นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เผยส่งตัวแทนไปแจงสหประชาชาติแล้ว ถ้ามีข้อสงสัยก็พร้อมตอบ รับ “บัน คีมูน” ส่งรองเลขาฯ คุยแทน แนะรอลุ้นไทยได้โควตาสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือไม่ บอกบางชาติอยากสนับสนุนแต่ติดปัญหารับปากชาติอื่นไว้แล้ว ชูถ้าได้ก็เป็นประโยชน์ต่อชาติ และกลุ่มจี 77
วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะติดต่อขอพูดคุยกับนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อชี้แจงถึงข้อเท็จจริงทางการเมืองของไทยว่า ได้ส่งตัวแทนไปพูดคุยแล้ว ทั้งในส่วนของ คสช. กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่ดูแลกฎหมายโดย ได้ชี้แจงด้วยเหตุผลและหลักการ รวมทั้งหลักฐานที่รัฐบาลมีอยู่ ทั้งนี้ได้นำข้อกฎหมายการกระทำความผิดต่างๆ ชี้แจงต่อยูเอ็น แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับยูเอ็นจะว่าอย่างไร ตนไม่สามารถพูดเรื่องที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงไม่ได้ เมื่อยูเอ็นมีข้อสงสัยก็ถามกลับมา โดยเราพร้อมตอบทุกข้อสงสัย
เมื่อถามว่า มีกำหนดพบนายบัน คีมูน เมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมคุยกับท่านแล้ว ช่วงนี้ท่านติดงานในต่างประเทศ ท่านได้เตรียมคณะทางโน้นไว้รอพบอยู่แล้ว โดยมีรองเลขายูเอ็นฯ และหากมีอะไรที่ต้องติดต่อสื่อสารกันก็สามารถพูดคุยกันได้ทันที”
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสมัชชาสหประชาชาติ เตรียมโหวตเลือกสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ในโควตาของกลุ่มประเทศเอเชีย ซึ่งมีผู้สมัครเพียง 2 ประเทศ ได้แก่ ไทย และคาซัคสถาน ว่าคงต้องรอฟังผล ที่ผ่านมาได้มีการสนับสนุนซึ่งกันและกัน หลายเรื่องได้มีการทำไว้นานแล้ว และบางประเทศก็อยากสนับสนุนไทย แต่อาจจะติดตรงที่ได้รับปากกับประเทศอื่นไว้ แต่ไม่ถือว่าเป็นปัญหา ทั้งนี้ หากไทยได้รับโหวตก็จะมีโอกาสเข้าไปแสดงความคิดเห็น สามารถนำเรื่องต่างๆ ในประเทศสมาชิกกลุ่มจี 77 เข้าไปในวาระการประชุมของสหประชาชาติได้มากยิ่งขึ้นซึ่งจะเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือสมาชิก
เมื่อถามถึงแนวโน้มระหว่างไทยกับคาซัคสถานเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีความใกล้เคียงกัน ขึ้นอยู่กับวาระที่ 1-2 เพราะแต่ละประเทศมีการพิจารณา 2 ครั้ง และเมื่อไทยได้รับการโหวตก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ได้รับความเชื่อมั่นว่าไทยมีน้ำหนักในเวทีโลก แต่ไม่ใช่เป็นเพราะตนเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ได้เป็น เพราะเป็นเรื่องของการทำงานช่วงที่ผ่านมาและความไว้วางใจระหว่างกัน