นายกรัฐมนตรีถามกลับ แกนนำ นปช.มีสิทธิ์อะไรมาเร่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากฎหมายประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง ตีรวนล้มประชามติ ดีแต่เคลื่อนไปมาแล้วขยายความเรื่อยๆ ย้อนกลับอนุมัติงบประมาณแค่ 3 พันล้าน ไม่ใช่อยู่ดีๆ ใช้งบส่งเดชหมื่นล้าน ใครจะทำ ท้าเอาหลักฐานมา เมินตั้งศูนย์ปราบโกง อยากตั้งก็ตั้งไป มองแค่อากาศธาตุ
วันนี้ (7 มิ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความมาตรา 61 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ออกเสียงประชามติ ขัดรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 หรือไม่ ว่า เรื่องไม่มีคำถามว่าถ้าอย่างนั้นอย่างนี้ล่วงหน้า ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง โดยศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้พิจารณา จะผิดหรือถูกหรือจะผิดเฉพาะมาตรานี้ ไม่ใช่ว่าผิดทั้งหมด ฉะนั้นอย่าไปตีรวนว่าผิดตรงนี้แล้วต้องผิดทั้งฉบับ มันก็ถึงล้มไง แล้วมาบอกว่าตนจะล้ม หรือตนแกล้งเขียนให้มันผิด คิดแบบนี้ประเทศก็ไปไม่ได้
เมื่อถามว่ามองเจตนาของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ออกมาทั้งเบรกกิจกรรมการทำประชามติและเร่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยเร็ว นายกฯ กล่าวว่า จะเจตนาอย่างไรก็เรื่องของเขา ตนไม่สนใจ การพิจารณาของศาลเร่งได้หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเร่งคดีสิมีอยู่ ตนยังไม่เร่งเลย นายจตุพรมีสิทธิ์อะไรมาเร่ง อยู่ในกลไกอะไรตรงไหน มันก็ดีแต่เคลื่อนไปมา แล้วคุณก็ไปขยายความให้เขาไปเรื่อยๆ ก็เอาสิ
เมื่อถามว่านายจตุพรออกมาพูดว่าการทำประชามติครั้งนี้ต้องใช้งบประมาณถึง 1 หมื่นล้านบาท พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะเท่าไหร่ก็เท่านั้น นายจตุพรจะพูดอะไรตนไม่ฟัง ขี้เกียจฟัง รัฐบาลเพียงอนุมัติหลักการงบประมาณไป 3 พันล้านบาท ก็แค่นั้น จะเพิ่มเติมตรงไหนต้องทำเรื่องมา แต่ตนยังไม่ได้อนุมัติอะไรเพิ่มเติมไป สิ่งที่เขาพูดว่าเกรงจะเกิดความเสียหายนั้นเป็นการพูดไปเรื่อย สื่อก็ไปขยายให้อยู่นั่น ไม่ใช่อยู่ดีๆ ใช้งบส่งเดชหมื่นล้าน ใครจะทำ และประชามติไม่ทำได้หรือไม่ สรุปทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ดักหน้าดักหลังรัฐบาล สิ่งที่ตนตอบในวันนี้สื่อจะไปสร้างการรับรู้ให้ประชาชนอย่างไร บอกว่าอนุมัติไป 3 พันล้านบาท และยังไม่มีอนุมัติอย่างอื่นเพิ่มเติม สื่อจะช่วยเถียงแทนตนหรือไม่ ถ้าเขาบอกว่าหมื่นล้านก็ให้เอาหลักฐานมา ต้องมีเหตุมีผลกันบ้าง
เมื่อถามว่ามองดูสถานการณ์แล้วคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะสามารถทำประชามติได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าหากเกิดเหตุตีกันก็เป็นเรื่องของประชาชนตีกัน ฝ่ายความมั่นคงก็ดูแล จบแค่นั้น เมื่อถามย้ำว่าถ้าเกิดการตีกันวุ่นวายต้องหมายความว่าการทำประชามติต้องยุติลงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าตีกันจนทำไม่ได้ ก็คือทำไม่ได้ แต่ถ้าตีกันแล้วทำประชามติต่อได้ก็คือทำได้ แต่ถึงขั้นเอาระเบิดเอาปืนมายิงกัน ก็ทำประชามติไม่ได้ เหมือนที่ผ่านมาจะให้ตนไปหยุด ทุกคนที่ตีกันทั้งหมดก็ไม่ใช่ ในเมื่ออยากตีกันเอง อย่างไรก็ตามตนต้องหยุดให้ได้ อย่าใช้อาวุธสงครามมายิงใส่กัน ตนไม่รับ
เมื่อถามถึงการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่ม นปช. นายกฯ กล่าวว่า ตั้งไปสิ ตนได้พูดไปแล้ว ส่วนกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไม่เห็นด้วยกับการตั้งศูนย์ดังกล่าวนั้นก็คือไม่เห็นด้วย แต่บอกไม่เห็นด้วยแล้วตั้งไหม ในเมื่ออยากตั้งก็ตั้งไป ซึ่งตนก็ไม่เห็นด้วย และตอนนี้ยังไม่มีมาตรการใดเพราะตนไม่รับ และมองว่าเป็นอากาศธาตุ ไม่สนใจ อย่าให้ความสนใจมากมายนัก