xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ปัดรังแก ขรก.ถูกฟ้องจำนำข้าว แค่ให้เป็นบทเรียน ลั่นไม่กลัว “บุญทรง” เอาคืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรี ยันใช้ ม.44 ปมจำนำข้าวเพื่อปกป้องข้าราชการให้กล้าทำงาน ไม่ได้เอามาตัดสินคดี ผิดถูกสู้กันที่ศาล ไม่ต้องห่วงดำเนินการทัน เผย มี 850 คดีต้องหาคนรับผิดชอบ แต่ไม่ใช่ข้าราชการหมด ปัดรังแก แค่อยากให้เป็นบทเรียน ดูอยู่เซ็นเรียกค่าเสียหาย “ปู” เองหรือไม่ เย้ย “บุญทรง” จะลากตนขึ้นศาลก็รอตัวเองออกมาจากคุกก่อนแล้วกัน ลั่นไม่กลัว เชื่อทนายทะแนะตัวดี ทำ “ยิ่งลักษณ์” เข้าใจยาก

วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินคดีต่อโครงการรับจำนำข้าว กับนักการเมือง และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงไปตลอดเวลา ซึ่งตนยืนยันว่า ทุกคดีไม่เคยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่รออยู่แล้วทั้งหมด ตนมีหน้าที่ในการอำนวยความเป็นธรรมให้ฝ่ายกฎหมาย ศาล กระบวนการยุติธรรม ทำงาน ไม่ได้ไปใช้อำนาจในการชี้ผิดชี้ถูก เพียงแต่ป้องกันเจ้าหน้าที่เขาไว้หน่อย ไม่เช่นนั้น เขาไม่กล้า อย่างเช่น กรณีที่ผ่านมามีการขู่เจ้าหน้าที่กันเยอะไปหมด ดังนั้น ตนก็ต้องมีมาตรา 44 เพื่อปกป้องข้าราชการ แต่ไม่ใช่เพื่อปกป้องให้เขารังแกคน แต่เพื่อให้เขากล้าทำงาน ไม่เช่นนั้นก็จะมีปัญหาในการทำงานวันข้างหน้า

“มาตรา 44 ผมไม่ได้ไปชี้ผิดถูก ไม่ได้เอามาตัดสินกรณีโครงการรับจำนำข้าว แต่เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะผิดจะถูกไปสู้กันตรงนั้น ตามหลักฐานที่มีอยู่ และไม่ต้องห่วงในเรื่องระยะเวลา ดำเนินการทันอยู่แล้ว เวลานี้อยู่ในขั้นตอนของกระทรวงการคลัง ที่ดำเนินการให้ทันเวลาแน่นอน ลักษณะเดียวกับของกระทรวงพาณิชย์” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในส่วนที่มีการเรียกค่าเสียหาย 80 - 20 นั้นคือ ใน 80 เป็นเรื่องหลายส่วนที่ต้องมารับผิดชอบ ไม่ใช่ข้าราชการทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดมี 850 คดี ที่ต้องหาผู้มารับผิดชอบ ส่วน 20 นั้นรับผิดชอบทางนโยบาย ฉะนั้น จะมีทั้งระดับสูง ระดับกลางที่เกี่ยวข้อง โดยยืนยันว่า ไม่ได้รังแกข้าราชการ แต่อยากให้เป็นบทเรียน ให้รู้ว่าอะไรผิดถูก จะได้ไม่คล้อยตามไปหมด ยืนยันว่า พยายามเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาประเทศชาติให้ได้โดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะลงนามเรียกค่าเสียหาทางแพ่งเองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังดูอยู่ ถ้ามันคล้ายคลึงกันกับกรณีของจีทูจี ก็มอบหมายให้รัฐมนตรีลงนาม ซึ่งรัฐมนตรีก็สามารถมอบต่อได้ เหมือนกับคดีของกระทรวงพาณิชย์

เมื่อถามว่า เหตุผลที่ไม่ลงนามเองคืออะไร นายกฯ กล่าวว่า เขาบังคับให้ตนลงนามเองหรือเปล่า และจริง ๆ ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวง ข้าราชการเป็นคนรับผิดชอบ เพราะเป็นกรรมการในการตรวจสอบ ฉะนั้น รัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรี ก็เซ็นในนามผู้บริหารราชการ สามารถมอบหมายกันได้ โดยมีสองขั้นตอน

ถามย้ำว่า จะมอบหมายให้ รมว.คลัง เป็นผู้ลงนามใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เขาเป็นหัวหน้าตั้งคณะทำงานนี้ขึ้นมา ซึ่งมีสองคณะ โดยคณะแรก เป็นกระทรวงพาณิชย์ เป็นการคิดทั้งสี่ฤดูกาล แต่กระทรวงการคลังตรวจสอบสองฤดูกาล ส่วนเรื่องระยะเวลาต้องดำเนินการให้ทันเดือน ก.พ. ปี 2560 เพราะคดีจะหมดอายุความตอนนั้น ยังไงก็ต้องทำ

“ขอให้เข้าใจว่า การทำงานไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องตรวจสอบทุกคลัง ตรวจสอบบัญชี ไล่หาทุกที่ ทุกคลังไม่ตรงกัน ทั้งข้าวหอม ข้าวขาว กลายเป็นข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิกลายเป็นปลายข้าว” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูในเรื่องการเรียกค่าเสียหายร่วม 80 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมมีอยู่แล้ว ซึ่งส่วนนี้มีทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และฝ่ายการเมืองส่วนต่าง ๆ เรื่องนี้มีหลายคดี และรัฐมนตรีก็ทำในสิ่งที่ ป.ป.ช. และ ศอ.ตช. เตือน แต่ไม่ระงับยับยั้ง และในส่วนการทุจริตข้างล่างก็ต้องมีผู้รับผิดชอบเพิ่ม รวม 850 คดี เวลานี้มอบหมายให้ ศอ.ตช. ไปดูเรื่องการบริหารข้างบนว่าใครจะต้องได้รับการตรวจสอบบ้าง เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และจะเป็นการทำงานร่วมกับฝ่ายกฎหมายด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุ จะลากนายกฯ ขึ้นศาล จากกรณีโครงการรับจำนำข้าว ว่า ก็รอลากตอนที่ตัวเองออกจากคุกมาก่อนแล้วกัน ตนไม่กลัว เพราะเป็นการทำหน้าที่ แต่หลังจากกระบวนการนี้จบสิ้น ตนจะโดนอะไรกลับหรือไม่นั้นไม่รู้ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมาย ตนไม่ได้จบกฎหมาย แต่จะมาทำอะไรได้ก็ช่างเถอะ ถ้ากลัวก็ไม่เข้ามาหรอก ไปทำอย่างอื่นไม่ดีกว่าเหรอ มีใครกล้าทำบ้าง แต่ตนต้องทำ เพราะรับผิดชอบอยู่ตอนนี้ ถ้าไม่ทำตนก็จะมีปัญหา ซึ่งตนกลัวคดีอย่างนี้มากกว่า ไปแก้คดีตัวเองให้จบก่อนมาฟ้องตน

ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาขอให้ยกเลิกมาตรา 44 ในการยึดทรัพย์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนพูดหลายรอบแล้ว คำสั่งดังกล่าวเป็นการใช้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างไม่หวาดกลัว เพราะวันหน้าเขายังอยู่ในราชการ จะถูกรังแกหรือเปล่า นักการเมืองเข้ามาจะเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า นายกฯ มองหรือไม่ว่า ทำไม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เข้าใจเรื่องนี้ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องไปถามยิ่งลักษณ์ ถ้าเข้าใจคงไม่มีเรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะฟังคนรอบข้างมากไปหน่อย พวกทนายทะแนะตัวดีนัก

ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม. ถึงการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวจาก ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องชดใช้ 20 เปอร์เซ็นต์ และต้องหาผู้รับผิดชอบอีก 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ ว่า นายวิษณุ ได้อธิบายในที่ประชุมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบร้อยละ 20 จำนวนเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนความเสียหายอีก 80 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 142,869 ล้านบาท จะต้องมีการตรวจสอบกันต่อ ทั้งนี้ ใน 80 เปอร์เซ็นต์ มีเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับปฏิบัติและเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมแล้ว 850 คดี ครอบคลุมพื้นที่ 33 จังหวัด เช่น ใน จ.กำแพงเพชร มีกว่า 100 คดี จ.นครสวรรค์ 200 คดี ทั้งนี้ ประกอบด้วยคดี เช่น การมีส่วนเข้าไปทุจริต รับข้าวผิดประเภท ข้าวหาย ลงจำนวนไม่ตรง ฯลฯ โดยคดีทั้งหมดอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคดีเหล่านี้มาจากการตรวจสอบจากคณะกรรมการ ที่มี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

“อีกส่วนที่ต้องตรวจสอบ คือ เจ้าหน้าที่ระดับนโยบาย ว่า มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง โดยวันนี้ ครม. เห็นชอบให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอ.ตช.) เป็นเจ้าภาพในการประสานงาน ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ท. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อสอบสวนในระดับนโยบาย ว่า มีใครเกี่ยวข้องบ้าง แล้วนำผลการพิจารณาในระดับนโยบาย มาพิจาณาร่วมกับระดับฝ่ายปฏิบัติด้วย” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีการพักงานผู้ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า มีขั้นตอนในการปฏิบัติอยู่แล้ว ใครที่จะทำให้พยานหลักฐานดูยุ่งกว่าเดิม ก็จะใช้มาตรการแบบเดิม แต่หากใครไม่มีความวุ่นวาย ก็จะสามารถอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังชี้แจงว่า อายุความ 2 ปี ยังไม่เริ่ม เพราะการจะนับอายุความ ต้องรอให้มีความชัดเจนว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด แต่เวลานี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ


กำลังโหลดความคิดเห็น