ผู้จัดการรายวัน360 - "วิษณุ"ยัน คสช.มีอำนาจปรามศูนย์ปราบโกงประชามติ ขออย่าตื่นเต้นปมผู้ตรวจฯยื่นศาลรธน. 7 ส.ค.มีเหมือนเดิม "บิ๊กป๊อก" ลั่น "ศูนย์ปราบโกง" ของนปช. ทำไม่ได้ เหตุไม่แฟร์ เอนเอียง มีส่วนได้เสีย ทั้งประกาศชัดไม่รับ ร่างรธน. โยนคสช.สั่งยุบหรือไม่ "บิ๊กป้อม" บอกพวกวิจารณ์เลื่อนกาบัตร พูดอะไรก็ได้ ชี้ คสช.เดินตามโรดแมป ด้าน“บิ๊กตู่” ซัด “จตุพร” ถือสิทธิไหน เบรกประชามติ -เร่งศาลรธน. ลั่น ไม่ปล่อยให้เกิดเหตุป่วนจนถึงขั้นประชามติล่ม หยันศูนย์ปราบโกง แค่อากาศธาตุ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ว่า ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำประชามติร่างรธน. ไม่ได้ห้าม และไม่ได้บอกให้ตั้ง แต่การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นเรื่องของคสช. เขามีกฎหมาย และคำสั่งอื่นอยู่ เขาอาจรู้เจตนา พฤติกรรม หรืออะไรมา เขาจะปรามอะไรก็มีอำนาจในส่วนนั้น ดังนั้นการตั้งศูนย์ดังกล่าว จึงไม่เป็นความผิดตามกฎหมายประชามติ เว้นแต่ไปกระทำอะไรที่ขัดกับข้อห้ามในกฎหมายประชามติ
ส่วนที่ฝ่ายการเมืองโจมตีว่า รัฐบาลต้องการยื้อเวลาทำประชามติ หลังผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรธน. ตีความ มาตรา 61 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรธน. ขัดรธน.ชั่วคราวหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่าไม่ว่ารัฐบาลจะทำอะไรก็ถูกจับผิดไปเสียหมด เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลย เขายื่นกันมา ต้องไปถามคนยื่นว่า เขารู้กับรัฐบาลหรือไม่ สิ่งที่สงสัยกันคนอื่นทำทั้งนั้น ช่วยไปสงสัยคนอื่น รัฐบาลเป็นส่วนปลายทาง ยืนยันไม่ว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร ก็ไม่กระทบกับวันออกเสียงประชามติ 7 ส.ค. เพราะกฎหมายประชามติมีหลายหมวด ทั้งหมดยังอยู่ หมวดที่พูดถึงความผิดก็มีหลายมาตรา มาตราใหญ่ คือ 61 ซึ่งก็มีหลายวรรค
"วรรคหนึ่งห้ามกระทำอะไรที่ขัดความสงบเรียบร้อย และ วรรคสอง เป็นการขยายความ ถ้าเอาวรรคสองออก วรรคหนึ่งยังคงมีอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อไปวรรคหนึ่งจะแปลได้เยอะ เพราะขณะนี้ถูกจำกัดให้แปลตามวรรคสอง อย่าไปตื่นเต้นปล่อยไป รัฐบาลไม่ตื่นเต้นเรื่องนี้ เพราะไม่กระทบอะไรกับการลงประชามติ และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปแก้ไข หรือเลิกอะไร หากศาลว่าผิดก็ไม่มีตรงนั้น ไม่ต้องใช้ตรงนั้น" นายวิษณุ กล่าว
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนปช. ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ว่า "ในความคิดผม ไม่น่าจะทำได้ เอาเป็นว่า ยังไม่ต้องพูดตามกฎหมาย ทาง คสช.เขาดำเนินการอยู่ และทางกลุ่มนปช. เขาได้ประกาศแน่ชัดว่าจะไม่รับร่างรธน. คุณก็เห็นแล้วว่า ความเอนเอียงเขามีอยู่แล้ว การจะไปทำอะไร มันจะต้องเป็นกลาง ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย การมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างโจ่งแจ้ง และประกาศอย่างแน่ชัด ก็ไม่ควรที่จะต้องทำ ถ้าไม่คิดถึงกฎหมายนะ มันไม่มีทางที่จะยุติธรรมได้เลย เพราะฉะนั้นผมไม่เห็นด้วย" รมว.มหาดไทย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางคสช. ต้องไปห้าม หรือสั่งยุบศูนย์ดังกล่าวหรือไม่ในเมื่อบอกว่าทำไม่ได้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องถาม คสช.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีฝ่ายการเมืองแสดงความกังวลว่า จะไม่มีการลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค. ว่า ยืนยัน คสช. เดินตามโรดแมป ไม่เคยประกาศว่าจะไม่มีการลงประชามติ เมื่อถามว่าจะมีปัจจัยอะไรทำให้ต้องเลื่อนประชามติหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้สถานการณ์ข้างหน้า อะไรจะเกิดขึ้น แต่ถ้ายังเป็นไปด้วยความสงบเช่นนี้ ประชามติก็เกิด
ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการฯ ยื่นเรื่องให้ศาลรธน.ตีความนั้น ศาลฯ วินิจฉัยอย่างไรก็ว่าตามนั้น ไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า ให้เป็นการพิจารณาของศาลฯ ฝ่ายบริหาร หรือ คสช. ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่าย
เมื่อถามถึงกรณีนายกฯ พูดในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า หากประชาชนรู้ข้อมูลการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างแล้วจะหนาว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แน่นอน เพราะตอนนี้ยังไม่จบ สถานการณ์ต่อไปจะแรงหรือไม่แรง ตนไม่สามารถตอบได้ ไม่มีใครรู้อนาคต แต่ถ้าเกิดความปรองดอง เหมือนที่ฝ่ายการเมืองร่วมปลูกต้นไม้กันก่อนหน้านี้ ตนก็ดีใจ อยากให้ไปร่วมมือกันเช่นนั้นเมื่อมีการเลือกตั้ง หาคนดีมาบริหารประเทศต่อไป นายกฯวางพื้นฐานการบริหารประเทศไว้แล้ว ท่านไม่ใช่ผู้วิเศษแต่มีความตั้งใจ ที่จะทำให้คนไทยและประเทศไทย
***“บิ๊กตู่” ซัด “จตุพร” ถือสิทธิไหน เบรกประชามติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความมาตรา 61 วรรค2 พ.ร.บ.ประชามติ ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง โดยศาลรัฐธรรมจะเป็นผู้พิจารณา จะผิดหรือถูกหรือจะผิดเฉพาะมาตรานี้ ไม่ใช่ว่าผิดทั้งหมด ฉะนั้นอย่าไปตีรวนว่าผิดตรงนี้แล้วต้องผิดทั้งฉบับ
เมื่อถามว่ามองเจตนาของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ที่ออกมาทั้งเบรกกิจกรรมการทำประชามติและเร่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยเร็ว นายกฯ กล่าวว่า การพิจารณาของศาลเร่งได้หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเร่งคดีสิมีอยู่ นายจตุพร มีสิทธิ์อะไรมาเร่ง อยู่ในกลไกอะไรตรงไหน มันก็ดีแต่เคลื่อนไปมา
เมื่อถามว่านายจตุพร ออกมาพูดว่าการทำประชามติครั้งนี้ต้องใช้งบประมาณถึงหนึ่งหมื่นล้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลเพียงอนุมัติหลักการงบประมาณไปสามพันล้าน ก็แค่นั้นจะเพิ่มเติมตรงไหนต้องทำเรื่องมา ไม่ใช่อยู่ดีๆใช้งบส่งเดชหมื่นล้าน ใครจะทำ และประชามติไม่ทำได้หรือไม่ สรุปทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ดักหน้าดักหลังรัฐบาล
เมื่อถามว่ามองดูสถานการณ์แล้วคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะสามารถทำประชามติได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าหากเกิดเหตุตีกัน ก็เป็นเรื่องของประชาชนตีกัน ฝ่ายความมั่นคงก็ดูแล จบแค่นั้น เมื่อถามย้ำว่าถ้าเกิดการตีกันวุ่นวายต้องหมายความว่าการทำประชามติต้องยุติลงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าตีกันจนทำไม่ได้ ก็คือทำไม่ได้ แต่ถ้าตีกันแล้วทำประชามติต่อได้ก็คือทำได้ แต่ถึงขั้นเอาระเบิดเอาปืนมายิงกัน ก็ทำประชามติไม่ได้ เหมือนที่ผ่านมาจะให้ตนไปหยุด ทุกคนที่ตีกันทั้งหมดก็ไม่ใช่ ในเมื่ออยากตีกันเอง อย่างไรก็ตามตนต้องหยุดให้ได้ อย่าใช้อาวุธสงครามมายิงใส่กัน ตนไม่รับ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ว่า ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำประชามติร่างรธน. ไม่ได้ห้าม และไม่ได้บอกให้ตั้ง แต่การดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นเรื่องของคสช. เขามีกฎหมาย และคำสั่งอื่นอยู่ เขาอาจรู้เจตนา พฤติกรรม หรืออะไรมา เขาจะปรามอะไรก็มีอำนาจในส่วนนั้น ดังนั้นการตั้งศูนย์ดังกล่าว จึงไม่เป็นความผิดตามกฎหมายประชามติ เว้นแต่ไปกระทำอะไรที่ขัดกับข้อห้ามในกฎหมายประชามติ
ส่วนที่ฝ่ายการเมืองโจมตีว่า รัฐบาลต้องการยื้อเวลาทำประชามติ หลังผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรธน. ตีความ มาตรา 61 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรธน. ขัดรธน.ชั่วคราวหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่าไม่ว่ารัฐบาลจะทำอะไรก็ถูกจับผิดไปเสียหมด เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลย เขายื่นกันมา ต้องไปถามคนยื่นว่า เขารู้กับรัฐบาลหรือไม่ สิ่งที่สงสัยกันคนอื่นทำทั้งนั้น ช่วยไปสงสัยคนอื่น รัฐบาลเป็นส่วนปลายทาง ยืนยันไม่ว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไร ก็ไม่กระทบกับวันออกเสียงประชามติ 7 ส.ค. เพราะกฎหมายประชามติมีหลายหมวด ทั้งหมดยังอยู่ หมวดที่พูดถึงความผิดก็มีหลายมาตรา มาตราใหญ่ คือ 61 ซึ่งก็มีหลายวรรค
"วรรคหนึ่งห้ามกระทำอะไรที่ขัดความสงบเรียบร้อย และ วรรคสอง เป็นการขยายความ ถ้าเอาวรรคสองออก วรรคหนึ่งยังคงมีอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อไปวรรคหนึ่งจะแปลได้เยอะ เพราะขณะนี้ถูกจำกัดให้แปลตามวรรคสอง อย่าไปตื่นเต้นปล่อยไป รัฐบาลไม่ตื่นเต้นเรื่องนี้ เพราะไม่กระทบอะไรกับการลงประชามติ และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปแก้ไข หรือเลิกอะไร หากศาลว่าผิดก็ไม่มีตรงนั้น ไม่ต้องใช้ตรงนั้น" นายวิษณุ กล่าว
ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนปช. ตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ว่า "ในความคิดผม ไม่น่าจะทำได้ เอาเป็นว่า ยังไม่ต้องพูดตามกฎหมาย ทาง คสช.เขาดำเนินการอยู่ และทางกลุ่มนปช. เขาได้ประกาศแน่ชัดว่าจะไม่รับร่างรธน. คุณก็เห็นแล้วว่า ความเอนเอียงเขามีอยู่แล้ว การจะไปทำอะไร มันจะต้องเป็นกลาง ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย การมีส่วนได้ส่วนเสียอย่างโจ่งแจ้ง และประกาศอย่างแน่ชัด ก็ไม่ควรที่จะต้องทำ ถ้าไม่คิดถึงกฎหมายนะ มันไม่มีทางที่จะยุติธรรมได้เลย เพราะฉะนั้นผมไม่เห็นด้วย" รมว.มหาดไทย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางคสช. ต้องไปห้าม หรือสั่งยุบศูนย์ดังกล่าวหรือไม่ในเมื่อบอกว่าทำไม่ได้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องถาม คสช.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีฝ่ายการเมืองแสดงความกังวลว่า จะไม่มีการลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค. ว่า ยืนยัน คสช. เดินตามโรดแมป ไม่เคยประกาศว่าจะไม่มีการลงประชามติ เมื่อถามว่าจะมีปัจจัยอะไรทำให้ต้องเลื่อนประชามติหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้สถานการณ์ข้างหน้า อะไรจะเกิดขึ้น แต่ถ้ายังเป็นไปด้วยความสงบเช่นนี้ ประชามติก็เกิด
ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการฯ ยื่นเรื่องให้ศาลรธน.ตีความนั้น ศาลฯ วินิจฉัยอย่างไรก็ว่าตามนั้น ไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า ให้เป็นการพิจารณาของศาลฯ ฝ่ายบริหาร หรือ คสช. ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่าย
เมื่อถามถึงกรณีนายกฯ พูดในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า หากประชาชนรู้ข้อมูลการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างแล้วจะหนาว พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แน่นอน เพราะตอนนี้ยังไม่จบ สถานการณ์ต่อไปจะแรงหรือไม่แรง ตนไม่สามารถตอบได้ ไม่มีใครรู้อนาคต แต่ถ้าเกิดความปรองดอง เหมือนที่ฝ่ายการเมืองร่วมปลูกต้นไม้กันก่อนหน้านี้ ตนก็ดีใจ อยากให้ไปร่วมมือกันเช่นนั้นเมื่อมีการเลือกตั้ง หาคนดีมาบริหารประเทศต่อไป นายกฯวางพื้นฐานการบริหารประเทศไว้แล้ว ท่านไม่ใช่ผู้วิเศษแต่มีความตั้งใจ ที่จะทำให้คนไทยและประเทศไทย
***“บิ๊กตู่” ซัด “จตุพร” ถือสิทธิไหน เบรกประชามติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความมาตรา 61 วรรค2 พ.ร.บ.ประชามติ ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอย่างเดียว เพราะเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง โดยศาลรัฐธรรมจะเป็นผู้พิจารณา จะผิดหรือถูกหรือจะผิดเฉพาะมาตรานี้ ไม่ใช่ว่าผิดทั้งหมด ฉะนั้นอย่าไปตีรวนว่าผิดตรงนี้แล้วต้องผิดทั้งฉบับ
เมื่อถามว่ามองเจตนาของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ที่ออกมาทั้งเบรกกิจกรรมการทำประชามติและเร่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยเร็ว นายกฯ กล่าวว่า การพิจารณาของศาลเร่งได้หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเร่งคดีสิมีอยู่ นายจตุพร มีสิทธิ์อะไรมาเร่ง อยู่ในกลไกอะไรตรงไหน มันก็ดีแต่เคลื่อนไปมา
เมื่อถามว่านายจตุพร ออกมาพูดว่าการทำประชามติครั้งนี้ต้องใช้งบประมาณถึงหนึ่งหมื่นล้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลเพียงอนุมัติหลักการงบประมาณไปสามพันล้าน ก็แค่นั้นจะเพิ่มเติมตรงไหนต้องทำเรื่องมา ไม่ใช่อยู่ดีๆใช้งบส่งเดชหมื่นล้าน ใครจะทำ และประชามติไม่ทำได้หรือไม่ สรุปทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ดักหน้าดักหลังรัฐบาล
เมื่อถามว่ามองดูสถานการณ์แล้วคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะสามารถทำประชามติได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าหากเกิดเหตุตีกัน ก็เป็นเรื่องของประชาชนตีกัน ฝ่ายความมั่นคงก็ดูแล จบแค่นั้น เมื่อถามย้ำว่าถ้าเกิดการตีกันวุ่นวายต้องหมายความว่าการทำประชามติต้องยุติลงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าตีกันจนทำไม่ได้ ก็คือทำไม่ได้ แต่ถ้าตีกันแล้วทำประชามติต่อได้ก็คือทำได้ แต่ถึงขั้นเอาระเบิดเอาปืนมายิงกัน ก็ทำประชามติไม่ได้ เหมือนที่ผ่านมาจะให้ตนไปหยุด ทุกคนที่ตีกันทั้งหมดก็ไม่ใช่ ในเมื่ออยากตีกันเอง อย่างไรก็ตามตนต้องหยุดให้ได้ อย่าใช้อาวุธสงครามมายิงใส่กัน ตนไม่รับ
