สะเก็ดไฟ
ต้นสัปดาห์จับตา “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร จะตีธงส่งสัญญาณอะไรให้กับหมู่มวลสมาชิกทำอะไรมากกว่าที่ทำกันอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ เพราะถ้าโจทย์ คือ คว่ำร่างรัฐธรรมนูญให้ได้ ท่อน้ำเลี้ยงที่ปิดสนิทมานานร่วมสองปี มีหวังได้เปิดก๊อกกันอีกครั้ง
งานนี้ถ้าไม่มีเงินขับเคลื่อน ก็ได้ไม่เต็มที่แน่ ดังนั้น นายใหญ่มีตัวเลือกเดียว ต้องอัดฉีดเม็ดเงินลงไปให้ทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่จัดเต็มพิกัด เพื่อปลุกมวลชนที่หลับใหลมานานให้ลุกขึ้นไปใช้สิทธิในวันที่ 7 สิงหาคม ให้ได้มากที่สุด เนื่องจากแรงจูงใจในการออกไปใช้สิทธิตอนนี้ ว่ากันตามเนื้อผ้า ฝ่ายที่รัก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังเยอะกว่าในแง่เป้าหมาย
ในขณะที่คนเสื้อแดง ซึ่งเป็นฐานมวลชนใหญ่ในการเลือกตั้ง ไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นงานที่เหมือนการให้ความร่วมมือกับ คสช. ยิ่งไม่อยากสังฆกรรมด้วย เลยส่อแววจะปล่อยผ่าน แล้วไปด่าปากเปล่าเอาอยู่ข้างนอก ถ้าเป็นอีหรอบนี้ มีแววเรียบร้อยโรงเรียนแป๊ะ !
นอกจากนี้ ยังเป็นการเบียดกระแส ดึงคนกลาง ๆ ซึ่งเป็นคนหมู่มากในประเทศ ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่รอดูกระแสช่วงวันสองวันก่อนกากบาทมาเทคะแนนให้ เพราะช่วงโค้งสุดท้ายใครสามารถดึงกระแส สร้างวาทกรรม แบบฮอตฮิตติดใจคนได้ ก็มีสิทธิ์ที่คนกลาง ๆ จะจรดปากกากากบาทที่ช่องนั้น ๆ ในเปอร์เซ็นต์ที่สูง
มาถึงตรงนี้แม้ฝ่ายรัฐจะประเมินว่า ตัวเองยังมีโอกาสที่จะเข้าวินแบบม้วนเดียวจบ แต่ก็มีหลายเรื่องให้น่ากังวลไม่น้อย เพราะต่อให้เป็นผู้ชนะ ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติไปได้ ก็ต้องดูว่า ผลแพ้ชนะมันขาดหลุดลุ่ย หรือชนะกันแค่ไม่กี่คะแนน
ถ้าชนะขาดหลายล้าน ไม่ต่างอะไรกับการตีตั๋วให้รัฐบาล และ คสช. บริหารงานต่อแบบเบาตัวขึ้น ไม่ต้องรับแรงเสียดทานจากต่างประเทศมากนัก เพราะท่องคาถาเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปี 2560 อย่างเดียว แม้ตอนประกาศผลอาจจะมีเสียงคนนินทาหมาดูถูกออกมาบ้างว่า การทำประชามติครั้งนี้ ไม่มีความชอบธรรม ประชาชนโดนปิดหูปิดตา ไม่มีการเปิดให้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ไล่ล่าคนเห็นต่าง
แต่คะแนนที่ชนะขาด ก็ยังเพียงพอที่จะประคองให้รอดจากแรงกดดันตรงนั้นได้เพราะมันท่วมท้น
ถ้าออกมาไม่ขาด แล้วกลายเป็นการผ่านแบบฉิวเฉียด ล้านสองล้าน ตรงนี้อาจมีปัญหาแน่ เตรียมรับมือกับเสียงครหาได้เลยว่า ขนาดปิดกั้นเสรีภาพกันจนคนไม่สามารถขยับตัวได้ ประหนึ่งเป็นการมัดตราสัง ยังเอาชนะกันได้แค่นี้ จะมีเสียงเรียกร้องเรื่องความบริสุทธิ์ยุติธรรม ของแต่ละพื้นที่ออกมาแน่
กงล้อเดิมเหมือนเมื่อการทำประชามติรัฐธรรมนูญปี 2550 อย่างมีบางหน่วยเกิดปัญหาเรื่องความชอบธรรม มันก็จะพาลไปถึงการจับผิดในหน่วยอื่น ๆ ว่า ผิดเหมือนกันหรือไม่ หน่วยเดียวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตในเรื่องของความโปร่งใสในการทำประชามติครั้งนี้
จะมีการเรียกร้องให้ตรวจสอบ หรือจัดให้มีการทำประชามติใหม่ หรือให้การทำประชามติครั้งนี้เป็นโมฆะ ตราหน้าว่า เป็นประชามติอัปยศ ซึ่งมันจะส่งผลให้สถานการณ์หลังจากนั้นมันไม่ราบรื่น ต่อให้ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านแล้วก็ตาม เนื่องจากไม่ได้รับการยอมรับ
ดังนั้น นาทีนี้มองข้ามช็อตไปอีกขั้น ฝ่ายต้านไม่ได้คิดแค่คว่ำร่างรัฐธรรมนูญให้ได้ แต่แค่แพ้แล้วไม่ขาด ก็เพียงพอต่อเกมที่จะเดินหลังจากนี้ เพราะการจำนนต่อผล เท่ากับว่า ยอมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นกับองคพยพ ไม่ว่าจะเป็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีคดีอยู่ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แล้วยังมีเรื่องเรียกค่าเสียหายอีกหลายล้านบาท รวมไปถึงลิ่วล้อทั้งหลาย ที่คาดกันว่า คดีจะทยอยออกมาอีกพรึ่บ หลังจากตอนนี้โดนสอยกันไปหลายราย ล่าสุดก็คิว เบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง ถ้าไม่พลิกเกมกลับมา มีหวังทั้งนายหญิง ลิ่วล้อ โดนเก็บกันเรียบ
พรรคเพื่อไทยใส่เต็มแม็กให้คะแนนตีตื้นให้ได้มากที่สุด ยิ่งได้รับอานิสงส์จากกรณีที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศในตัวแทนพรรคจะไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และคำถามพ่วงเรื่องส.ว. ยิ่งมีความหวังกันมากขึ้น เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คะแนนภาคใต้ และภาคกลาง ในส่วนที่เป็นฐานเสียงพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมระส่ำ ทำเอาแฟนคลับสับสน ตกลงต้องเชื่อใครระหว่าง “เดอะเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. หรือ อภิสิทธิ์ ศิษย์ลุงชวน กันแน่
ชาวบ้านชาวช่องที่ไม่รู้เกมการเมือง บางรายถึงขนาดตราหน้าอภิสิทธิ์ กันเลยว่า ทรยศต่อฝ่ายต้านทักษิณ เพราะการประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เหมือนพรรคเพื่อไทย และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เสมือนเป็นการสุมหัวลงเรือลำเดียวกัน เพียงเพราะประโยชน์ของตนเอง คนก็เลยแห่กันสงสาร “บิ๊กตู่” คะแนนที่เชื่อว่าจะรับตามฐานเสียงประชาธิปัตย์ในภาคใต้เลยสวิง ระหว่างคนที่รัก และเทิดทูนพรรคสีฟ้า ศรัทธาในตัวลุงชวน และอภิสิทธิ์ กับคนที่เกลียดทักษิณเข้าไส้
ที่ยืนหยัดว่าจะรับ เพราะเคลิ้มตามแคมเปญร่างรัฐธรรมนูญปราบโกง ฉบับซือแป๋ มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ปักใจเชื่อว่า กติกาฉบับนี้ สร้างมาเพื่อถอนรากถอนโคนระบอบทักษิณได้ มันก็เลยเห็นเหตุผลที่คนไปรับเพราะเกลียดทักษิณ
แต่คะแนนที่สวิง มันก็มีบางส่วนที่เกื้อหนุนให้ฝ่ายที่จะคว่ำตีตื้นเข้ามาได้อีกนิด ดังนั้น เมื่อบอลเข้าบาทา ตามสเต็ปฝ่ายต้านต้องรีบใส่ไม่ยั้ง ตามคิวที่มีกระแสลือหนาหู ช่วง 7 วันก่อนเข้าคูหา จะมีการยกหยิบสถานการณ์ภายในประเทศ ขึ้นมาเป็นตัวโน้มน้าวใจคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง คนเป็นหนี้เป็นสินกันมากขึ้น ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ รัฐบาลทหารไม่มีน้ำยาในการบริหารประเทศ เพื่อให้คนรู้สึกไม่ดีกับการบริหารประเทศภายใต้ “บิ๊กตู่” แล้วไปกาเพื่อเป็นการขับไล่
ขณะที่ฝ่ายตั้งรับ ก็น่าจะงัดแคมเปญเดิมหากินต่อเพื่อกระชุ่นอารมณ์คน ปลุกกระแสเกลียดนักการเมืองทุจริต คอร์รัปชัน ความขัดแย้งภายในประเทศหลายปีที่ผ่านมาสร้างความเสียหาย มีม็อบปิดเมือง เผาเมือง ตอกย้ำภาพให้คนเบื่อหน่ายไม่อยากกลับไปสู่จุดนี้อีก จึงไปกาเพื่ออนาคตประเทศ
สู้กันสนุกแน่ ไม่มีเรื่องเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ มีแต่ใครจะโน้มน้าวคนได้เก่งกว่ากัน !
