xs
xsm
sm
md
lg

ประยุทธ์เปิดหน้าชก “ไอ้ลูกหมา” เดินหน้าประจาน-ลุยดำเนินคดี !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



“ที่ผ่านมา บ้านเมืองวิกฤต เพราะฉะนั้นไม่ใช่อะไร ๆ ก็จะต้องประชาธิปไตย หรือประชามติอย่างเดียว และถ้ามันไม่เลวร้าย ผมคงไม่เข้ามา อย่าคิดแต่เรื่องประชามติ ประชาธิปไตยอย่างเดียว แล้วมันกินได้หรือไม่ ประชาธิปไตยคือความเห็นต่าง โดยไม่เอาปืนมาไล่ยิงคน ถามว่าใครยิงคน ทหารยิงหรือ ไปถามไอ้ลูกหมาโน่น ต้องขอโทษนะที่พูดไม่เพราะ”

“ผมไม่เคยที่จะใช้อำนาจไปรังแกใครทิ้งสิ้น จะเห็นได้ว่า หากที่ผ่านมา ผมใช้อำนาจ ป่านนี้เต็มคุกไปหมดแล้ว ผมให้โอกาสทุกครั้ง ผมอยู่ภายใต้กติกามาทั้งหมด จนกระทั่งผมอยู่ไม่ได้ จึงต้องออกมาแบบนี้ ปล่อยประเทศชาติเสียหายต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ที่ไม่ใช่ผมทำ รู้ว่าเป็นใคร ไปตรวจสอบมา อย่าคิดว่าผมมารังแกคนนั้นคนนี้ มาปราบใคร มันไม่ใช่ ไม่ผิดก็คือไม่ผิด ก็จบ ทุกประเทศเขาอยู่กันมาแบบนี้ โลกใบนี้อยู่กับกฎหมายกระบวนการยุติธรรม และการตรวจสอบรัฐบาลก็ต้องให้มีความยุติธรรม ถึงแม้ผมจะมีอำนาจในการชี้ผิดชี้ถูก ผมก็ไม่ทำ ปล่อยให้สู้คดีไป ผมจะไม่พยายามใช้อำนาจเด็ดขาดแบบนั้น แต่จะใช้อำนาจแค่การบูรณาการ”

“ผมไม่ได้รังแกเขา หลายอย่างไม่ได้ถูกนำเข้ากระบวนการยุติธรรมมาเลย ผมก็เอาเข้า ซึ่งมี 8 - 9 คดีที่เป็นคดีใหญ่ ๆ และสร้างความเสียหายกับประเทศ วันนี้ต้องคิดไปข้างหน้า อย่าคิดกลับไปข้างหลัง ที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ส่วนคนผิด ถ้าผิดก็ลงโทษ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ลงโทษหมด คนดีก็ชมเชยเขา ไม่ใช่เหมาหมดว่าเลว เรื่องกระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมา รัฐบาล คสช. ถูกมองว่าไม่เป็นธรรม รังแก หากไม่ทำผิด ไม่มีมูล คงไม่มีเรื่อง ก็ทำโทษไม่ได้อยู่แล้ว ผมกำลังทำสิ่งที่ดีกว่าที่เคยทำมาจะมาฝ่าฝืนทำไมเพื่อให้จับ เสร็จแล้วก็ส่งรูปไปร้องเรียนสหประชาชาติ สถานทูตประจำประเทศตัวเอง วันหลังผมจะประจานบ้างในสิ่งที่เขาทำเลวร้าย โดยเฉพาะพฤติกรรมของคนที่หนีไปต่างประเทศ แล้วดูว่าเขาจะฟังใคร ในเมื่อเปิดหน้ากันแบบนี้ ผมก็ใช้กฎหมายเท่านั้น”

คำพูดบางส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ขณะเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดร้อยเอ็ด ย่อมชี้ให้เห็นถึงท่าทีและความเคลื่อนไหวในอนาคตข้างหน้าได้ดี และยังสามารถเชื่อมโยงไปถึงอนาคตทางการเมืองของเขาได้อีกด้วย หากเขาจะเลือกเดินทางนั้นอย่างเปิดเผยหลังการเลือกตั้งในปลายปี 2560 ตามโรดแมป

หากพิจารณาจากความหมายที่สื่อออกมาก็พอมองเห็นสองสามเรื่องที่สำคัญ ก็คือ “พฤติกรรมของคนที่หนีไปต่างประเทศ” เรื่อง “ไอ้ลูกหมาที่ยิงคน” และการเดินหน้าใช้กระบวนการยุติธรรมดำเนินคดีโดยโฟกัสไปที่คดีสำคัญ 8 - 9 คดี ที่เป็นคดีใหญ่ และสร้างความเสียหายให้บ้านเมืองจำนวนมาก

แน่นอนว่า หากพิจารณาจาก “ความหมาย” ก็ต้องเริ่มมาจากการนำคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดสำคัญทางภาคอีสานเหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองบางอย่าง ถ้าจะมองแบบนั้นก็มองได้ แม้ว่าคราวนี้จะเป็นการเดินทางไปที่ “อำเภอธวัชบุรี” ไม่ใช่อำเภอ “อาจสามารถ” เหมือนในอดีตที่ ทักษิณ ชินวัตร เคยไป “ทัวร์นกขมิ้น” หาเสียงแบบเรียลิตีโชว์ แต่เมื่อพิจารณาจากพื้นที่มันก็พอมองในแบบการเมืองได้เหมือนกัน

เพราะต้องไม่ลืมว่า จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสานที่โหวต “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง ดังนั้น เมื่อเป็นแบบนี้มันถึงต้องบอกว่ามีความหมาย เพราะแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังพูดออกมาเองถึงสองสามครั้งระหว่างที่ไปเยี่ยมเยียนประชาชน โดยเน้นย้ำให้เห็นว่า แม้จะรูัว่าชาวร้อยเอ็ด หรืออีกบางจังหวัดจะโหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ แต่เขาก็รักและดูแลเหมือน ๆ กันทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ไม่แบ่งแยก เพราะเป็นคนไทยเหมือนกันประมาณนี้แหละ

หากพิจารณากันในแบบการเมืองไม่อ้อมค้อม ก็ต้องบอกว่านี่แหละใช่เลย มันเหมือนกับเป็นการ “ย้อนศร” ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยแสดงโชว์เอาไว้ที่อำเภออาจสามารถ เมื่อหลายปีก่อน แต่คราวนี้สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้ว่าในรายละเอียดจะไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ต้องการไป “ซื้อใจ” วัดใจคนที่นั่นทำนองว่าถึงจะมีคนที่นี้จะชอบหรือไม่ก็ตาม ก็จะมาดูแลมาพัฒนาให้อย่างเต็มที่ ซึ่งมันก็เหมือนกับการส่งสัญญาณไปถึงพื้นที่อื่น ๆ อีกด้วย

อีกทั้งเนื้อหาในคำพูดยังเป็นการเปิดโปง “คนที่หนีอยู่ต่างประเทศ” ว่า มีพฤติกรรมทำร้ายบ้านเมืองอย่างไรบ้าง มีการบิดเบือนหลอกต้มคนไทยอย่างไรบ้าง มีการร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศโจมตีอยู่ตลอดเวลา

นอกเหนือจากนี้ หากพิจารณากันถึงประเด็นสำคัญที่เหลืออีกสองสามเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการสื่อออกมาแบบ “จงใจ” ในคราวเดียวกัน ก็คือ งานนี้เป็นการ “เปิดหน้าชก” กันแล้ว นั่นจึงเป็นที่มาของคำพูดที่ย้ำท่าทีอีกครั้งว่าจะเดินหน้าดำเนินคดีกับคนที่ทำผิดกฎหมายให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด โดยไม่มีการประนีประนอม และในนั้นก็ต้องรวมถึงคดี “รับจำนำข้าว” และ “คดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทย” อยู่ด้วยแน่นอน ส่วน “ไอ้ลูกหมา” ที่สั่งยิงคนจะเป็นคนเดียวกับที่ “หลบหนีอยู่ต่างประเทศ” หรือเปล่านั้น ก็ต้องคิดเดาเอาเองว่าใช่หรือเปล่า !!
กำลังโหลดความคิดเห็น