xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว-เครือข่าย” ดับเครื่องชน คสช.เต็มตัว สร้างวิกฤตเป็นโอกาส!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เมืองไทย 360 องศา


“แม้ว่าวันนี้สถานะเราจะต่างกัน แต่เมื่อก่อนเราก็เคยร่วมงานกัน และดิฉันก็เคยอยู่ในสถานะเช่นท่านมาก่อน แม้ว่าที่มาที่ไปของเราจะต่างกัน จึงเข้าใจความรู้สึกของท่านเวลาถูกต่อว่าต่างๆ นานา ในฐานะที่เป็นผู้นำถือเป็นบุคคลสาธารณะ ที่ต้องพร้อมเปิดใจรับฟังการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในด้านดีและด้านลบ ที่มีต่อตัวเอง หรือรัฐบาล เพราะดิฉันเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ต้องเป็นฝ่ายอดทนมาโดยตลอด ย่อมเข้าใจความรู้สึกท่านดี เพียงแต่ดิฉันไม่สามารถที่จะออกกฎหมายหรือคำสั่งการใดๆ ให้เป็นกฎหมายได้เช่นท่าน”

“เมื่อก่อนท่านก็เคยพูดกับดิฉันว่า ยามบ้านเมืองแตกแยก ถ้าคิดแต่เอากฎหมายมาปลดคนนั้นคนนี้ออก เพียงเพราะไม่สนองตอบนโยบาย หรือเอากฎหมายมาใช้บังคับคนให้ทำงานตามคำสั่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์มันแย่และเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ซึ่งดิฉันก็พูดมาโดยตลอดว่าคนที่มีความคิดเห็นต่าง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้บ้านเมืองแตกแยก แต่จะเป็นการดีที่จะได้ช่วยกันแสดงความคิด ความเห็นในการพัฒนาประเทศมากกว่า วันนี้ดิฉันจึงอยากจะขอฝากสิ่งที่ท่านเคยพูดไว้ หวังว่าท่านคงจะไม่ลืม และนำไปใช้เช่นเดียวกัน ตามที่เคยบอกกับดิฉันเมื่อสองปีที่แล้วนะคะ”

นั่นเป็นข้อความของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โพสต์ลงสื่ออนไลน์ เจตนาเพื่อสื่อสารออกไปในวงกว้าง ขณะเดียวกัน ในข้อความดังกล่าวยังกระแทกแดกดันเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในเชิงตักเตือนว่าให้ใช้ความอดทนอดกลั้นในการแก้ปัญหา ให้เคารพความเห็นต่าง รวมไปถึงให้ระมัดระวังในการออกคำสั่ง และการใช้กฎหมายบังคับเกินขอบเขตโดยเฉพาะคำพูดที่ย้อนกลับไปว่า “จะยิ่งทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลง” และคำว่า “หวังว่าท่านคงไม่ลืมสิ่งที่ท่าน (พล.อ.ประยุทธ์) เคยบอกกับดิฉันเมื่อสองปีที่แล้ว”

ข้อความที่อ้างว่าเป็นคำพูดของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดังกล่าวเป็นข้อความยาวเหยียดเป็นครั้งแรกของเธอ แน่นอนว่าย่อมมีเจตนาสื่อสารออกไปให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะต้องการสร้างแรงสั่นสะเทือนกับ “ฝ่ายอำนาจรัฐ” คือ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยตรง

อย่างที่รับรู้กันอยู่แล้ว่า ทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับฝ่ายทักษิณ ชินวัตร เริ่มสัปยุทธ์กันเต็มกำลังแล้ว เนื่องจากต่างฝ่ายก็มีเดิมพันในอนาคตสูงยิ่ง ต่างฝ่ายก็ระแวงซึ่งกันและกัน ฝ่าย คสช.ก็กลัวว่าฝ่ายทักษิณจะกลับมาหลังการเลือกตั้งแล้วจะมาเอาคืน ขณะที่อีกฝ่ายก็กลัวว่าหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านการลงประชามติจะทำให้พวกเขาต้องหมดอนาคตทางการเมือง หรือแม้แต่ชนะการเลือกตั้งแล้วโอกาสที่จะเป็นนายกฯหรือเป็นรัฐบาลได้น้อยมาก รวมไปถึงกังวลในเรื่องคดีอาญาหลายคดีที่ถูกรื้อฟื้น มีการดำเนินคดีในศาลต่างๆ จำนวนมาก เหล่านี้ล้วนเป็นผลลบทั้งสิ้น

อย่างไรก็ดี นาทีนี้หากพิจารณากันเฉพาะฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังเคลื่อนไหวเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆนั้นสามารถเข้าใจได้ เพราะกำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญกำลังจะมีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะถ้าผ่านก็คง “จบเห่” อย่างน้อยในช่วง 5 ปีนับจากนี้ ที่ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สองแกนนำ คสช.อ้างว่าเป็นช่วง “เปลี่ยนผ่าน” ขณะเดียวกัน จากสัญญาณที่ส่งออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนหน้านี้ก็พูดตรงๆ ออกมาครั้งแรกว่า “ขอแค่ห้าปี” ความหมายให้ตีความได้ว่าพวกเขาจะขอลากยาวอีกห้าปี อ้างว่าเพื่อจัดการปัญหาที่คั่งค้างให้ลุล่วงรวมทั้งวางรากฐานให้กับบ้านเมืองที่วางเอาไว้ล่วงหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ถึง 20 ปี

ดังนั้นหากเป็นไปตามนั้น มันก็ช่วยไม่ได้ที่ฝ่ายทักษิณ ชินวัตร จะต้องเป็นกังวล ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวาง ไม่ให้ฝ่ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติทำได้สำเร็จตามแผนที่วางเอาไว้ และอย่าได้แปลกใจที่นับจากนี้ไปจะมีรายการป่วน มีการเคลื่อนไหวในหลายรูปแบบ ทั้งในแบบที่เป็นในเชิงสัญลักษณ์ ในแบบที่มีการประท้วงต่อต้านโดยตรง ออกมาอย่างต่อเนื่อง

ที่น่าจับตามองที่สุดก็คือ “แผนยั่วยุ” หรือยั่วให้จับ เพื่อให้เกิดกระแสต่อต้านกันให้ขยายวงออกไป จนกระทั่งทำให้ฝ่าย คสช.และรัฐบาลไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้ ทำให้บานปลายโดยชูธงในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตย อย่างไรที่ผ่านมาดูเหมือนว่าฝ่ายอำนาจรัฐก็ยังไม่หลงกลมากนัก แม้ว่าจะออกมาตรการ คำสั่งคุมเข้ม มีการจับกุมควบคุมตัว แต่ก็ปล่อยตัวออกมา ไม่พยายามสร้างเงื่อนไขมากจนเกินไป แต่ก็อย่างที่บอกว่าโอกาสที่จะพลาดมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ถ้าพลาดมันก็เหมือนกับ “สร้างวิกฤตให้เป็นโอกาส” ของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งการเล่นกับมวลชนมันเป็นเรื่องอ่อนไหว มีโอกาสที่เกิดเหตุการณ์แทรกซ้อนได้ทุกเมื่อ และนาทีนี้เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกโรงแล้ว บรรดาลูกน้องต่างก็ต้องทยอยออกมาถี่ยิบมากขึ้น เพราะเวลาเริ่มกระชั้นเข้ามาทุกทีแล้ว!!
กำลังโหลดความคิดเห็น