แมกโนเลีย ทุ่ม 30,000 ล้านบาท ผุดโครงการมิกซ์ยูส “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” คอนโดฯ สำนักงาน คอมมูนิตีมอลล์ สปอร์ตคลับ บนพื้นที่ 43 ไร่ บนถนนสุขุมวิท 101 เผยแผนลงทุนครึ่งปีหลังเตรียมเปิดคอนโดฯ อีก 1-2 โครงการ คาดภาวะตลาดครึ่งปีหลังยังโตได้ หลังรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวโครงการ “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” (Whizdom 101) เนื้อที่ 43 ไร่ บนถนนสุขุมวิท 101 ซึ่งซื้อมาจากปิยรมย์ สปอร์ตคลับ มูลค่า 4,000 ล้านบาท และซื้อที่ดินเพิ่มอีกบางส่วน ภายในโครงการจะประกอบด้วย คอนโดมิเนียม เนื้อที่ 17 ไร่ พื้นที่ 140,000 ตารางเมตร อาคารสำนักงานพื้นที่ 30,000 ตารงเมตร พื้นที่ค้าปลีก หรือคอมมูนิตีมอลล์ 20,000 ตารางเมตร และสปอร์ตคลับ 10,000 ตารางเมตร
สำหรับคอนโดมิเนียม มีจำนวน 3 โครงการๆ ละ 1 อาคาร บนเนื้อที่รวม 17 ไร่ โดยเปิดโครงการแรกภายใต้ชื่อ “วิซส์ดอม คอนเนค สุขุมวิท” เป็นอาคารชุดพักอาศัยความสูง 41 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 673 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการกว่า 5 ไร่ ประกอบด้วย ห้องชุดพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 26.90-29.80 ตารางเมตร แบบ Flexi Room พื้นที่ 38.30-64.60 ตารางเมตร แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ 62.80-71.80 ตารางเมตร และแบบ 3 ห้องนอน พื้นที่ 81.60 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.1-7.9 ล้านบาท โดยจะเริ่มก่อสร้างในปีนี้ แล้วเสร็จประมาณกลางปี 61 ส่วนคอนโดฯ อีก 2 โครงการ คาดว่าจะเปิดขายในช่วงปลายปี หรือต้นปี 59
ส่วนพื้นที่อีก 26 ไร่ จะประกอบด้วย อาคารสำนักงานขนาด 30,000 ตารางเมตร จะพัฒนาเป็นอาคารโลว์ไรส์ไม่เกิน 10 ชั้น พื้นที่แบบแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือ co-working space ด้วยคอนเซ็ปต์ Innovative Office Park ขณะที่คอมมูนิตีมอลล์ จำนวน 20,000 ตารางเมตร จะเน้นร้านอาหาร และเครื่องดื่มเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่พักอาคาร คนทำงานภายในโครงการ และประชาชนชนภายนอก ส่วนสปอร์ตคลับตั้งอยู่ภายในอาคารสูง 3 ชั้น ขนาด 10,000 ตารางเมตร
บริษัทได้ร่วมกับคลับคอร์ปเพื่อบริหารสปอร์ตคลับ ซึ่งนอกจากอุปกรณ์ สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับฟิตเนส และสปอร์ตคลับแล้ว ยังมีห้องนั่งเล่นสำหรับการทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ (Social Lounge) มีโซนสำหรับครอบครัว คอร์ตเทนนิสในร่ม และสระว่ายน้ำแบบชายทะเลสไตล์รีสอร์ตแห่งแรกในกรุงเทพฯ
นายวิสิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีแผนจะดำเนินการก่อสร้างสกายวอล์ก หรือทางเดินเชื่อมจากบีทีเอส สถานีปุณณวิถี มายังโครงการ “วิสซ์ดอม วัน โอ วัน” ระยะรวมทางกว่า 300 เมตร และเลยไปยังปากซอยสุขุมวิท 101 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าอีกด้วย ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการขออนุญาต กทม. และบีทีเอส ในการทำทางเชื่อม ตอนนี้อยู่ในการออกแบบ คาดว่าในปี 2559 จะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน นอกจากนี้ บริษัทมีแผนไปโรดโชว์ในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง โดยคาดว่าจะนำไปโรดโชว์ในช่วงต้นปี 2559
นายวิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมตลาดในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังสามารถเติบโตได้ จากการที่รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว โดยเฉพาะวิกฤตการเงินของประเทศกรีซคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
