“นายกรัฐมนตรี” มอบโล่รางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ปี 59 บอกมีความสุขได้เห็นรอยยิ้มเกษตรกร ยืนยันดูแลชาวนาจริงจัง แก้ปัญหาให้ได้มากสุด ชี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาติ เผยสวดมนต์ให้ฝนตก แนะผลิตข้าวให้ตรงความต้องการของตลาด ขออย่าให้ใครมาหลอก รองรับความเสี่ยงได้ บอกที่ทำอยู่วันหน้าจะได้ไม่มาเสียน้ำตากันอีก หนุนรวมเป็นองค์กรเดียว ขอเชื่อแผนกระทรวงเกษตรฯ อย่าให้รัฐซื้อมาเก็บแบบเดิม ลั่นหนี้แสนล้านต้องมีผู้รับผิดชอบ แนะพวกปลูกป่าใช้กล้าสูง 2 เมตรและปลูกหน้าฝนจึงจะรอด
วันนี้ (2 มิ.ย.) ตึกสันติไมตรี หลังนอก ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบโล่รางวัลเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2559 เนื่องในวันข้าว และชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2559 พร้อมมอบโอวาทตอนหนึ่งว่า วันนี้ดีใจและมีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มเกษตรกร เพราะทุกวันนี้เจอปัญหาจำนวนมากภายในประเทศของเรา รัฐบาลชุดนี้ยืนยันว่าจะให้การดูแลเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาอย่างจริงจัง และแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุดเพื่อแก้ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในส่วนของชาวนานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยชาวนาอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำ ภัยแล้งต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา และทรงรับสั่งให้รัฐบาลได้ดูแลดีเป็นพิเศษ พวกเราทุกคนก็น้อมรับในพระราชกระแสรับสั่ง และพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว โดยทุกพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน และขอให้ชาวนาทุกคนตระหนักว่าเราเป็นกระดูกสันหลังของชาติ แม้ที่ผ่านมาจะงุ้มๆ งอๆ บ้างทั้งๆ ที่ฝนและน้ำก็ดี พอมาวันนี้ยิ่งฝนไม่มีก็งอหนักกว่าเดิม แต่เมื่อวันนี้ทุกคนยังมีรอยยิ้มก็ถือว่าเป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกัน ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวนา จากที่ได้กำหนดให้วันที่ 5 มิ.ย.ของทุกปีเป็นวันข้าว และวันชาวนาแห่งชาติ แสดงให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญกับข้าวที่เลี้ยงดูคนไทย และประเทศมาเป็นเวลายาวนาน ชาวนาถือเป็นกลุ่มประชาชนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลทำทุกอย่างทั้งฝนเทียม สวดมนต์ ทุกวันนี้ก็สวดมนต์ให้ฝนตก ถึงแม้จะขัดแย้งกับคนกรุงเทพฯ บ้างก็ตาม เพราะเมื่อฝนตกทีไรทำให้รถติดทุกที ก็ต้องมาแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเรื่องระบบระบายน้ำ เป็นปัญหาเชื่อมโยงฝนตกในที่ที่คนไม่ต้องการ แม้วันนี้ประเทศจะสามารถผลิตข้าวและส่งออกได้จำนวนมาก แต่ก็ต้องไปทำวิจัยด้วยว่าเขาสั่งซื้อไปเพื่ออะไร ส่วนใหญ่นำไปผสมทำให้เกิดความแข่งขันได้ง่ายขึ้น เพราะบางครั้งเขาก็ไม่ต้องการข้าวที่มีความแตกต่าง และราคาสูงมากนัก เราจึงต้องทำทั้งสองอย่างให้ตรงต่อความต้องการของตลาด จึงขอเป็นกำลังใจทั้งกับชาวนาซึ่งอย่างไรอนาคตวันข้างหน้าเราก็ไม่อดตาย แม้โลกจะมีการเปลี่ยนแปลง หลายประเทศที่เคยปลูกข้าวได้ อาจจะปลูกไม่ได้อีก สาเหตุเกิดจากปัญหาน้ำน้อย และอากาศเปลี่ยนแปลง แต่เราได้สร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรจนเป็นผลสำเร็จ มีการยึดโยงกับเศรษฐกิจของชาติ วันนี้เราต้องปรับเปลี่ยนทั้งหมด ไม่เช่นนั้นก็จะติดกับดักตัวเองทั้งความยากจน ความเหลื่อมล้ำความไม่เป็นธรรม และการเอาเปรียบ การทุจริต รัฐบาลพยายามแก้ไขทุกอย่าง
“วันนี้รัฐบาลพยายามแกะปมปัญหาของประเทศ เหมือนเชือกที่เป็นปมซึ่งประเทศไทยมีลักษณะของเชือกที่เป็นปมไม่รู้กี่ร้อยปมมัดรวมเป็นกลุ่มใหญ่ รัฐบาลนี้พยายามที่จะแก้ปมที่เกิดขึ้นอยู่ วันนี้ขอให้ชาวนาทุกคนเป็นชาวนาที่เฉลียวฉลาด หรือสมาร์ทฟาร์มเมอร์ อย่าให้ใครมาหลอก และสามารถรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่าให้กลับไปเป็นแบบเดิมที่ทุกอย่างมีแต่ความขัดแย้ง รายได้ไม่เพียงพอ ไม่มีเกียรติยศศักดิ์ศรี ทั้งหมดอยู่ที่การบริหารประเทศภายใต้อำนาจที่ประชาชนได้มอบไป เมื่อมอบอำนาจให้ไปแล้วประชาชนทุกคนต้องเป็นผู้กำหนดได้ว่าเขาจะต้องทำอะไรให้กับเรา ไม่ใช่ให้มาชี้นำ ให้ทำตามแล้วถึงจะได้รับผลประโยชน์ อย่าลืมว่าประเทศไทยไม่ได้มีเพียงชาวนา แม้วันนี้เราจะสามารถทำให้กลับมาเป็นผู้ขายข้าวอันดับหนึ่งอีกครั้ง แต่ปัญหาอยู่ราคาข้าวที่ต่ำลง รายได้จึงลดลง รายได้ของประเทศก็ลดลง เพราะทุกอย่าเชื่อมโยงกันทั้งหมด ที่ผ่านมาประเทศไทยมองปัญหาเป็นเสี้ยวๆ รัฐบาลที่ผ่านมาแก้ปัญหาแบบง่ายดีคือแก้เสี้ยวนี้ เสี้ยวนี้จบ ปีหน้าก็กลับมาใหม่ วนเวียนและติดกับดักอยู่อย่างนี้ การพัฒนาอย่างอื่นก็ทำไม่ได้ เพราะติดกับดักตรงนี้ ผมไม่ได้ใจร้าย ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เพราะวันข้างหน้าจะได้ไม่ต้องมาเสียน้ำตากันอีก แม้ผมจะถูกตำหนิมากพอสมควรว่าทำไม่ทัน ทำงานล่าช้า ไล่ให้ออกไปเสียที เพราะทำไม่เสร็จสักอย่าง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่พบกันวันนี้ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับตน แต่พอกลับไปก็ยังมีอีกหลายสมาคมที่เกี่ยวข้องนอกแถวบ้างก็ไม่เห็นด้วยเรียกร้องต่างๆ นานา จนถึงวันนี้ยังไม่รู้ว่าชาวนามีกี่สมาคม กี่นายกกันแน่ ความจริงควรจะต้องรวมกันให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้การแก้ปัญหายาก เพราะถ้าทำทีละคนทีละฝ่าย เทวดาองค์ไหนก็แก้ไม่ได้ จึงควรรวมตัวกันและกำหนดความเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องที่ดิน หนี้นอกระบบ กฎหมายไม่รู้กี่ฉบับที่ออกมาก็ยังไปได้ไม่ถึงไหน จากเดิมที่ไม่มีอะไรเลย
“ทั้งหมดอยู่ที่ทุกคนจะร่วมมือกันได้หรือไม่ ต่อให้มีกฎหมายอีกเป็นร้อยฉบับ ถ้าไม่ร่วมมือกันทำ ต่อให้ผมมายืนตรงนี้อีก 10 คนก็จบเพราะสั่งพวกท่านไม่ได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งไหนดีในด้านการเกษตรก็สมัครใจกันทำไป รัฐบาลไม่ได้อยากบังคับอะไรมาก แต่ขอให้เชื่อฟังแผนต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะดูในภาพรวมทั้งประเทศ และเงินที่ได้จากการขายข้าวและภาษีจากส่วนต่างๆ ที่เก็บมา รัฐต้องเตรียมมาเป็นอนาคตของประเทศ ทั้งเรื่องการศึกษา สาธารณสุข 30 บาทรักษาทุกโรค รถเมล์รถไฟฟรี และยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-โคราชอีก และที่ผ่านมารัฐบาลได้อนุมติซื้อรถไฟใหม่แบบสวยโก้ ไม่กี่เดือนก็จะมาแล้ว จะได้เลิกใช้รถไฟโบราณ ซึ่งตนได้เร่งให้รถมาไวๆ ถ้าช้าก็อาจจะเปลี่ยนผู้ว่าการรถไฟฯ ก่อน
นายกฯ กล่าวว่า ขอแนะนำชาวนาให้ผลิตพันธุ์ข้าวใหม่ๆ โดยนำพันธุ์ที่ชนะเลิศมาผสมกับพันธุ์อื่น พัฒนาให้มีคุณภาพ ทั้งญี่ปุ่น อเมริกา ไทย สามารถกินได้ แต่อย่าให้เขามาเอาพันธุ์ข้าวเราไปอีก และเราต้องไม่มัวแต่ทะเลาะกัน จนเพื่อนบ้านเรานำพันธุ์ข้าวเราไปพัฒนาแล้วได้แชมป์โลกเหมือนเรา ถ้าไม่หยุดวันหน้าจะถูกแซงหมด วันนี้ต้องหยุดทะเลาะกันเอง อย่าไปเป็นเครื่องมือของใคร
“ความผิดพลาดที่ผ่านมาเรื่องข้าวถือว่าผ่านไปแล้ว ต้องเริ่มใหม่อย่าให้รัฐบาลซื้อมาเก็บแบบเดิมอีกเลย เพราะส่งผลให้ตลาดผันผวน ราคาข้าวตก วันนี้ข้าวที่มีอยู่ต้องเก็บบางส่วน ขายบางส่วน แต่ก็กลัวว่าที่ขายจะราคาถูกเกิน แต่หนี้สินที่รัฐบาลต้องใช้หลายแสนล้านจะทำอย่างไร ก็ต้องมีการฟ้องร้องเพื่อหาผู้รับผิดชอบ เพราะวิธีการนำงบประมาณรัฐไปโปะ บางอันมากเกินไปไม่ได้ ก็ต้องรับผิดชอบกันมา ได้ไม่ได้ไม่รู้ ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน ผมไม่ได้รังแกใครทั้งสิ้น อาจจะเป็นเจตนาดี แต่วิธีการไม่เหมาะสม อะไรทำนองนี้ก็ไปว่ากันมา วัตถุประสงค์ของผมคือทำอย่างไรไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก” พล.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาชาวนาต้องเป็นหนี้เป็นสินจนต้องพึ่งเงินนอกระบบ ค้ำประกันจนเหลือแต่ชีวิต เป็นหนี้ตั้งแต่พ่อสู่ลูก กลายเป็นมรดกหนี้ เป็นอย่างนี้มาตลอด หากวันหน้าคนออกนอกวงจรการเกษตรจะทำอย่างไร ถ้าโลกขาดอาหาร แต่เราคือแหล่งอาหารของโลก วันนี้ไทยมีคลังข้าวหลายล้านตัน มันผิดและแย่ที่เอาเข้ามาตั้งแต่ต้น ตนไม่รู้จะว่าอย่างไร เวลาผ่านไปก็เสียหายไปเรื่อยๆ ขายไม่ออก ราคาก็ต่ำ วงจรก็เสีย วันนี้รัฐบาลกำลังทำเรื่องประชารัฐ ตนได้สั่งไปแล้วว่าภายในปีนี้จะต้องมีบริษัทประชารัฐถึง 76 จังหวัดต้องจัดตั้งจดทะเบียนให้ได้ โดยบริษัทดังกล่าวจะมีทุกอย่างทั้งภาคเกษตร ท่องเที่ยว โดยประชาชนเป็นเจ้าของบริหารจัดการกันเอง ทั้งนี้ ประเทศไทยมีทุกอย่างยกเว้นการปฏิบัติ ขับเคลื่อนไม่ได้ เพราะการเมืองนำหน้าทุกอย่าง ปัญหาขาดแคลนน้ำรัฐบาลก็พยายามทำฝนเทียมบินจนเครื่องบินจะเจ๊งอยู่แล้ว นักบินก็เสี่ยง โดยปัญหาการบุกรุกทำลายป่ากลายเป็นเขาหัวโล้น ที่ผ่านมาหลายคนไปปลูกป่าแล้วก็ตายเพราะไม่มีร่มเงา เอากล้าไม้เล็กไปปลูก รดน้ำออกทีวีกันใหญ่โต ผ่านไปสองวันต้นไม้แห้งหมด น้ำไม่มีจะปลูกทำไมเขาต้องปลูกกันหน้าฝน ต้นไม้ถ้าเอาไปปลูกบนเขาต้อง 2 เมตรถึงจะรอด ไม่ใช่เอาต้นคืบเดียวไปปลูกก็ตายหมด เสียเวลา ต้องช่วยทำความเข้าใจ ใครจะไปปลูกบอกเขาด้วย ไม่ใช่แค่ปลูกแล้วถ่ายรูปสวยงาม เสียเงิน เสียแรงงาน แถมทำอากาศเสียอีก ขึ้นไปปลูกเป็นพันธุ์เป็นหมื่นคน หายใจเอาของเสียออกมา นอกจากไม่เกิดป่าแล้วยังไปปล่อยแก๊สเสียอีก แต่ได้ภาพหล่อสวย โดยปีนี้ได้สั่งให้นำต้นไม้ที่โตเร็วไปปลูกเพื่อให้เกิดร่มเงาก่อนปลูกป่า
ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรได้สอบถามข้อสงสัย โดยนายทวีศักดิ์ วีระศักดิ์ นายกสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียง กล่าวว่า อยากให้นายกฯ ใช้มาตรา 44 เพื่อช่วยปลดหนี้ให้แก่เกษตรกรทั้งประเทศ ชาวนาทั้งประเทศมีหนี้ 1,500,000 ล้านบาท โดยนายกฯ กล่าวว่า มีหลายกองทุนที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ก็ต้องทยอยกันไป แต่เรามีงบประมาณทั้งประเทศ 200,000 ล้านบาท ขณะนี้หลายธนาคารก็มีการผ่อนผันอยู่แล้ว แต่ต้องมองในภาพรวมว่าจะล้มทั้งหมดไม่ได้ จะตัดให้เป็นหนี้สูญก็ไม่ได้ วันนี้หนี้กระจายไปหมด ทั้งหนี้สินชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ยังไม่นับรวมหนี้ครู 4 ล้านล้านบาท ถ้าจะต้องปลดหนี้ให้หมดคงไม่ต้องไปทำอะไรกันแล้ว ปิดประเทศไป 5-10 ปี หากินเอาเองมันก็ทำไม่ได้ ชาวนาเองก็ต้องมีการใช้จ่ายที่เหมาะสม ต้องเป็นหนี้ที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่า เช่น การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
“เมื่อเช้าดูข่าวกรณีอุบัติเหตุเครื่องบินฝึกขนาดเล็กแบบ DA-42 ไดมอนด์ ขนาด 4 ที่นั่งของวิทยาลัยการบินนานาชาตินครพนม ตกบริเวณรันเวย์ท่าอากาศยานนครพนม มีนายยิ่งยศ อุดรพิมพ์ ประธานกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ที่โดยสารอยู่ในเครื่องบินลำนั้น ผมเสียใจด้วยและขอให้ไปสู่สุคติ” นายกฯ กล่าว