เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - นักวิเคราะห์มองแง่ดีการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย หรือ เอไอไอบี ซึ่งมีจีนเป็นโต้โผ แม้ไร้เงาชาติเศรษฐกิจใหญ่เข้าร่วม
จีนเป็นหัวเรือใหญ่นำ 20 ชาติลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งเอไอไอบี ที่กรุงปักกิ่งเมื่อศุกร์ ( 24 ต.ค.) เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนอีกแหล่งหนึ่งสำหรับโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินถึงปีละ 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
คาดว่า จีนอาจลงขันถึงครึ่งหนึ่งของเงินทุนในการก่อตั้งธนาคาร ที่มีการเสนอไว้จำนวน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งผู้สังเกตการณ์เห็นว่า จะยิ่งเสริมบารมีบทบาทผู้นำในทวีปเอเชียของจีน และยังเป็นการแข่งขันกับธนาคารโลก ซึ่งมีสหรัฐฯ หนุนหลัง และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี ซึ่งหนุนหลังโดยญี่ปุ่นอีกด้วย
ชาติที่เข้าร่วมพิธีลงนามครั้งนี้รวมทั้งอินเดีย สิงค์โปร์ และเวียดนาม โดยคาดว่า ธนาคารจะเปิดดำเนินการได้ภายในสิ้นปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ชาติเศรษฐกิจรายใหญ่ อาทิ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และอินโดนีเชียไม่เข้าร่วม ท่ามกลางกระแสข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้พยายามล็อบบี้ชาติร่ำรวย ไม่ให้เข้าร่วม โดยออสเตรเลียไฟแนนเชียลรีวิวรายงานเมื่อวันพฤหัสฯ ( 23 ต.ค.) ว่า นายจอห์น แครี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ถึงกับออกปากขอร้องเป็นการส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรีโทนี่ แอ๊บบ็อตของออสเตรเลียว่า อย่าเข้าร่วม
ด้านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้อ้างสุภาษิตของจีน ขณะพบปะกับผู้แทนจากชาติต่าง ๆ ภายหลังการลงนามว่า ถ้าคุณต้องการร่ำรวย คุณก็ต้องสร้างถนนก่อนเป็นสิ่งแรก”
ผู้นำจีนระบุว่า ธนาคารเอไอไอบีควรทำหน้าที่ผลักดันส่งเสริมการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงภายในภูมิภาค ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือและอัดฉีดแรงขับเคลื่อนใหม่แก่การพัฒนาเศรษฐกิจของเอเชีย โดยธนาคารใหม่นี้ยินดีต้อนรับทุกชาติ ที่ต้องการเข้าร่วม และธนาคารจะช่วยเติมเต็มองค์กรด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
นายเบิร์ต ฮอฟแมน ผู้อำนวยการฝ่ายจีน มองโกเลีย และเกาหลีของธนาคารโลก แสดงความยินดีต่อกำเนิดของเอไอไอบีว่า เป็นการริเริ่มที่สำคัญ เนื่องจากทุกวันนี้ธนาคารโลกไม่สามารถตอบสนองความต้องการกู้เงินสำหรับโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างเพียงพอ และคาดว่า ในอนาคตความต้องการเงินทุนสำหรับก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนาอาจพุ่งสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีก็เป็นได้
ส่วนนายทาเกฮิโกะ นากาโอะ ประธานเอดีบีกล่าวว่า การก่อตั้งเอไอไอบี เพื่อเพิ่มแหล่งเงินทุนในเอเชียเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ และเอดีบีพร้อมให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม ยังมีคำถามอีกหลายข้อ ที่รอคำตอบเกี่ยวกับธนาคารปล่อยกู้สำหรับโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย ที่จีนเป็นผู้เสนอนี้
นับเป็นการออกโรงก่อตั้งธนาคารปล่อยกู้ระหว่างประเทศครั้งที่ 2 ของจีน หลังจากชาติกลุ่มบริกส์ 5 ชาติได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้เพิ่งมีการลงนามข้อตกลงจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ด้วยเงินทุนเริ่มต้นจำนวน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นายหลิว เผ่ยหลิน นักวิจัยของศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาของรัฐบาลจีนมองว่า เอไอไอบีจะเป็นคู่แข่งของเอดีบี หรือธนาคารโลกหรือไม่นั้น พูดยาก แต่ก็อาจมีบ้าง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนมีความจริงใจที่จะช่วยเหลือชาติกำลังพัฒนา และแบ่งปันความรู้ประสบการณ์เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างต่าง ๆ
ขณะที่นายริชาร์ด วอร์เบอร์ตัน หัวหน้าฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน (เอเชีย) ของอีซี แฮร์ริสกล่าวว่า การขาดชาติเศรษฐกิจใหญ่มาเป็นสมาชิกก่อตั้งธนาคารนั้นอาจไม่ใช่ข้อวิตกใหญ่ ส่วนที่ว่า แผนการริเริ่มของจีนถูกบ่อนทำลายนั้น ยังเร็วเกินไปที่จะชี้ชัด เวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์