กกต.ประชุม ผอ.เลือกตั้ง จว.เตรียมรับประชามติ “ศุภชัย” แนะทำงานเป็นทีมแบบห่านไซบีเรีย ย้ำระดับ จว.สำคัญเป็นทัพหน้า ฝากใช้งบต้องโปร่งใส “ธีรวัฒน์” ย้ำเป้าใช้สิทธิไม่ต่ำกว่า 80% เชื่อปลอดทุจริตเหตุออก กม.แรง “สมชัย” ชี้ต้องให้แสดงความเห็นทั้งสองฝ่ายเท่าเทียม แจงเอกสารส่งตามบ้านมีระบุขั้นตอนใช้สิทธิ สรุปสำคัญข้อดี-เสีย รธน. ดักห้ามชี้นำ พร้อมแนะสิ่งใดควรไม่ควรทำ
วันนี้ (4 เม.ย.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดประชุมผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องเพื่อซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ โดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.มอบนโยบายตอนหนึ่งว่า อยากให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในงานสำคัญนี้ ทำงานเป็นทีมเหมือนห่านไซบีเรียที่มีอะไรต้องช่วยกัน สามัคคีกัน โดยการทำงานระดับจังหวัดนั้นถือว่าสำคัญ เพราะเป็นทัพหน้าถ้าทำได้ดีการออกเสียงประชามติก็จะประสบผลสำเร็จ เวลานี้ทุกภาคส่วนพยายามจับจ้องงานของ กกต.ว่าใช้งบฟุ่มเฟือย มีความไม่ชอบมาพากลในการใช้จ่ายงบประมาณ ก็ต้องระวังเรื่องการใช้จ่าย ใช้ให้คุ้มค่า และถ้าทำอย่างตรงไปตรงมา สุจริต โปร่งใส ตรงไปตรงมา ก็ไม่ต้องกลัวใครจะมาฟ้องหรือตรวจสอบ แต่หากผิดพลาดก็ต้องร่วมกันแก้ไข
ด้านนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวว่า ประชามติเป็นภารกิจประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งคนในและต่างประเทศจับจ้องว่าจะ กกต.จะมีประสิทธิภาพในการดำเนินการหรือไม่ ซึ่งการจัดการออกเสียงประชามติที่มีประสิทธิภาพ คือ การให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติให้มากที่สุดโดยกกต.ตั้งเป้าให้มีผู้ออกมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 เพื่อให้งบประมาณเกือบ 3 พันล้านถูกใช้อย่างคุ้มค่า ไม่ให้ถูกมองว่าผลาญงบแต่ทำอะไรไม่สำเร็จ แม้ในสังคมไทยจะมีไทยเฉยเยอะก็ตาม
“การทำประชามติและการเลือกตั้งแตกต่างกัน เพราะเลือกตั้งเป็นการช่วงชิงอำนาจกัน กกต.ต้องยึดกฎ ระเบียบให้มั่น แต่ประชามติไม่ได้มีใครคนใดคนหนึ่งมีส่วนได้เสียโดยตรง เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องมีส่วนร่วม ออกมาใช้สิทธิออกเสียง บนความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง เพราะเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าการทุจริตในการทำประชามตินั้นไม่มี เพราะมีการออกกฎหมายรุนแรงและในการทำประชามติที่ใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้งนั้นไม่สามารถมีใครมาโกงได้”
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า หลักการสำคัญการทำประชามติ คือ ประชาชนสะดวก เที่ยงธรรม และคุณภาพ แต่ที่สำคัญต้องให้โอกาสคนที่เห็นต่างทั้งสองฝ่าย ได้แสดงความเห็นต่อสาธารณะอย่างเท่าเทียมกัน ไม่เกิดการเอาเปรียบกัน ให้ประชาชนสามารถตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่มีอยู่ ส่วนเอกสารที่ กกต.จะจัดส่งพร้อมหนังสือแจ้งเจ้าบ้านนั้นจะมีด้วยกัน 12 หน้า ระบุกระบวนการขั้นตอนการออกเสียง สรุปย่อสาระสำคัญร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. และข้อดีข้อด้อยของร่างรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายสนับสนุนและคัดค้านเป็นดำเนินการ
“ขอให้ กกต.จังหวัดหาแนวทางอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในวิสัยที่สามารถทำได้ แต่ไม่เป็นลักษณะการชี้นำการ นอกจากนี้จะมีคำแนะนำไปยังฝ่ายต่างๆ ว่าสิ่งใดควรทำและไม่ควรทำ ควรหลีกเลี่ยงในการออกเสียง หากเกิดข้อร้องเรียน ก็อาจจะเป็นความผิดได้ วันนี้มีคนถามตลอดเวลาทั้งฝ่ายการเมืองประชาชนว่าอะไรทำได้หรืออะไรไม่ควรทำ หรือสิ่งใดทำแล้วผิดกฎหมายหรือไม่ผิดกฎหมาย รวมถึง กกต.รุ่นพี่คนหนึ่งก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยด้วยว่า กกต.ชุดผมต้องพูดให้ชัดว่าสิ่งใดทำได้หรือไม่ได้ ซึ่ง กกต.รุ่นน้องพร้อมรับฟังและพร้อมดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ แต่หากรุ่นพี่ไม่บอกเราก็รับฟังอยู่แล้ว”
