแบรนด์เนมขาย แต่ทุกร้านจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้พักอาศัยอย่างแท้จริง เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ทำเล็บ นวดตัว ซักรีด ร้านแว่นตา ร้านขายยา เป็นต้น พื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมดของโครงการถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ไฮบริด (Hybrid) ที่ผสมผสานพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารเข้าด้วยกัน
สำหรับพื้นที่จัดกิจกรรมนั้น อาจจะใช้เป็นพื้นที่ดูหนัง ฟังเพลง สถานที่ปฏิบัติธรรม หรืออาจจะมีโปรแกรมเทรนนิ่ง แล้วเปิดให้ลูกบ้านเข้าร่วมในโปรแกรมได้
ขณะที่สปอร์ตคลับใหญ่ บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร จะบริหารงานอย่างมืออาชีพโดย "คลับคอร์ป" (Club Corp) ผู้บริหารคลับที่ใหญ่ที่สุดจากอเมริกา ประกอบด้วย ฟิตเนส Social Lounge คอร์ตเทนนิสในร่ม ยังมีห้องนั่งเล่นสำหรับการทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ (Social Lounge) มีโซนสำหรับครอบครัว และสระว่ายน้ำแบบชายทะเลสไตล์รีสอร์ตแห่งแรกในกรุงเทพฯด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น โครงการยังรับประกันคอนโดมิเนียมนานถึง 30 ปี ทั้งเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้างอาคาร การรั่วซึมของหลังคา การใช้งานประตูหน้าต่าง และการรั่วซึมของท่อน้ำ ไฟ โดยมีทีมงานตรวจสอบดูแลอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าตลอดเวลาที่พักอาศัยในโครงการแห่งนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น