รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นนิวยอร์ก หรือ 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย สมาชิกสมัชชาสหประชาชาติ เตรียมโหวตเลือกสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ในโควตาของกลุ่มประเทศเอเชีย ซึ่งมีผู้สมัครเพียง 2 ประเทศ ได้แก่ไทยและคาซัคสถาน
ทั้งนี้หากไทยได้รับเลือก จะต้องได้คะแนโหวต 2 ใน 3 จากสมาชิกทั้งหมด เพื่อจะได้ดำรงตำแหน่งวาระปี 2017-2018 ซึ่งถือเป็นความพยายามในการยกระดับบทบาทไทยในเวทีโลกครั้งสำคัญ หลังจากที่ผ่านมา ไทยเคยเป็นสมาชิกไม่ถาวร UNSC มา 1 สมัย คือวาระปี ค.ศ. 1985-1986
ที่ผ่านมาไทยยื่นสมัครเป็นสมาชิก UNSC ตั้งแต่ปี 2550 และมีการผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยได้เริ่มกระบวนการเจรจาอย่างจริงจัง จนผู้สมัครเหลือเพียง 2 ประเทศ คือไทยและคาซักสถาน ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าไทยมีโอกาสมากกว่าคาซักสถาน เนื่องจากคาซักสถานเป็นประเทศพันธมิตรสำคัญ ใกล้ชิดสนิทสนมกับรัสเซีย ทำให้ไทยมีภาพลักษณ์เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่มหาอำนาจมากกว่า
นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ยืนยันว่าไทยมีโอกาสได้รับเลือก และระบอบการเมืองการปกครองของไทยที่เป็นเผด็จการก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการจะเข้าเป็นสมาชิก UNSC ตราบใดที่ไทยยังรับมือสถานการณ์ในประเทศได้ ไม่กลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว แต่หากไม่ได้รับเลือก ไทยก็พร้อมจะดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในเวทีโลกต่อไป
สำหรับภารกิจแรกที่ไทยคิดจะทำหากได้รับเลือกเป็นสมาชิก UNSC ก็คือการส่งเสริมผู้หญิงให้เข้าไปมีบทบาทในกระบวนการสร้างสันติภาพของประเทศต่างๆในโลกมากขึ้น และส่งเสริมการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับกลุ่มหัวรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงในภูมิภาค
ทั้งนี้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC เป็นองค์กรสูงสุดของ UN มีอำนาจในการออกมติและมาตรการคว่ำบาตร รวมถึงการประณามการกระทำของชาติสมาชิก โดยประกอบด้วยสมาชิกถาวร 5 ประเทศ ได้แก่สหรัฐฯ รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รวมถึงสมาชิกไม่ถาวรอีก 10 ประเทศ ผลัดเปลี่ยนกันดำรงตำแหน่งตามวาระ 2 ปี และไม่สามารถดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง 2 สมัยได้
ทั้งนี้หากไทยได้รับเลือก จะต้องได้คะแนโหวต 2 ใน 3 จากสมาชิกทั้งหมด เพื่อจะได้ดำรงตำแหน่งวาระปี 2017-2018 ซึ่งถือเป็นความพยายามในการยกระดับบทบาทไทยในเวทีโลกครั้งสำคัญ หลังจากที่ผ่านมา ไทยเคยเป็นสมาชิกไม่ถาวร UNSC มา 1 สมัย คือวาระปี ค.ศ. 1985-1986
ที่ผ่านมาไทยยื่นสมัครเป็นสมาชิก UNSC ตั้งแต่ปี 2550 และมีการผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยได้เริ่มกระบวนการเจรจาอย่างจริงจัง จนผู้สมัครเหลือเพียง 2 ประเทศ คือไทยและคาซักสถาน ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าไทยมีโอกาสมากกว่าคาซักสถาน เนื่องจากคาซักสถานเป็นประเทศพันธมิตรสำคัญ ใกล้ชิดสนิทสนมกับรัสเซีย ทำให้ไทยมีภาพลักษณ์เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่มหาอำนาจมากกว่า
นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ยืนยันว่าไทยมีโอกาสได้รับเลือก และระบอบการเมืองการปกครองของไทยที่เป็นเผด็จการก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการจะเข้าเป็นสมาชิก UNSC ตราบใดที่ไทยยังรับมือสถานการณ์ในประเทศได้ ไม่กลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว แต่หากไม่ได้รับเลือก ไทยก็พร้อมจะดำเนินบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในเวทีโลกต่อไป
สำหรับภารกิจแรกที่ไทยคิดจะทำหากได้รับเลือกเป็นสมาชิก UNSC ก็คือการส่งเสริมผู้หญิงให้เข้าไปมีบทบาทในกระบวนการสร้างสันติภาพของประเทศต่างๆในโลกมากขึ้น และส่งเสริมการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการทำความเข้าใจกับกลุ่มหัวรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงในภูมิภาค
ทั้งนี้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC เป็นองค์กรสูงสุดของ UN มีอำนาจในการออกมติและมาตรการคว่ำบาตร รวมถึงการประณามการกระทำของชาติสมาชิก โดยประกอบด้วยสมาชิกถาวร 5 ประเทศ ได้แก่สหรัฐฯ รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รวมถึงสมาชิกไม่ถาวรอีก 10 ประเทศ ผลัดเปลี่ยนกันดำรงตำแหน่งตามวาระ 2 ปี และไม่สามารถดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง 2 สมัยได้
