อดีตรองโฆษก รบ.เพื่อไทย เผยไทยแพ้โหวตเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวร UNSC เหตุปิดกั้นเสรีภาพ รัฐประหารบ่อย ยิ่งนำประวัติละเมิดสิทธิฯ รบ.นี้ประกอบ เสียงยิ่งลด แถมคาซัคฯ คู่แข่งจีน-รัสเซีย หนุน ชี้ชัดยุทธศาสตร์สัมพันธ์ ตปท.บกพร่อง จี้แจงเหตุใดถึงแพ้โหวต และผ่อนคลายให้แสดงความเห็นเพื่อแก้ภาพลักษณ์
วันนี้ (29 มิ.ย.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกรัฐบาล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สอบตกในเรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชนในสายตาประชาคมโลก น่าจะเป็นเพราะมีปัญหาการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนและมีการดำเนินคดีบุคคลที่คิดต่างจำนวนมาก จนอาจส่งผลให้ประเทศไทยแพ้โหวต ทั้งๆ ที่ไทยทุ่มเทหาเสียงมานาน 4 ปี ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แถมไทยเรายังได้เปรียบคู่แข่งคือคาซัคสถาน ตรงที่ประเทศไทยเคยเป็นสมาชิกไม่ถาวรคณะมนตรีความมั่นคงฯ มาก่อน และมีผลงานโดดเด่นในการสนับสนุนภารกิจขององค์การสหประชาชาติมาโดยตลอด ในขณะที่คาซัคสถานเพิ่งลงสมัครเป็นครั้งแรก ทั้งยังเพิ่งเป็นสมาชิกยูเอ็นหลังไทย 50-60 ปี
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์และสื่อมวลชนต่างประเทศระบุว่า สาเหตุที่ไทยแพ้โหวตเป็นเพราะไทยมีการรัฐประหารบ่อยครั้งและมีปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งอาจขัดต่อบทบาทของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ที่ต้องทำหน้าที่สร้างความมั่นคงและส่งเสริมสันติภาพในทวีปยุโรปและเอเชีย ในขณะที่คาซัคสถานมีเสถียรภาพทางการเมืองมากกว่าไทย นอกจากนี้ องค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรต์วอตช์ยังออกมาเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ นำประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มาประกอบการพิจารณาลงคะแนนให้ประเทศไทยในการเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวรคณะมนตรีความมั่นคงฯ ครั้งนี้ด้วย น่าสังเกตว่าคะแนนสนับสนุนของไทยลดลงราว 30 เปอร์เซ็นต์ จากที่ได้รับเสียงสนับสนุน 77 ประเทศในการโหวตรอบแรก เหลือเพียง 55 ประเทศในการโหวตรอบสอง
ที่สำคัญยังมีกระแสข่าวว่าคาซัคสถานได้รับการสนับสนุนจากจีนและรัสเซีย ทั้งๆ ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พยายามเอาอกเอาใจจีนและรัสเซียมาตลอด สะท้อนว่ายุทธศาสตร์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐบาลอาจมีข้อบกพร่อง และไม่ได้ช่วยให้ไทยมีสถานภาพที่ดีขึ้นในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ดังนั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ต้องเตรียมตอบคำถามเหล่านี้ ทั้งต่อคนไทยและสังคมโลกว่าประเมินตัวเองอย่างไร เหตุใดจึงแพ้โหวต นอกจากนี้ รัฐบาลควรมีท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้นในเรื่องการแสดงความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อให้ประเทศไทยดูดีขึ้นในสายตาชาวโลก
ทั้งนี้ การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญของไทยที่กำลังจะมีขึ้นจะเป็นโอกาสสำคัญของรัฐบาลในการแก้ไขภาพลักษณ์ดังกล่าว เพราะประชาคมโลกกำลังจับตามองเราอยู่ ขอให้ดูตัวอย่างการลงประชามติในประเทศอังกฤษ ที่ส่งเสริมให้ประชาชนได้รับข้อมูลสองด้าน เพราะประชาชนควรต้องได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนมากที่สุดก่อนจะตัดสินใจในเรื่องอนาคตของประเทศ ส่วนจะโหวตอย่างไรก็ปล่อยให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีของอังกฤษก็ไม่ยึดติดกับอำนาจ ยอมลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง ทำให้ผู้นำของเขามีความสง่างามทางการเมืองและได้รับการชื่นชมจากผู้คนทั่วโลกที่ไม่ยึดติดเก้าอี้