โฆษกรัฐบาลเผยไทยร่วมยินดีคาซัคสถาน แนะกลุ่มการเมืองศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนวิจารณ์ พร้อมเปิดใจกว้าง ลดอคติ คำนึงถึงประโยชน์ชาติ ชี้แม้ไม่ได้รับเลือกตั้งแต่ยังมุ่งมั่นผลักดันประเด็นระหว่างประเทศต่อไป
พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มการเมืองออกมาแสดงความเห็นว่า ประเทศไทยไม่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกไม่ถาวรคณะมนตรีความมั่นคง เพราะประเทศมีการรัฐประหารและปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ว่า
ไทยยินดีกับคาซัคสถาน และขอบคุณมิตรประเทศที่ออกเสียงสนับสนุนให้แก่ไทย ผลการเลือกตั้งที่ต้องลงคะแนนเสียงกันสองรอบ แสดงให้เห็นว่าทั้งไทยและคาซัคสถานต่างมีคุณสมบัติที่ได้รับการยอมรับ และที่ผ่านมาทั้งสองประเทศได้แข่งขันกันอย่างฉันมิตรมาโดยตลอด
“การวิพากษ์วิจารณ์บนพื้นฐานของความไม่รู้อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดีทั้งต่อตัวผู้พูดเอง รวมถึงประเทศชาติโดยรวม เพราะการลงคะแนนเสียงของประเทศสมาชิกเป็นไปโดยอิสระและเสมอภาค ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การแลกเสียงการสมัครในองค์กรระหว่างประเทศกับประเทศต่างๆ และหลายประเทศให้โอกาสแก่คาซัคสถานเนื่องจากยังไม่เคยปฏิบัติหน้าที่ในคณะมนตรีความมั่นคงฯ มาก่อน”
อีกทั้งการไปเยือนต่างประเทศของท่านนายกรัฐมนตรี และคณะ ไม่ว่าไปประเทศใดก็ไปเพื่อการเจรจาการค้า และแสวงหาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ไปเพื่อรณรงค์ขอเสียงสนับสนุน เพราะเป็นมารยาททางการทูตที่ไม่พึงกระทำ
“ไทยได้ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้มาตั้งแต่ปี 2550 ไม่ใช่ 4 ปี ตามที่มีการกล่าวอ้าง โดยในช่วงเวลาดังกล่าวบ้านเมืองขาดเสถียรภาพ เกิดปัญหาความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะนี้ประเทศไทยมีเสถียรภาพ และความมั่นคงมากที่สุดช่วงหนึ่ง สังคมสงบสุข ไม่มีการเผชิญหน้า หรือทำร้ายกันระหว่างประชาชน ดังนั้น หากประชาคมโลกจะกังวลต่อไทย น่าจะกังวลต่อสถานการณ์ก่อนหน้ารัฐบาลนี้มากกว่า”
พลตรี สรรเสริญกล่าวต่อว่า ไม่แปลกใจที่กลุ่มการเมืองบางกลุ่มจะใช้สถานการณ์นี้ออกมากล่าวเชิงลบต่อรัฐบาล และประเทศไทยอีกครั้ง โดยขอยืนยันว่า แม้ไทยจะไม่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้ แต่ก็ไม่ได้ปิดโอกาสที่เราจะปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันในฐานะสมาชิกของ UN รัฐบาลจะยังมุ่งมั่นผลักดันประเด็นระหว่างประเทศต่างๆ ทั้งในด้านความมั่นคง สันติภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำหน้าที่ประธานกลุ่ม 77
การรณรงค์หาเสียงที่ผ่านมาของไทยไม่ได้มุ่งประโยชน์เพียงเพื่อให้ชนะการเลือกตั้งแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นโอกาสที่เราได้สร้างมิตรและสานต่อความร่วมมือระยะยาวกับหลายประเทศ เช่น การแบ่งปันประสบการณ์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านโครงการฝึกอบรม ดูงาน และให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ ซึ่งแม้ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งไทยก็ปฏิบัติเช่นนี้มาอย่างต่อเนื่อง และเรายังคงภูมิใจที่เคยได้รับการเลือกตั้งมาครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ระหว่างปี 2528-2529
“การที่กลุ่มการเมืองออกมาตั้งคำถามรัฐบาล เชื่อว่าคงไม่ได้อยากได้คำตอบจริง เป็นเพียงการอาศัยสถานการณ์ออกมาสร้างพื้นที่ข่าวให้กับตนเอง จึงอยากเรียกร้องให้เปิดใจกว้าง ลดอคติ และคำนึงถึงประโยชน์จากสิ่งที่วิจารณ์ที่มีต่อประเทศชาติให้มากขึ้น”