“วินธัย” เชื่อรายงานสิทธิมนุษยชนมะกันรับข้อมูลทางเดียว

โฆษก คสช.เผยข้อมูลรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ปี 2015 ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บางส่วนอาจมีความคลาดเคลื่อน ยันการควบคุมบุคคลมุ่งให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อย ย้ำให้เกียรติด้วยความสุภาพ และเปิดเผย เป็นไปได้ว่าต่างชาติรับข้อมูลเดียว

วันนี้ (15 เม.ย.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดตัวรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ปี 2015 โดยนายจอห์น แครี ในส่วนของประเทศไทย ตามเนื้อหาในรายงานที่ระบุไว้นั้น ข้อมูลบางส่วนอาจมีความคลาดเคลื่อนและยังไม่ครบครอบคลุมอยู่บ้าง เพราะปัญหาที่ต่างประเทศให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรงงาน หรือการขจัดทุจริตก็ตาม ได้มีพัฒนาการเชิงจับต้องได้ไปในทิศทางที่เป็นบวกชัดเจนผลลัพธ์และการชี้วัดในทางสถิติมีผลในเชิงบวกในหลายเรื่อง ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก ยังคงสามารถดำเนินการได้ในกรอบที่เหมาะสม โดยต้องไม่ไปละเมิดบุคคล หรือองค์กรอื่นๆ และไม่นำมาซึ่งความขัดแย้ง หรือนำมาซึ่งการแตกความสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวยังอยู่ในวิธีการปฏิบัติที่เป็นหลักของธรรมชาติ อ่อนตัวตามสภาพแวดล้อมทางสังคมไทยปัจจุบัน

สำหรับการควบคุมบุคคลใด ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เป็นไปตามมาตราการการดูแลให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อย การปฏิบัติต่อบุคคลใดๆ ของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างการให้เกียรติด้วยความสุภาพ และเปิดเผย พยายามหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจจะถูกผู้ไม่หวังดีหยิบยกมาอ้างเป็นประเด็น ยืนยันการบังคับใช้กฎหมายไม่ส่งผลกระทบกับบุคคลทั่วไป ไม่พบการร้องเรียนใดๆ เกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่ นอกจากบางกรณีที่มีผู้ไม่หวังดีนำมาบิดเบือนไปอ้างใช้หวังผลให้เป็นประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะพยายามทำลายความน่าเชื่อถือ คสช.ในมุมมองของต่างประเทศ

กรณีมีการกล่าวถึงตั้งแต่ที่ผ่านมาจำนวนผู้เข้าสู่กระบวนการทำความเข้าใจและขอความร่วมมือ ที่มีจำนวนมากนั้น คงไม่ใช่เครื่องบ่งชี้สภาพการณ์ใดๆ ในเชิงน่าวิตกกังวล เพราะหลายคนส่วนใหญ่ เข้าใจถึงเหตุผลและความจำเป็นในการดำเนินการตามมาตราการนี้ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเน้นการพูดคุยทำความเข้าใจกันในแบบที่สร้างสรรค์ ไม่ใช่ไปดำเนินการกับบุคคลเหล่านั้น ในฐานะของผู้ที่ทำความผิด ส่วนใหญ่จึงไม่จำเป็นจะต้องมีการกล่าวหากันในทางคดี เป็นไปได้ว่าข้อมูลที่ทางต่างประเทศได้รับ อาจเป็นไปในลักษณะทางเดียว ภายใต้มุมมองที่จำกัด ไม่กว้างขวางครอบคลุมอย่างแท้จริง หรือบางส่วนได้รับข้อมูลมายังไม่ครบถ้วน ซึ่งหลังจากนี้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในฐานะผู้ปฏิบัติ และสัมผัสอยู่กับปัญหาจริงๆ คงจะได้ เพิ่มเติมเสริมข้อมูลให้เพื่อจะได้เสริมให้ข้อมูลสมบูรณ์ครบถ้วนและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น