เมืองไทย 360 องศา
ทำท่าจะกลายเป็นแบบนั้นจริงๆ เสียด้วย หลังจากได้เห็นการเคลื่อนไหวแบบเข้มข้นขึ้นในทุกรูปแบบของ ทักษิณ ชินวัตร กับเครือข่ายของเขา ทั้งในแบบการวิพากษ์วิจารณ์แบบดิสเครดิต การใช้มวลชนแนวร่วมออกมาป่วนรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แบบรายวัน แต่กลายเป็นว่ายังไม่อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับฝ่ายอำนาจรัฐในเวลานี้ได้มากนัก พิจารณาจากแนวโน้มแล้วก็ยังเชื่อว่าไม่น่าจะได้ผล
คำถามก็คือ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น คำตอบก็อาจมองเห็นได้ไม่ยาก หากพิจารณาจากอดีต แบ็กกราวนด์ของแต่ละคนและสะท้อนผ่านประสบการณ์ความรู้สึกของชาวบ้านที่ผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมานานพอสมควร ย่อมมองสถานการณ์ได้เข้าใจมากขึ้น ย่อมมองออกแต่ละการเคลื่อนไหวที่เห็นกันอยู่ในเวลานี้มีที่มาที่ไปอย่างไร และมีเป้าหมายข้างหน้าแบบไหน และเพื่อใครกันแน่ เป็นผลประโยชน์ของบุคคลเฉพาะบางครอบครัวหรือไม่
หากพูดกันแบบไม่อ้อมค้อมก็คงรับรู้กันแล้วว่า การเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวของเขา รวมทั้งผ่านทางเครือข่ายในหลายรูปแบบ ทั้งในพรรคพรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง หรือแม้แต่แนวร่วมนักวิชาการ นักศึกษาสารพัดชื่อในเวลานี้ ที่กำลังแอบอ้างประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนบังหน้า ถูกมองว่ามีเบื้องหลังทั้งสิ้น หากสังเกตให้ดีจะพบว่าล้วนเป็นพวกหน้าเดิมๆ คนเดิมๆ ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่ยังไม่อาจ “สร้างกระแส” ให้ขยายวงได้อย่างที่ต้องการ ทั้งที่ทุกการเคลื่อนไหวก็ได้รับความสนใจอย่างมาก อาจเรียกได้ว่ามากเป็นพิเศษเสียด้วยซ้ำไป ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็มีจุดอ่อนมากมาย ทั้งในเรื่องผลงานที่จนถึงเวลานี้ยังไม่อาจจับต้องได้เลย ยังไม่ได้ทำตามความต้องการของชาวบ้านมากนัก โดยเฉพาะการปฏิรูปในเรื่องสำคัญเร่งด่วน เช่นการปฏิรูปตำรวจ การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันที่เวลานี้ชาวบ้านยังมองว่า “ไม่ได้ต่างจากรัฐบาลก่อน” โดยเฉพาะการทุจริต การรับเงินใต้โต๊ะในหมู่ข้าราชการ ซึ่งมีการสะท้อนผ่านทางผลสำรวจที่เพิ่งออกมาปรากฏว่าการโกงยังมีอยู่ในระดับสูง
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านไม่น้อยเริ่มมองออกแล้วว่าการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ล้วนเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มอำนาจใหม่อย่าง คสช. แม้ว่านาทีนี้ยังไม่อาจใช้คำว่า “สืบทอดอำนาจ” ได้อย่างเต็มปาก แต่เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาสาระบางประเด็น ล้วนมีความน่าสงสัยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเนื้อหาในบทเฉพาะกาลที่มีการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา และการเปิดทางให้ร่วมโหวตนายกฯคนนอก นอกบัญชีของพรรคการเมืองได้ และที่สำคัญ หากร่างฉบับนี้ไม่ผ่านประชามติ คณะรักษาความสงบแห่งชาติสามารถประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้เลย ซึ่งนั่นเท่ากับว่า ไม่รู้ว่าเนื้อหาข้างในเป็นอย่างไร จะ “หงายหลัง” ตามที่บางคนเคยพูดเอาไว้หรือไม่
ที่น่าสนใจก็คือ ผลงานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของรัฐบาล และ คสช. ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่ายัง “ไม่โดน” ชาวบ้านยังไม่อาจลืมตาอ้าปากได้ ราคาพืชผลตกต่ำทุกรายการ ขณะที่ค่าครองชีพสูงลิ่ว อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะอ้างถึงเรื่องภัยแล้งยาวนาน แต่เมื่อวัดผลสัมฤทธิ์ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยพูดก่อนหน้านี้ถือว่ายังไม่เป็นไปตามนั้น
หากพิจารณาจากผลงานและความคาดหวังดังกล่าวของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ น่าจะสร้างเงื่อนไขการต่อต้านให้ขยายวงออกไปได้ แต่กลายเป็นว่าจนถึงนาทีนี้ยังไม่เห็นแนวโน้มที่จะสร้างความสั่นสะเทือนได้มากนัก ดังนั้น ก็ต้องมาพิจารณากันอีกมุมหนึ่งสาเหตุมันเป็นเพราะอะไรกันแน่
สาเหตุหลักเป็นเพราะกลุ่ม ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวหรือเปล่า เป็นเพราะชาวบ้านมองว่า “มันมีวาระซ่อนเร้น” ไม่น่าไว้ใจ ถูกมองว่าเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ชาวบ้านรับรู้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มี “คุณสมบัติต้องห้าม” ของนักการเมืองโกงลงนามตลอดชีวิต ซึ่ง ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวอยู่ในคุณสมบัติที่ว่านี้ รวมไปถึงโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งแบบครอบเสียงข้างมากเป็นไปได้ยาก รวมไปถึงโอกาสที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำได้ยาก ขณะเดียวกัน ชาวบ้านยังรู้สึกรำคาญกับการเคลื่อนไหวของคนพวกนี้
ดังนั้น หากพิจารณาจากบรรยากาศและแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นในยามนี้ ที่การเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายที่เร่งโหมโจมตีรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติกำลังเร่งเครื่องอย่างหนัก แต่ก็ไม่อาจสร้างกระแสต่อต้านให้ขยายวงออกไปได้มากนัก ในทางตรงกันข้ามแวดวงยังจำกัดหดแคบกว่าเดิม จนถูกมองว่ายิ่งเคลื่อนไหวก็ยิ่งทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ซึ่งลักษณะอาการแบบนี้ไม่ต่างจาก “แนวร่วมมุมกลับ” ที่สร้างผลบวกให้กับฝ่ายตรงข้าม
ขณะเดียวกัน หากมองอีกมุมหนึ่งจะเป็นไปได้หรือไม่ หากต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะของเขาอ่อนแอลง ฝ่ายทักษิณ ชินวัตร สมควรจะอยู่นิ่งๆ รอให้ทุกอย่างประจานความล้มเหลวด้วยตัวของมันเอง เพราะมีจุดอ่อนมากมายดังกล่าวข้างต้น!