** แม้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะออกมายืนยันหนักแน่นแล้วว่า คำพูดที่เคยบอกว่าหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ผ่านการลงประชามติ ก็จะร่างเองนั้นเป็นการพูดเล่น เป็นการประชดสื่อ โดยย้ำว่าตามขั้นตอนเขาไม่ได้เป็นคนร่างอยู่แล้ว ต้องมีการตั้งคณะกรรมการยกร่างขึ้นมา และย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามโรดแมป
การออกมาพูดแบบปฏิเสธดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แม้ว่าเป็นไปด้วยอารมณ์ค่อนข้างฉุนเฉียว แต่ก็สามารถจับอาการบางอย่างปะปนมาด้วย โดยเฉพาะหากร่างรัฐธรรมนูญผ่าน หรือไม่ผ่าน และจะทำอย่างไรต่อไป
แน่นอนว่ามาถึงตอนนี้ทางฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ส่วนใหญ่คงอยากให้ผ่าน เพื่อดำเนินต่อตามโรดแมปที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ที่ผ่านมาทางฝ่ายการเมืองฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงหากร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ ผ่านประชามติ ซึ่งหลายคนก็รับรู้กันอยู่แล้ว เพราะคนพวกนี้จะอยู่ในข่ายมีคุณสมบัติต้องห้าม ถูกกันออกนอกสนามการเมืองตลอดชีวิต ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำก็คือ ต้องป่วนและหาทางคว่ำให้ได้
**เพราะหากคว่ำได้ สิ่งที่ฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร กำลังต้องการก็คือ ต้องกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความรับผิดชอบ แต่ที่ผ่านมาทางฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็ได้แสดงท่าทีชัดเจนไว้หลายครั้งว่า จะไม่แสดงความรับผิดชอบแบบนั้น เพราะถือว่าเป็นเจตนาของประชาชน หากไม่ผ่าน ก็ร่างใหม่ไปเรื่อยๆ
แต่ที่ผ่านมาทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ก็เคยพูดว่าหากไม่ผ่านก็จะร่างใหม่ และเคยพูดเป็นนัยว่า อาจจะ"โหด" กว่าเดิม ซึ่งคำว่าโหดนี่น่ามีความหมายว่า โหดกับพวกนักการเมือง โดยเฉพาะเนื้อหาที่ควบคุมการทุจริต และการใช้อำนาจ อีกทั้งยังสอดคล้องกับคำพูดของ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ที่บอกใบ้ว่า อาจจะนำฉบับก่อนๆ เช่น ฉบับปี 40 ปี 50 และร่างฉบับปัจจุบัน โดยรวมเอาข้อดีที่ชาวบ้านชอบนำมารวมกัน แล้วร่างเป็นฉบับใหม่ประกาศใช้ไปเลย
เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่อยากจะพูดเน้นย้ำเรื่องแบบนี้มากนัก เพราะเป้าหมายก็คือ ต้องการให้ร่างฯ ฉบับใหม่ผ่านประชามติเท่านั้น เหมือนกับที่ มีชัย ฤชุพันธุ์ เคยยอมรับว่า ไม่อยากให้เสียสมาธิ
อย่างไรก็ดี เมื่อมีการพูดออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล่าสุดในลักษณะที่ว่า "หากไม่ผ่านก็จะร่างเอง" แม้ว่าจะปฏิเสธว่าไม่ได้มีความหมายตรงๆ แบบนั้น แต่ก็แย้มว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการยกร่างขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจนำเอาข้อดีของแต่ละฉบับ "มายำรวม" เป็นฉบับใหม่แล้วประกาศใช้ ซึ่งก็ความหมายเดียวกันกับคำพูดของ มีชัย และ วิษณุ เครืองาม
อย่างไรก็ดี ระยะหลังเริ่มมีคำพูดใหม่ๆ ออกมาเป็นการส่งสัญญาณที่น่าสนใจก็คือ "หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ก็เพื่อต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ต่อไปนานๆ" ซึ่งล่าสุด พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาพูดแบบนี้ด้วย "ทีเล่นทีจริง" เหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็เริ่มพูดในทำนองรับลูกมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้จะเห็นเสียงสนับสนุนของประชาชนผ่านทางผลสำรวจหลายสำนัก ในเรื่องเสียงสนับสนุนที่มีให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ และต้องการให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตามองกันต่อก็คือฝ่ายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะขยับกันต่ออย่างไร หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ แม้ว่านาทีนี้พิจารณาจากผลสำรวจที่ฟันธงว่า "ผ่านร้อยเปอร์เซ็นต์" ก็ตาม แต่หากไม่ผ่านจริงๆ หรือป่วนจนลงประชามติไม่ได้ ความหมายก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องอยู่ต่อไป เพื่อคุมสถานการณ์ และตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาก่อน ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง และทำให้การเลือกตั้งอาจต้องเลื่อนนานเกินปี 2560 ตามที่เคยประกาศเอาไว้ก็ได้ และยังเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่(ถ้ามี) น่าจะมีบทบัญญัติที่เกี่ยวกับ"นายกฯคนนอก" แน่นอน
** ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณารอบด้านแล้ว นาทีนี้ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านประชามติก็ตาม ยังมั่นใจว่าการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในปี 2560 ค่อนข้างแน่ เพราะถ้าไม่ผ่าน ก็ต้องยกร่างใหม่โดยอาจนำข้อดีของทุกร่างมา"ยำรวม" แล้วประกาศใช้ ส่วนความพยายามที่จะกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความรับผิดชอบหากไม่ผ่านนั้น กระแสแบบนั้นคงปลุกยาก ชาวบ้านไม่มีอารมณ์ร่วม มีแต่อารมณ์เบื่อนักการเมืองเสียมากกว่า !!
การออกมาพูดแบบปฏิเสธดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แม้ว่าเป็นไปด้วยอารมณ์ค่อนข้างฉุนเฉียว แต่ก็สามารถจับอาการบางอย่างปะปนมาด้วย โดยเฉพาะหากร่างรัฐธรรมนูญผ่าน หรือไม่ผ่าน และจะทำอย่างไรต่อไป
แน่นอนว่ามาถึงตอนนี้ทางฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ส่วนใหญ่คงอยากให้ผ่าน เพื่อดำเนินต่อตามโรดแมปที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้ แต่หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ที่ผ่านมาทางฝ่ายการเมืองฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงหากร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ ผ่านประชามติ ซึ่งหลายคนก็รับรู้กันอยู่แล้ว เพราะคนพวกนี้จะอยู่ในข่ายมีคุณสมบัติต้องห้าม ถูกกันออกนอกสนามการเมืองตลอดชีวิต ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำก็คือ ต้องป่วนและหาทางคว่ำให้ได้
**เพราะหากคว่ำได้ สิ่งที่ฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร กำลังต้องการก็คือ ต้องกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความรับผิดชอบ แต่ที่ผ่านมาทางฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็ได้แสดงท่าทีชัดเจนไว้หลายครั้งว่า จะไม่แสดงความรับผิดชอบแบบนั้น เพราะถือว่าเป็นเจตนาของประชาชน หากไม่ผ่าน ก็ร่างใหม่ไปเรื่อยๆ
แต่ที่ผ่านมาทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ก็เคยพูดว่าหากไม่ผ่านก็จะร่างใหม่ และเคยพูดเป็นนัยว่า อาจจะ"โหด" กว่าเดิม ซึ่งคำว่าโหดนี่น่ามีความหมายว่า โหดกับพวกนักการเมือง โดยเฉพาะเนื้อหาที่ควบคุมการทุจริต และการใช้อำนาจ อีกทั้งยังสอดคล้องกับคำพูดของ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ที่บอกใบ้ว่า อาจจะนำฉบับก่อนๆ เช่น ฉบับปี 40 ปี 50 และร่างฉบับปัจจุบัน โดยรวมเอาข้อดีที่ชาวบ้านชอบนำมารวมกัน แล้วร่างเป็นฉบับใหม่ประกาศใช้ไปเลย
เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่อยากจะพูดเน้นย้ำเรื่องแบบนี้มากนัก เพราะเป้าหมายก็คือ ต้องการให้ร่างฯ ฉบับใหม่ผ่านประชามติเท่านั้น เหมือนกับที่ มีชัย ฤชุพันธุ์ เคยยอมรับว่า ไม่อยากให้เสียสมาธิ
อย่างไรก็ดี เมื่อมีการพูดออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล่าสุดในลักษณะที่ว่า "หากไม่ผ่านก็จะร่างเอง" แม้ว่าจะปฏิเสธว่าไม่ได้มีความหมายตรงๆ แบบนั้น แต่ก็แย้มว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการยกร่างขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจนำเอาข้อดีของแต่ละฉบับ "มายำรวม" เป็นฉบับใหม่แล้วประกาศใช้ ซึ่งก็ความหมายเดียวกันกับคำพูดของ มีชัย และ วิษณุ เครืองาม
อย่างไรก็ดี ระยะหลังเริ่มมีคำพูดใหม่ๆ ออกมาเป็นการส่งสัญญาณที่น่าสนใจก็คือ "หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ก็เพื่อต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ต่อไปนานๆ" ซึ่งล่าสุด พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาพูดแบบนี้ด้วย "ทีเล่นทีจริง" เหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ก็เริ่มพูดในทำนองรับลูกมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้จะเห็นเสียงสนับสนุนของประชาชนผ่านทางผลสำรวจหลายสำนัก ในเรื่องเสียงสนับสนุนที่มีให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ และต้องการให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตามองกันต่อก็คือฝ่ายรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะขยับกันต่ออย่างไร หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ แม้ว่านาทีนี้พิจารณาจากผลสำรวจที่ฟันธงว่า "ผ่านร้อยเปอร์เซ็นต์" ก็ตาม แต่หากไม่ผ่านจริงๆ หรือป่วนจนลงประชามติไม่ได้ ความหมายก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องอยู่ต่อไป เพื่อคุมสถานการณ์ และตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาก่อน ซึ่งก็ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง และทำให้การเลือกตั้งอาจต้องเลื่อนนานเกินปี 2560 ตามที่เคยประกาศเอาไว้ก็ได้ และยังเชื่อว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่(ถ้ามี) น่าจะมีบทบัญญัติที่เกี่ยวกับ"นายกฯคนนอก" แน่นอน
** ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณารอบด้านแล้ว นาทีนี้ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่านประชามติก็ตาม ยังมั่นใจว่าการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในปี 2560 ค่อนข้างแน่ เพราะถ้าไม่ผ่าน ก็ต้องยกร่างใหม่โดยอาจนำข้อดีของทุกร่างมา"ยำรวม" แล้วประกาศใช้ ส่วนความพยายามที่จะกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความรับผิดชอบหากไม่ผ่านนั้น กระแสแบบนั้นคงปลุกยาก ชาวบ้านไม่มีอารมณ์ร่วม มีแต่อารมณ์เบื่อนักการเมืองเสียมากกว่า !!
