ปชป.ทำบุญ 7 ทศวรรษพรรค แกนนำตบเท้าเพียบ ไร้เงา “เทือก-ชายหมู” หลายพรรค-กปปส.ร่วมยินดี “อภิสิทธิ์” ย้ำพรรคอยู่มาได้เพราะอุดมการณ์ แต่มีหลายเรื่องที่ไม่เป็นตามหวัง ห่วงเสรีภาพถดถอย การเมืองไม่เป็น ปชต. จี้ รบ.ระบุให้ชัดร่างไม่ผ่าน ปชช.จะได้อะไร มองแนวคิดแก้ไฟใต้ ไม่เดินหน้า ต้องใช้การเมืองนำการทหาร “ชวน” อยากเห็นความเด็ดขาด กม. เห็นใจ จนท. ชี้ชาวพุทธในพื้นที่เสียหายสุด
วันนี้ (6 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ จัดพิธีทำบุญทางศาสนา “7 ทศวรรษ พรรคประชาธิปัตย์” โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมพิธี เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส. และ อดีต ส.ก., ส.ข.เข้าร่วมพิธีอย่างคึกคัก โดยมีการทำพิธีทางศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์ และศาสนาพุทธ มีพระสงฆ์จำนวน 9 รูปจากวัดเทพศิรินทราวาสราชวรมหาวิหาร ทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ รวมทั้งมีพิธีบวงสรวงสักการะองค์แม่พระธรณีบีบมวยผม องค์สัญลักษณ์พรรคประชาธิปัตย์
โดยนายอภิสิทธิ์ได้กล่าวในพิธีศาสนาอิสลามตอนหนึ่งว่า 70 ปีที่พรรคประชาธิปัตย์ดำรงอยู่มาได้ เพราะอุดมการณ์ ความคิด หากไม่มีอุดมการณ์ก็คงไม่สามารถอยู่มาได้ถึง 70 ปี แต่อุดมการณ์ของผู้ก่อตั้งพรรคตั้งเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน มีหลายเรื่องที่ไม่เป็นไปตามความหวัง ทั้งเรื่องประชาธิปไตย การเมืองใสสะอาด และการกระจายอำนาจ บางเรื่องดูเหมือนยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ สถานการณ์วันนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะมีการปฏิรูป หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจและจัดทำรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลายคนถามแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะเอาอย่างไร ตนได้พูดชัดเจนแล้ว ส่วนตัวเป็นห่วงเรื่องหมวดสิทธิเสรีภาพที่ถดถอย และโครงสร้างทางการเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งการที่พรรคประชาธิปัตย์จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้นจะต้องใช้เวลาพิจารณา เพราะสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังจะพิจารณาว่าจะมีคำถามพ่วงประชามติหรือไม่ในวันที่ 7 เม.ย.นี้
“ดังนั้น รัฐบาลควรระบุชัดเจนว่าหากมีการประชามติแล้วประชาชนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแล้วเขาจะได้อะไร ไหนๆ ก็จะทำประชามติเสียเงินหลายพันล้านบาท ควรบอกให้เจ้าของสิทธิคือประชาชนได้รับรู้ว่าเขาจะได้อะไร ประชาชนจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ รองนายกฯ ก็บอกว่า หากไม่รับร่างก็มีแผนหมดแล้ว ก็ควรบอกให้ประชาชนได้รับรู้ จึงจะนำเหตุผลมาพิจารณาว่าจะรับหรือไม่ได้ เพราะบางคนก็ไม่ได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญ แต่เขาหากชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. เขาก็รับร่างเพื่อให้อยู่ต่ออีก 5 ปี ส่วนคนที่ไม่ชอบก็จะตัดสินใจไม่รับร่าง เพราะเขาอยากเลือกตั้ง” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีตัวแทนพรรคการเมืองมอบกระเช้าดอกไม้เพื่อร่วมแสดงความยินดีด้วย เช่น นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายสรอรรถ กลิ่นประทุม แกนนำพรรคภูมิใจไทย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอดีตแกนนำ กปปส.เข้าร่วมด้วย ทั้งนายถาวร เสนเนียม นายอิสสระ สมชัย และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายวิทยา แก้วภราดัย นายจุมพล จุลใส และน .ส.จิตภัสร์ กฤดากร เป็นต้น ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ไม่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้
ต่อมาเวลา 09.00 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนได้บรรยายการทำงานโดยใช้หลักธรรมาภิบาลโดยหลักนิติธรรม หากยึดกฎหมายบ้านเมืองไม่มีปัญหาแน่ การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารบ้านเมืองด้วยการยึดกฎหมายจะทำให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และถูกต้อง แต่การใช้อำนาจในการตัดตอน ไม่เป็นไปตามหลักของกฎหมาย จึงนำมาซึ่งเหตุการณ์เสียชีวิตในภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนตัวต้องการเห็นความเด็ดขาดของกฎหมาย ใครไม่ผิดก็อย่ากลั่นแกล้งทำให้ต้องเกิดความสูญเสีย ส่วนใครที่ทำผิดไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธ หรือมุสลิมก็ต้องนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ทุกฝ่ายจึงจะอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดปัญหา
นายชวนกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม วันนี้รู้สึกเห็นใจการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกคน ตำรวจ ทหาร ตชด. อส.ทหารพราน เจ้าหน้าที่ทุกคน และคนที่เสียหายมากที่สุดคือชาวบ้านทั้งพุทธ-มุสลิม โดยในพื้นที่สัดส่วนพุทธมีอยู่น้อยกว่า คือ 80:20 เพราะฉะนั้นเมื่อตายเท่าๆ กัน พุทธจะตายมากกว่า นี่คือสิ่งที่เราต้องยอมรับความเป็นจริงและต้องทำความเข้าใจ ช่วยกันเพื่อรักษาบ้านเมือง เพราะถึงอย่างไรขวานทองก็ต้องมีด้ามจะให้มีเพียงสันขวาน คมขวาน ไม่ได้เพราะขวานเอาไว้ฟันกัน ไม่ได้เอาไว้ปากัน ดังนั้นด้ามขวานจึงเป็นส่วนที่สำคัญ แต่ด้ามขวานนี้จะมั่นคงแข็งแรงก็ต่อเมื่อ เรารักษากติกา ซึ่งตนต้องการเห็นความเด็ดขาดภายใต้กฎหมาย เพราะที่ผ่านมานั้นเกิดความเสียหายที่ไม่อาจคำนวณได้ เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้เห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กำชับให้ใช้กฎหมายเมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้น อย่าทำอะไรนอกกฎหมาย นั่นแสดงว่านายกคงทราบดีว่าเหตุเกิดจากอะไร อะไรคือที่มาของปัญหา แต่เหนือสิ่งอื่นใดเราต้องเอาใจช่วยทุกคนทั้งพุทธและมุสลิมเพราะอยู่ในฐานะที่น่าเห็นใจอย่างยิ่ง
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาของรัฐบาลในขณะนี้ว่า แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะลดลง แต่ก็ยังมีความรุนแรงและการสูญเสียอยู่ตลอด พรรคประชาธิปัตย์พยายามช่วยแก้ปัญหานี้ตลอด ทั้งในฐานะพรรคร่วมและแกนนำ ปัญหานี้จำเป็นต้องเอาการเมืองและการพัฒนาเข้าไปแก้ปัญหา ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์พยายามผลักดันกฎหมายเพื่อจะฟื้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แต่ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 ยกเลิกสภาที่ปรึกษา และปรับเปลี่ยนโครงสร้าง ศอ.บต. โดยใช้รูปแบบวิธีการตั้งคณะกรรมการดูและ ไปเน้นหนักที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าเป็นแนวทางที่ไม่น่าจะเดินไปข้างหน้าได้ เพราะการแก้ปัญหาดังกล่าว ต้องใช้การเมืองนำการทหารและการมีส่วนร่วมของประชาชน
