xs
xsm
sm
md
lg

สับสนมึนงง รับ-ไม่รับ เป้าหมายคนละทาง เงื่อนไขลุงตู่อยู่ต่อไม่ชัด !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา



ก็ต้องสะท้อนความรู้สึกออกมาแบบนี้จริง ๆ ว่า ชาวบ้านกำลังอยู่ในอารมณ์แบบที่ว่า “ละล้าละลัง” ไม่รู้จะตัดสินใจให้เด็ดขาดอย่างไรดีว่าจะรับหรือไม่รับ และอย่าได้แปลกใจที่ผลสำรวจออกมา ปรากฏว่า ยังมีชาวบ้านที่ยังไม่ตัดสินใจเกินร้อยละ 50 ทั้งที่ยังเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก่อนถึงวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำหนดเอาไว้ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้

หากจะสำรวจความเห็นก็พอสรุปได้ว่า “เสียงแตก” ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่รับ กับฝ่ายไม่รับ และฝ่ายที่ยังตัดสินใจไม่ถูก รวมไปถึงยังไม่ตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตดี ซึ่งในประเภทหลังนี้รวมอยู่ในพวกที่ยังไม่รู้จักเนื้อหา แต่จะรอลอกความเห็นจากฝ่ายที่ตัวเองชอบในนาทีท้าย ๆ ประเภทนี้มีเยอะ แต่ปัญหาก็คือ คนที่จะลอกความคิดดันคิดกันคนละทางเสียนี่

ตัวอย่างง่าย ๆ อย่างในพรรคประชาธิปัตย์ เวลานี้ ล่าสุด อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคออกมาแถลงอย่างเป็นทางการแล้วว่า “ไม่รับ” อ้างเหตุผลไม่ตอบโจทย์ 3 อย่าง เช่น 1. ปัญหาทิศทางพัฒนาประเทศ 2. ปัญหาความขัดแย้งในสังคม และ 3. ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน แม้ว่าจะมีเหตุผลปลีกย่อยตามมาในเรื่องที่อ้างว่าหากไม่รับก็จะสามารถเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา รวมถึงได้มีโอกาสปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งอีกด้วย

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาจากหัวข้อเฉพาะคำว่า “ไม่รับ” ก็ไม่สอดคล้องกับข้อสรุปของพรรคเพื่อไทยของ ทักษิณ ชินวัตร ก็มีการตั้งโต๊ะแถลงเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเงื่อนไขรายละเอียดต่างกัน ขานี้อ้างอยู่อย่างเดียว คือ หากเป็นผลผลิตออกมาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย่อมเป็นเผด็จการ พวกเขาเป็นฝ่ายประชาธิปไตย จะไม่ยอมรับเด็ดขาด ซึ่งในจำนวนพวกนักประชาธิปไตยเหล่านี้ ยังรวมไปถึง นปช. เสื้อแดง ของ จตุพร พรหมพันธุ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กับพวกอีกด้วย

แม้จะอ้างว่ามีรายละเอียดต่างกันก็เถอะ แต่ความหมายก็คือ “ไม่รับ” หรือโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่ 7 สิงหาคม

ขณะเดียวกัน หากโฟกัสไปเฉพาะในพรรคประชาธิปัตย์ หรือคนที่เคยอยู่ประชาธิปัตย์ อย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ และทีมงาน กปปส. กลับแถลงไปในทางตรงกันข้าม นั่นคือ “รับร่าง” พร้อมกับลงทุนเสี่ยงตะราง (เลยทีเดียว) ออกมาอวยเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ ว่า “เจ๋งสุด ๆ” เป็นเหตุผลสนับสนุนว่าทำไมต้องโหวตหนุน

เพียงแค่นี้ก็ทำให้บรรดา “แม่ยก” ต้องปวดหัวกันแล้วว่าจะตัดสินใจกันอย่างไรดี นอกจากนี้ ยังมีเหตุผลความไม่ชอบ เช่น ก่อนหน้านี้ จตุพร พรหมพันธุ์ เคยประกาศว่าหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติ เขาจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกละมันก็ยิ่งทำให้เกิดแรงยั่วยุให้ต้องออกไปโหวตรับร่างคนที่มีความรู้สึกประเภทนี้ เชื่อว่า ก็มีอยู่ไม่น้อย

นอกจากนี้ ยังมีความคิดที่มาในแบบที่ว่า หากไม่รับร่าง ก็จะเปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อยู่ในอำนาจต่อไป ทั้งที่หวังว่าเพื่อต้องการกำราบพวก “ระบอบทักษิณ” ให้เจือจางลง เปิดโอกาสให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ระหว่างที่มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง แต่สำหรับประเด็นนี้ ตัว พล.อ.ประยุทธ์ ยังสงวนท่าที และแน่นอนว่า จะ “ออกตัว” ไม่ได้ จะเสียหาย

ยังมีที่เสริมเติมเข้ามาประกอบกับพวกที่ไม่รับ ก็คือ ไม่อยากให้มีการเลือกตั้งในปีหน้า อยากให้รอไปอีกระยะหนึ่ง หรืออยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อยู่ต่ออีกพักหนึ่ง เพราะหากมีการเลือกตั้งก็จะได้นักการเมืองทุเรศ ๆ เข้ามาอีก ซึ่งชาวบ้านเขารังเกียจ เขาไม่ได้คิดไกลเรื่องของเผด็จการ หรือประชาธิปไตย ให้ซับซ้อน แต่รังเกียจนักการเมืองเพราะเห็นว่ามัน “กระจอก” ไม่คู่ควรให้เข้ามา

นั่นคือ สิ่งที่ประมวลหลักการ เหตุผล และความรู้สึกของชาวบ้านในเวลานี้ ที่ทำให้หลายคนยังสับสนมึนงงตัดสินใจไม่ถูก เพราะหากจะไปลอกความคิดของคนที่ตัวเองชอบตั้งแต่แรก ดันกลายเป็นว่า ล่าสุด กลับคิดไปคนละทางกับที่ตัวเองคิดเสียอีก เหมือนกับตัวอย่างกรณีของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ตัดสินใจไม่รับ ขณะที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ กลับบอกว่าให้รับ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่กล้าแสดงท่าทีว่าจะอยากอยู่ต่อหรือไม่ รวมทั้งไม่แสดงท่าทีให้ชัดว่าถ้ารัฐธรรมนูญผ่านจะเป็นนายกฯหากรัฐสภาโหวตเลือกตามรัฐธรรมนูญที่เปิดทางนายกฯคนนอก

ถึงได้บอกว่ายิ่งใกล้วันลงประชามติเท่าไหร่ ก็ยิ่งมึนงงสับสนตัดสินใจไม่ถูก เลือกไม่ขาดสักที แม้ว่าล่าสุด มีชัย ฤชุพันธุ์ ออกมาเผยไม้ตาย ว่า ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน ก็จะต้องมีการเลือกตั้งในปี 2560 บวกลบสองสามเดือนเท่านั้น โดยอ้างคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ เพียงแต่ว่าหากไม่ผ่านก็ร่างใหม่ โดยจะนำข้อเด่นของหลายฉบับมายำรวมแล้วประกาศใช้ แต่คำถามก็คือ ไม่ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังจะเป็นนายกฯอีกหรือเปล่า และถ้าเป็นแล้วจะมีอำนาจแบบเดิมอีกหรือเปล่า โอ๊ย เวียนหัว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น